นายทุนบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนสร้างสิ่งปลูกสร้างเต็มพื้นที่ก่อนถูกจนท.จับดำเนินคดี
เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2561 เจ้าหน้าที่ตำรวจกก.4 บก.ปทศ.นำโดยพ.ต.อ.พิบูลย์ เวียงจันทร์ ผกก.4 บก.ปทส.,พ.ต.ท.สรรเสริญ ศิริพันธ์ รอง ผกก.4 บก.ปทส., พ.ต.ท.พากษกรณ์ เจนใจ สว.กก.4 บก.ปทส. ฯ ชุดปฏิบัติการสืบสวนปราบปรามประจำจังหวัดลำปาง สายที่ 1 ( เมืองลำปาง) ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 ลำปาง เจ้าหน้าที่ศูนย์ป้องกันและปราบปรามที่ 3 (ภาคเหนือ) กรมป่าไม้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ภ.5 ชุด ศปทศ.เจ้าหน้าที่ทหาร ร้อย รฝ.ที่ 3 (ประตูผา) ได้ร่วมกันจับกุม นายบุญยืน พลอินต๊ะ อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 155 หมู่ที่ 6 ต.ห้วยอ้อ อ.ลอง จ.แพร่ พร้อมตรวจยึดพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่งาวฝั่งขวา ถูกบุกรุก เนื้อที่ จำนวน 6 ไร่ 1 งาน 65 ตารางวา คิดค่าเสียหายของรัฐเป็นเงิน 436,050.-บาท
โดยสิ่งปลูกสร้าง เป็นอาคารสำนักงาน จำนวน 1 หลัง โกดังเก็บพืชไร่ จำนวน 1 หลัง โรงเก็บของ จำนวน 1 หลัง เพิงพัก จำนวน 1 หลังแท้งน้ำ จำนวน 2 แท้งค์เครื่องชั่งน้ำหนัก จำนวน 1 เครื่องก่อนจะนำตัวผู้ต้องหาส่ง พ.ต.ท.ยงศักษ์ มาวงศ์ รองผกก.สอบสวนส.แม่เมาะ ลำปางดพเนินคดีข้อหา”กระทำผิด
พระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตรา ๕๔ ประกอบ ๗๒ ตรี ฐาน “ก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า หรือกระทำด้วยประการใด ๆ อันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือครอบครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต”
ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. ๒๔๙๗ มาตรา ๙ มาตรา ๑๐๘ ทวิ ฐาน “เข้าไปยึดถือ ครอบครอง รวมตลอดถึงการก่นสร้าง หรือเผาป่า ทำด้วยประการใดให้เป็นการทำลาย หรือทำให้เสื่อมสภาพที่ดิน ที่หิน ที่กรวด หรือที่ทราย หรือทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดอันเป็นอันตรายแก่ทรัพยากรในที่ดิน” พระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507มาตรา ๑๔ ประกอบมาตรา ๓๑ ฐาน “ยึดถือ ครอบครอง ทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในที่ดิน ก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า ทำไม้ หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต”
ทั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่รับแจ้งจากสายลับว่าบริเวณ ป่าข้างเส้นทางถนนสายบ้านนาแช่ -บ้านทาน ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่งาวฝั่งขวา ท้องที่บ้านทาน หมู่ที่ 4 ต.จางเหนือ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง มีนายทุนเข้ามาบุกรุกและสร้างสิ่งปลูกสร้างโดยผิดกฏหมาย เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบปรากฏว่ามีการบุกรุกและสร้างสิ่งปลูกสร้างจริงจึงจับกุมผู้ต้องหาพร้อมตรวจยึดก่อนจะนำตัวไปสอบสวนและดพเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
