เมื่อวันนี้ที่ 13 ตุลาคม ที่ จ.ลำปาง ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านมะกอกนาบัว ต.ไหล่หิน อ.เกาะคา จ.ลำปาง ซึ่งมีแรงงานไทยไปทำงานที่ประเทศอิสราเอล และกำลังเกิดสงครามสู้รบกันในขณะนี้ โดยมีนายธรรมรักษ์ เชียงพรหม สมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำปางเขต 1 อำเภอเกาะคาและผู้ใหญ่บ้าน เป็นคนนำพาผู้สื่อข่าวไปพบญาติของนายอาทิตย์ วะระ อายุ 40 ปี แรงงานไทยที่ทำงานในอิสราเอล
ก่อนจะพบกับนางบุญถม จินนะการ อายุ 62 ปี ซึ่งเป็นแม่ยายของนายอาทิตย์ และได้เล่านายละเอียดให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า นายอาทิตย์ ลูกเขยพึ่งแต่งงานกับลูกสาวได้ประมาณ 8-9 เดือน ก็เดินทางทำงานเกี่ยวกับงานเกษตรที่ประเทศอิสราเอล ได้ประมาณ 1 ปี 4 เดือน ส่วนรายละเอียดต่างๆ ต้องถามลูกสาวเพราะว่าทั้งสองคนคุยโทรกันทุกวัน จากนั้นนางบุญถมก็โทรหาลูกสาว ซึ่งกำลังทำงานอยู่ในตัวเมืองลำปางและทางนายธรรมรักษ์ เชียงพรหม สมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำปางเขต 1 อำเภอเกาะคาได้สอบถามรายละเอียดจากนางกรรณิกา และให้ติดต่อโทรหานายอาทิตย์สามีที่อยู่อิสราเอล
นางกรรณิกา บอกว่าสามีนั้นทำงานอยู่ทางตอนเหนือของอิสราเอล ห่างจากจุดที่สู้รบกันประมาณ 30 กิโลเมตร ตอนนี้ไม่สามารถติดต่อได้ เนื่องจากสามีบอกว่ากำลังหลบภัยและหลบนายจ้าง เพราะว่านายจ้างให้ออกไปทำงานทั้งที่กำลังมีการสู้รบกัน ยังไงสามีจะติดต่อกลับมาเอง
ตอนนี้ตนเป็นห่วงสามีมาก ได้แต่ภาวนาให้สามีอยู่รอดปลอดภัยอยากให้กลับเมืองไทยไวๆ ใจจริงอยากจะซื้อตั๋วเครื่องบินให้สามีกลับบ้านเรา ด่วนแต่ด้วยปัจจัยหลายอย่าง แต่อย่างไรก็ตามได้ลงทะเบียนชื่อประสงค์กลับเมืองไทยไปแล้วแต่ต้องรอความชัดเจนก่อน
หากเดินทางมาถึงประเทศตนอยากขอให้รัฐบาลและผู้เกี่ยวข้องช่วยเหลือเรื่องสัญญาจ้างการทำงานเพราะว่าสัญญาทำงาน 5 ปี แต่สามีเพิ่งทำงานได้เพียง 1 ปี 4 เดือนเกรงจะเกิดปัญหาภายหลังหากกลับไทย
นางบุญถม จินนะการ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวอีกว่า ตนรักนายอาทิตย์ ลูกเขย เหมือนลูกแท้ๆ เพราะว่าพ่อแม่เสียชีวิตหมดเหลือแต่ญาติพี่น้องเท่านั้น ตนคุยกับลูกสาวว่าหากเป็นไปได้อยากจะซื้อตั๋วเครื่องบินให้ลูกเขยได้กลับบ้านเร็วๆ เพราะอยู่ที่นั่นไม่ปลอดภัย ทุกวันนี้ตั้งแต่เกิดเรื่องราวได้แต่สวดมนต์อธิฐานให้สิ่งศักดิ์ทั้งหลาย ในตำบลไหล่หิน อำเภอเกาะคา ได้ดลบรรดาลให้นายอาทิตย์ลูกเขยแคล้วคลาดปลอดภัย ไม่พบไม่เจอสิ่งเลวร้าย ขอให้กลับบ้านเราไวๆ
