เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2556 กฟผ.แม่เมาะ โดยแผนกประชาสัมพันธ์โรงไฟฟ้าแม่เมาะ ไก้ นำสื่อมวลชนจังหวัดลำปาง เยี่ยมชมและสัมผัสรถมินิบัส
ไฟฟ้าคันจริง ก่อนรับส่งผู้ปฏิบัติงาน กฟผ.แม่เมาะ ในวันที่ 3 สิงหาคม 2556 เพื่อทดแทนการใช้รถบัสโดยสารดีเซลแบบเดิม คาดช่วยลดมลภาวะ ลดปัญหาด้านการจราจร สนองนโยบายมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน
ของประเทศ เพื่อสื่อสารภารกิจงานสําคัญของ กฟผ.
โดยนายธนภาค พุ่มโกมุท หัวหน้ากองบริหาร นางณิษา ปฐมเรืองกุล ผู้บริหาร จากโครงการแม่เมาะเมืองน่าอยู่ (Mae Moh Smart City) ให้ข้อมูลพร้อมนำชมรถมินิบัสโดยสารไฟฟ้าคันจริงตลอดจนนำเสนอกิจกรรมของโครงการแม่เมาะเมืองน่าอยู่ที่เกี่ยวข้อง อาคารเดอะบล็อกเพื่อส่งเสริมจการท่องเที่ยว เป็นแหล่งจัดจําหน่ายสินค้าชุมชน และจัดแสดงนวัตกรรมเพื่อชุมชนแม่เมาะ ในวันที่ 3 สิงหาคม 2566 จะเป็นวันแรก ที่รถรับส่งผู้ปฏิบัติงาน กฟผ.แม่เมาะ ทั้ง 28 คัน ถูกเปลี่ยนจากรถบัสดีเซลเป็นรถมินิบัสไฟฟ้า ขนาด 31 ที่นั่ง ความยาว 8.5 เมตร อัตราสิ้นเปลืองไฟฟ้าเฉลี่ย 1.2 กม./kWh ระยะ
วิ่งต่อรอบการชาร์จไม่ต่ำกว่า 150 กิโลเมตร
ข่าวน่าสนใจ:
- ผู้ว่าตรังสั่งซ่อมด่วนหลังคาท่าเรือปากเมง หวั่นอันตรายนทท. กระทบภาพลักษณ์จว. ลั่นพร้อมออกเงินส่วนตัว 2.3 หมื่นค่าวัสดุ…
- วัสดุทำกระทงตรังราคาพุ่ง ดาวเรืองขึ้นราคาเท่าตัว ผู้ค้าตลาดเทศบาลนครตรังเงียบเหงา กัดฟันขายราคาเดิมหวั่นกระทบลูกค้า
- คอหวยแห้ว เลขหางประทัดขบวนเรือหลวงพ่อโสธรไม่ปรากฏให้เสี่ยงทาย
- ทุกข์ชาวสวน คนร้ายขโมยตัดปาล์มไม่หยุด หลังปาล์มราคาดี คุณตาวอนลานเทปาล์มอย่ารับซื้อของโจร
โดยเมื่อเปรียบเทียบกับการใช้รถบัสโดยสาร ามันแบบเดิม จะช่วยลดการกีดขวางทางจราจรใน จ าปาง เนื่องจากขนาดรถที่เล็กลง ทั้งยังลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 0.48 กิโลกรัม/กิโลเมตร/คันลดการปล่อยฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 จากการสันดาปของเครื่องยนต์ลงได้ 27 มิลลิกรัม/กิโลเมตร/คัน และประหยัดค่าใช้จ่ายค่าเชื้อเพลิงมากขึ้นเมื่อเทียบกับค่าไฟฟ้านอกจากนี้ยังถือเป็นหน่วยงานแรกของ จ.ลําปาง ที่นำเทคโนโลยีรถไฟฟ้าดังกล่าวมาใช้ในภาคขนส่ง สนับสนุนการก้าวสู่เมืองอัจฉริยะ (Smart City) ของ จ.ล่าปาง อีกด้วย
ทั้งนี้ การดำเนินงานดังกล่าวเป็นหนึ่งในภารกิจสำคัญที่สนองนโยบายมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน(Carbon Neutrality) ประเทศไทย ของ กฟผ. ด้วยการตั้งเป้าลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี ค.ศ. 2065 2070
และตั้งเป้าหมาย เพื่อมุ่งสู่ “EGAT Carbon Neutrality ภายในปี ค.ศ. 2050 ภายใต้หลักการสร้างสมดุลระหว่างต้นทุนในการผลิตไฟฟ้า ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม และความมั่นคงระบบไฟฟ้า
ของประเทศ ตามกลยุทธ์ “Triple S” ได้แก่ 5 – Sources Transformation การจัดการตั้งแต่ต้นกำเนิด ด้วยการ
กำหนดสัดส่วนผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน
โดยบูรณาการนวัตกรรมด้านพลังงานหมุนเวียนให้สามารถผลิต
พลังงานไฟฟ้าได้อย่างต่อเนื่องและมีเสถียรภาพ S – Sink Co-creation การดูดซับเก็บกักคาร์บอนอย่างมีส่วนร่วม
และ S – Support Measures Mechanism กลไกการสนับสนุนโครงการชดเชยและหลีกเลี่ยงการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เป็นรูปธรรม
“อ้างอิงจาก : อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ได้จากการคานวณปริมาณการใช้เชื้อเพลิงต่อกิโลเมตร
un Emission Factor voasoaña: 2.556 kgCO2/L (Ministry of Environment, Victoria, B.C.,November, 2014)
**อ้างอิงจาก : มาตรฐาน Euro4 จํากัดการปล่อย PM2.5 ของรถ Heavy Duty Diesel : 0.027 km (เครือข่าย
การจัดการคุณภาพอากาศของประเทศไทย)
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: