ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากมีคลิบหลุดในโลกโชเชี่ยลเป็นคลิปวีดีโอของกลุ่มนักเรียนชายมัธยมตอนต้นชั้น ม.3 ของโรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดลำปางประมาณ 8 คน ปิดห้องเรียนแล้วบังคับให้รุ่นน้องชั้น ม.2 นั่งคุกเข่า ก่อนที่รุ่นพี่ที่นั่งตะตบที่ศรีษะ 1 ครั้งและเพื่อนๆ หลายคนพากันรุมทำร้ายทั้งเตะทั้งต่อย ไหว้กราบเท้าขอโทษ พอคลิบหลุดในเฟสบุคซ์ และมีการแชร์คลิบเข้าไปคอมเม้นท์จำนวนมาก ถึงการกระทำที่เกินกว่าเหตุกลุ่มนักเรียนรุ่นพี่ที่ทำร้ายรุมรุ่นน้องความยาว 43 วินาที
ล่าสุดหลังจากยายเด็กนักเรียนคนที่ถูกทำรุมร้ายชื่อนางสม อายุ 52 ปี ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวทั้งน้ำตาว่า ตนทราบเรื่องเห็นคลิบจากหลานสาวข้างบ้าน ซึ่งได้คลิบมาจากญาติที่อยู่ต่างจังหวัดส่งมาให้เมื่อเห็นภาพเป็นหลานชายชื่อ ด.ช.เก่ง อายุ 14 ปี ซึ่งกำพร้าแม่และตนเลี้ยงมาตั้งแต่แบเบาะอายุได้เพียง 6 เดือน ถูกรุมทำร้ายตนแทบเป็นลม เป็นกินไม่ได้นอนไม่หลับกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเหตุเกิดเมื่อประมาณวันที่ 20 มกราคม 2561 ที่ผ่านมาซึ่งหลานชายก็นอนโทรมบอกเพียงว่าปวดตามร่างกายเรื่องจากรถล้มเท่านั้นไม่คิดว่าจะเป็นเช่นนี้
ต่อมานางสมได้เดินทางไปยังโรงเรียนที่เกิดเหตุเพื่อไปพบกับผู้อำนวยการโรงเรียนรวมถึงผู้ปกครองของเด็กที่ก่อเหตุเพื่อเจราจรพูดคุยถึงเรื่องที่เกิดขึ้นซึ่งผลการเจรจา เบื้องต้นผู้ปกครองของเด็กนักเรียนรุ่นพี่ที่ก่อเหตุทั้งหมด 12 คน แยกออก 3 ส่วนคือ เด็กที่รุมทำร้าย 3 คนผู้ปกครองยอมชดใช้ค่าทำขวัญให้คนละ 3,000 บาท ส่วนอีก 9 คน จ่ายให้คนละ 2,000 บาท ตามคลิบว่าใครทำร้ายมากน้อยเท่าไหร่ ซึ่งก่อนที่จะเดินทางไปยังที่โรงพักเพื่อไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานนักเรียนที่ก่อเหตุได้ไปขอโทษยอมรับผิดกับเหตุการณ์กับ ด.ช.เก๋ง ซึ่งตนก็อภัยให้และขอให้จบโดยดีและไม่ให้มาก่อเหตุลักษณะนี้อีก
ด้านผู้อำนวยการโรงเรียนที่เกิดเหตุออกมาเปิดเผยว่า หลังทราบข่าวทางโรงเรียนได้ดำเนินการตามมาตรการของโรงเรียนและครอบครัวของนักเรียนที่ก่อเหตุเป็นครอบครัวที่น่าเอ็นดูสาร มันเป็นอารมณ์ของวัยรุ่นแก้ปัญหาโดยการไม่ยั้งคิดโรงเรียนจึงเรียกเด็กนักเรียนที่ก่อเหตุทั้งหมดมาสอบถามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มที่ลงมือ กลุ่มเฝ้าดู และกลุ่มที่ไม่ได้ลงมืออยู่ในห้องทั้งหมด 12 คน กุลุ่ม 6 คนที่ลงมือตามมาตรการของโรงเรียน คือว่ากล่าวตักเตือนทำทันบนและเข้าค่ายปรับพฤติกรรมให้คำมั่นสัญญาว่าจะไม่กระทำ และเกิดซึ่งเรื่องเช่นนี้ขึ้นอีกซึ่งทางผู้ปกครองเห็นพร้อมต้องกัน อีก3คนว่ากล่าวตักเตือนทำทันบนส่วน 3 คนที่ไม่มีส่วนไม่ลงมือแต่ก็ถือว่าผิด แต่ก็ว่ากล่าวตักเตือนเรียกผู้ปกครองมารับทราบ ส่วนผู้ปกครองเด็กที่ถูกกระทำก็เห็นด้วยพร้อมให้อภัยซึ่งเด็กทั้งหมดนี้เป็นเด็กที่น่าเอ็นดูสงสาร
