เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 29 ก.ย. 2565 ร.ต.อ.ณัฐนันท์ คำสาร รองสว.สอบสวนสภ.เขลางค์นคร ลำปาง พร้อมแพทย์เวรโรงพยาบาลลำปาง เจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยลำปาง เดินทางตรวจสอบถนนเลี่ยงเมือง หน้าสภ.เขลางค์นคร เพื่อร่วมชันสูตรพลิกศพผู้เสียชีวิตหลังรับแจ้งว่าเกิดอุบัติเหตุรถแวนกับรถจักรยานยนต์มีผู้เสียชีวิตหลายราย
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรสภ.เขลางค์นคร ได้นำกรวยมาตั้งอำนวยความสะดวกด้านการจราจร เนื่องจากมีผู้ที่ใช้รถใช้ถนนจำนวนมาก เบื้องต้นพบผู้เสียชีวิตเป็นผู้ชายทั้งสองราย รายแรกเป็นผู้ชายนอนคว่ำหน้าอยู่ร่องกลางถนนห่างไปประมาณ 50 พบศพผู้ชายอายุประมาณ 25 ปี อีก 1 ราย มีนอนหงายเสียชีวิตจมกองเลือดอยู่กลางถนน โดยมีรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟสีแดง-ดำทะเบียน ขจว 636 ลำปาง สภาพท้ายรถมีร่องรอยถูกชนอย่างแรงพังยับเยินล้มอยู่ข้างถนน ส่วนรถคู่กรณีเป็นรถแวนยี่ห้อเชฟโรเลตสีขาวทะเบียน ขต 156 เชียงใหม่ จอดห่างจากจุดเกิดเหตุไปประมาณ 50 เมตร สภาพหน้ารถข้างมีร่องรอยเฉี่ยวชนด้านขวา ส่วนคนขับคือนายกฤตพัส แสนใจบาล อายุ 25 ปี ชาว ต.ชมพุ อ.เมืองลำปาง จ.ลำปาง รอให้การอยู่ที่เกิดเหตุ
จากนั้นทางร้อยเวรสอบสวนสภ.เขลางค์นคร ลำปาง พร้อมแพทย์เวรโรงพยาบาลลำปาง เจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยลำปางทำการชันสูตรพลิกศพ ทราบว่าผู้เสียชีวิตรายแรกไม่พบหลักฐานแสดงว่าเป็นใครมาจากไหนส่วนรายที่สอง ชื่อนายสุพล กาอินต๊ะ อายุ 66 ปี ชาว ต.บ้อแฮ้ว อ.เมืองลำปาง จ.ลำปาง หลังจากนั้นจึงให้ทางเจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยลำปางนำศพไปเก็บไว้ที่โรงพยาบาลลำปางเพื่อติดต่อญาติมารับศพต่อไป
สอบสวนนายกฤตพัส ให้การว่ารถคันที่ประสบเหตุไม่ใช่รถของตนเป็นรถของลูกค้าที่นำมาซ่อมที่อู่ของตนใกล้กับเทศบาลเมืองเขลางค์นคร ก่อนเกิดเหตุตนได้ขับรถของลูกค้าออกมาลองหลังซ่อมเสร็จโดยมีพ่อนั่งมาด้วย โดยขับไปตามถนนเลี่ยงเมืองพอใกล้ถึงสภ.เขลางค์นคร ปรากฏว่ามีรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวขับตัดหน้าตนเบรคไม่ทันจึงชนเต็มแรงจนทั้งคนทั้งรถกระเด็นครูดกับถนนแล้วค่อยประคองรถจอดข้างถนนลงมาดูพบทั้งสองคนเสียชีวิตคาที่ดังกล่าว ส่วนนายสุพล ผู้เสียชีวิต มีคนรู้จักมายืนยืนและให้การว่า ก่อนเกิดเหตุนายสุพล ซึ่งเป็นเจ้าของกิจการรถยกอยู่ในหมู่บ้านเหล่าบุญเกิด ต.พระบาท อ.เมืองลำปาง จ.ลำปาง ได้ขับรถออกจากบ้านกับลูกน้องสองคนเพื่อมาดูรถ คาดว่าพอขับออกจากถนนในหมู่บ้านและเข้าสู่ถนนเลี่ยงเมืองอาจจะไม่ทันระวัง จึงถูกรถแวนชนจนเสียชีวิตคาที่ดังกล่าวแต่อย่างไรก็ตามทางร้อยเวรจะได้สอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
