วันที่ 1 มกราคม 2568 เวลา 09.30 น. ที่ห้องประชุมเวียงละกอน ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดลำปาง นายชุติเดช มีจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง มอบหมายให้ นายกฤษณะ พินิจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เป็นประธานการประชุมคณะทำงานประเมินผลการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2568 จังหวัดลำปาง โดยมีคณะกรรมการฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งในระดับจังหวัดและอำเภอ ทั้ง 13 อำเภอ เข้าร่วมประชุมทางออนไลน์ เพื่อรับทราบข้อมูลภาพรวมอุบัติเหตุของประเทศและในพื้นที่จังหวัดลำปาง
ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2568 จังหวัดลำปาง ได้สรุปรายงานสถิติการเกิดอุบัติเหตุทางถนนฯ ช่วงควบคุมเข้มข้น ระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2567 ถึงวันที่ 5 มกราคม 2568 โดยข้อมูลประจำวันที่ 31 ธันวาคม 2567 (วันที่ 5 ของการรายงาน) เกิดอุบัติเหตุ จำนวน 5 ครั้ง บาดเจ็บ จำนวน 7 คน (ชาย 5 คน, หญิง 2 คน) ไม่มีผู้เสียชีวิต และสถิติสะสม 5 วัน (27 – 31 ธันวาคม 2567) เกิดอุบัติเหตุ จำนวน 39 ครั้ง บาดเจ็บ จำนวน 42 คน (ชาย 29 คน, หญิง 13 คน) และเสียชีวิต จำนวน 5 ราย (ชาย 4 ราย, หญิง 1 ราย) (อำเภอเมืองลำปาง 3, อำเภองาว 1, อำเภอเถิน 1) โดยมีสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุสูงสุด คือ ดื่มแล้วขับ ขับรถเร็วเกินกำหนด ตัดหน้ากระชั้นชิด และทัศนวิสัยไม่ดี ตามลำดับ
รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง กล่าวว่า ช่วงนี้ประชาชนเริ่มทยอยเดินทางกลับ ทำให้การจราจรบนถนนสายหลักและสายรอง ค่อนข้างหนาแน่น การารจราจรติดขัด และเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุมากขึ้น จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้และให้ความสำคัญกับด่านครอบครัว ในการตรวจเช็คดูแลบุตรหลานและบุคคลในครอบครัว ก่อนที่จะมีการออกเดินทาง เนื่องจากคืนที่ผ่านมา อาจจะที่มีการเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ร่างกายอาจจะพักผ่อนไม่เพียงพอ หรือมีอาการอ่อนเพลีย ก็ควรจะชะลอการเดินทางไปก่อน เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ เพื่อความปลอดภัยของผู้เดินทาง
นอกจากนี้ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ได้เน้นย้ำให้ด่านตรวจ/จุดสกัด บนถนนสายหลัก ถนนสายรอง และด่านชุมชน ดำเนินดารตามมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนอย่างเข้มข้น อีกทั้ง ให้สำนักงานขนส่งจังหวัดลำปาง เข้มข้นการตรวจความพร้อมของรถโดยสารสาธารณะ พนักงานขับ รวมถึงอุปกรณ์ความปลอดภัยบนรถ ให้สามารถใช้งานได้ในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน การจำกัดชั่วโมงในการขับขี่ การใช้ความเร็วให้เป็นไปตามกฎหมายกำหนด เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารตลอดการเดินทาง
