เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2562 นายอิศเรศ สิทธิโรจนกุล ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 สาขาลำปาง พร้อม ด้วยนายเดชอนันต์ คำสวน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแม่วะ นายประหยัด จักรแก้ว หัวหน้าสถานีควบคุมไฟป่าแม่วะ ได้จัดประชุมสภากาแฟ Morning Meeting “จิบกาแฟ แก้ไฟป่า” ครั้งที่ 1 ตำบลแม่วะ อำเภอเถิน จังหวัดลำปาง โดยมี หัวหน้าส่วนราชการในอำเภอเถิน นายชาคร ณ ลำปาง หัวหน้าสำนักงาน ปภ.ลำปาง สาขาเถิน นางสิริพร จันทน์เกษร เกษตรอำเภอเถิน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เครือข่าย รสทป. ในตำบลแม่วะ 8 หมู่บ้าน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นำโดย นายก อบต.แม่วะ และ ปลัด อบต.แม่วะ เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ เพื่อพบปะระดมความคิดเห็นสร้างการมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันในพื้นที่ตำบลแม่วะ
นายเดชอนันต์ คำสวน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแม่วะ กล่าวว่า การจัดประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมแบบไม่เป็นทางการเพื่อพบปะสนทนานอกรอบหารือกับผู้นำชุมชนในพื้นที่ตำบลแม่วะถึงการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน ซึ่งถือว่าช่วงนี้ได้เข้าสู่ฤดูหนาวแล้วทำให้อากาศแห้งแล้งจึงต้องหามาตรการป้องกันการเกิดปัญหาดังกล่าวซึ่งอุทยานแห่งชาติแม่วะ ร่วมกับสถานีควบคุมไฟป่าแม่วะ ได้เสนอแนวคิดในการกำหนดพื้นที่ควบคุมการเผาป่าเพื่อไม่ให้เกิดไฟป่าของแต่ละหมู่บ้านที่อยู่รอบแนวเขตอุทยานแห่งชาติแม่วะจำนวน 31 หมู่บ้าน ซึ่งได้ใช้แนวทางเดียวกันกับการแก้ไขปัญหาที่ดินในพื้นที่ป่าอนุรักษ์มาเป็นต้นแบบในการบริหารจัดการ ที่ผ่านมาสาเหตุหลักของปัญหาไฟป่าที่เกิดขึ้นเกิดจากฝีมือคนจึงต้องตัดไฟตั้งแต่ต้นลมในการป้องกันเหตุ ซึ่งทางอุทยานแห่งชาติแม่วะจะได้วางพื้นที่กำหนดแนวเขตควบคุมของแต่ละหมู่บ้านแล้วให้ผู้ใหญ่บ้านได้ไปพูดคุยกับชาวบ้านเพื่อหามาตรการหรือข้อตกลงร่วมกันในการดูแลพื้นที่ที่ได้รับมอบหมายเพื่อร่วมกันดูแลรักษาผืนป่าไม่มีไฟป่าเกิดขึ้น โดยเขตควบคุมดังกล่าวยังจะไปสอดคล้องกับ มาตรา 65 ของ พรบ.อุทยานแห่งชาติ 2562 ฉบับใหม่ที่จะเริ่มใช้วันที่ 25 พฤศจิกายน 2562 ที่จะถึงนี้ เพื่อควบคุมเขตพื้นที่หาของป่าแต่ละหมู่บ้านอย่างถูกกฏหมาย ซึ่งหากชาวบ้านดูแลรักษาพื้นที่ของตนเองเป็นอย่างดีก็จะทำให้ป่ามีความอุดมสมบูรณ์และเข้าไปเก็บของป่าสร้างรายได้ในอนาคตอีกด้วย นอกจากนี้ใน พ.ศ.2563 ตั้งแต่เดือนมกราคม – เมษายน อุทยานแห่งชาติแม่วะจะได้ออกประกาศห้ามเข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติแม่วะ เป็นเวลา 120 วัน
ซึ่งหากชาวบ้านจะเข้าจะต้องแจ้งเจ้าหน้าที่หรือที่ทำการกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และหน่วยพิทักษ์อุทยานที่ใกล้เคียงทุกครั้งเพื่อป้องกันเหตุดังกล่าว ซึ่งหากผู้ใดฝ่าฝืนจะมีโทษดังกล่าวอย่างไรก็ตามพื้นที่การกำหนดแนวเขตที่ได้มอบให้หมู่บ้านนั้นไม่ได้เป็นการเพิ่มภาระให้ชาวบ้านทำหน้าที่เข้าไปดับไฟป่าแต่อย่างใด ซึ่งการดับไฟป่าเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ดูแลรับผิดชอบอยู่แล้วที่จะต้องปฏิบัติงาน แต่ต้องการสร้างจิตสำนึกของชาวบ้านได้ตระหนักถึงปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งทางผู้เข้าร่วมประชุมต่างก็เห็นด้วยและสนับสนุนกับแนวคิดดังกล่าว โดยเฉพาะอบต.แม่วะ ถือว่าเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ก็ได้เห็นชอบกับมาตรการดังกล่าวและเตรียมเงินรางวัลมอบให้กับหมู่บ้านที่ไม่เกิดไฟป่าเพื่อเป็นแรงจูงใจให้ชาวบ้านได้ร่วมมือกันแก้ไขปัญหาดังกล่าว ซึ่งถือว่าเป็นตำบลต้นแบบที่จะนำร่องใช้มาตรการดังกล่าวเพื่อแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันอย่างยั่งยืนและดีกว่าการที่จะระดมกำลังเข้าไปดับไฟป่าซึ่งมีความเสี่ยงต่อชีวิตอีกด้วย
ข่าวน่าสนใจ:
- พะเยา สุดเศร้า!! เจ้าของลูกสุนัขช่วยสุนัขถูกวางยารอด 2 ตาย 3
- หอการค้าไทยมอบ “ผู้ว่าสำเภาทอง” กระตุ้นเศรษฐกิจการค้าท่องเที่ยว พร้อมพัฒนาตลาดอินโดจีนที่ถูกแช่แข็งนาน เกือบ 6 ปี
- ททท.แถลงข่าวกิจกรรม Event Marketing ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬา “แข่งขันวิ่งเทรลไตรบูรพาซีรีย์ 4 สนาม 3 จังหวัดภาคตะวันออก
- สนามเปิดตัวจังหวัดสระแก้ว "วิ่งเทรลไตรบูรพา ซีรีย์ 4 สนาม 3จังหวัดภาคตะวันออก"
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: