เมื่อวันนี้ 6 ต.ค.66 เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เร่งปฎิบัติงาน เชิงรุก ในการป้องกัน และปราบปราม ผู้รลักลอบ ตัดไม้ทำลายป่า เพื่อเอาพื้นที่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ในพื้นที่ จังหวัดลำปาง ตามคำสั่ง ผบ.ตร.ท่านปัจจุบัน โดยการอำนวยการชอง พล.ต.ต.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผบก.ปทส. พ.ต.อ.ศานุวงษ์ คงคาอินทร์ ผกก.4 บก.ปทส.สั่งการให้ ร.ต.ต.วสุอนันต์ สารีพันธุ์ รอง.สว.(ป.) กก 4 บก.ปทส. หัวหน้าชุดปฏิบัติการที่ 1 ลำปาง ประสานงานกำลังศูนย์ป้องกันและปราบปรามที่ 3 ภาคเหนือ นายเจนายเจษฎา เอนกคณา หัวหน้าสายตรวจศูนย์ป้องกันปราบปรามที่ 3 (ภาคเหนือ) กำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฎิบัติการพิเศษป่าไม้ จังหวัดลำปาง อำนวยการโดย นายสมศักดิ์ สกุลวรรณรักษ์ ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 ลำปาง นายจิตกร ศรีจันทร์ ผู้อำนวยการส่วนป้องกันรักษาป่าและป้องกันไฟป่า สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 ลำปาง เจ้าหน้าที่ หน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ 7 (แม่สอย) ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองปาน และเจ้าหน้าที่ ตำรวจ สภ.แจ้ซ้อน อ.เมืองปาน จ.ลำปาง สนธิกำลังเจ้าตรวจสอบป่าต้นน้ำอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่สุก-แม่สอย เหนือหมู่บ้านบ้านไร่ หมู่ 4 ต.หัวเมือง อ.เมืองปาน จ.ลำปาง
โดยการปฏิติการครั้งนี้เป็นข้อร้องเรียนไปยัง กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ว่ามีอดีตผู้นำชุมชน พื้นที่ ต.หัวเมือง อ.เมืองปาน อาศัยอดีตเคยเป็นผู้นำชุมชน ใช้อำนาจบารมีในการทำลายป่า ป่าต้นน้ำดังกล่าวโดยสภาพเส้นทางไปยังเป้าหมายค่อนข้างลำบากเนื่องจากยังเป็นป่าที่ค่อนข้าวงอุดมสมบูรณ์ และลัดเลาะเชิงเขาไปตลอดเส้นทางโดยจุดเกิดเหตุอยู่ในหุบเขา เบื้องต้นพบว่ามีการแผ้วถางป่าเป็นบริเวณกว้างเข้าไปปในเขามีการสร้างกระท่อมเพิงพักและปลูกพืชผักสวนครัวเพื่อทำกิน นอกจากนี้ยังพบต้นสักขนาดใหญ่ ถูกตัดโค่นซุกซ่อนอำพราง ต้นสักไม้ห้วงห้ามหลากหลายชนิดถูกกาดที่โคนต้นไม้และหยอดยาฆ่าหญ้าเพื่อให้ต้นไม้ยืนต้นตาย แต่ไม่พบตัวผู้กระทำผิด ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตรวจวัดพื้นที่บุกรุกแผ้วถางป่า ทั้งหมด 11 ไร่เศษ อยู่ในพื้นที่เขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่สุก-แม่สอย และเป็นป่าต้นน้ำอีกด้วย
เบื้องต้นไม่สามารถที่จะชี้ตัวผู้กระทำผิดได้เนื่องจากไม่มีพยานคนไหนที่จะชี้ตัวเพื่อที่จะดำเนินคดีแก่ผู้กระทำผิดซึ่งเป็นอดีตผู้นำท้องถิ่นรายหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดทันที่พร้อมไปแจ้งข้อกล่าวหา ที่ สภ.แจ้ซ้อนเพื่อติดตามตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีต่อไป ในข้อหา พรบ.ป่าสงวนแห่งชาติ พรบ.ป่าไม้ และจะแจ้งข้อหาอื่นเพิ่มเติมต่อไป ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ยังได้ลงพื้นที่พบปะชาวบ้านเพื่อให้ชาวบ้านเป็นหูเป็นตาแก่เจ้าหน้าที่อีกทางหนึ่ง ในปกป้องรักษาผืนป่าต้นน้ำไม่ให้ถูกทำลายไปปมากกว่านี้ โดยหากพบเห็นผู้กระทำผิดสามารถร้องเรียนหรือแจ้งไปยังส่วนที่เกี่ยวข้องได้ทันทีโดยข้อมูลจะถูกเก็บเป็นความรับเพื่อความปลอดภัยของผู้ที่แจ้งข่าวสาร
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: