20 มีนาคม. 2563
ที่กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช นายสมหวัง เรืองนิวัติศัย รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้แถลงถึงการเตรียมความพร้อมในการรับมือกับไวรัสโควิด-19 ซึ่งกำลังเกิดการระบาดอย่างต่อเนื่อง
ประกอบกับที่กระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศให้โรคติดเชื้อโคโรนา 2019 นี้เป็นโรคติดต่ออันตราย กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จึงได้เพิ่มมาตรการควบคุม การแพร่ระบาดเพื่อไม่ให้เกิดการส่งผลกระทบต่อสุขภาพของเจ้าหน้าที่ และประชาชน รวมทั้งนักท่องเที่ยว ซึ่งได้มีการสั่งการให้หน่วยงานทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค เพิ่มมาตรการ การป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด- 19 นี้ โดยในสถานที่ราชการ ได้จัดให้มีการคัดกรองเจ้าหน้าที่ และประชาชนผู้มาติดต่อราชการ โดยการตั้งจุดตรวจเพื่อวัดอุณหภูมิก่อนการเข้ามาติดต่อสถานที่ราชการ รวมถึงการขยายผลให้มีจุดคัดกรองที่อุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เขตห้ามล่าสัตว์ป่า วนอุทยานทุกแห่ง และให้ความรู้เกี่ยวกับการป้องกันและเฝ้าระวังตนเอง บริเวณทางเข้า พร้อมทั้งได้ทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรคในพื้นที่เป็นประจำวันทุกวัน โดยให้ความร่วมมือสนับสนุนการดำเนินการการเฝ้าระวังป้องกันโรคกับหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ หากพบประชาชนที่มีการต้องสงสัยเข้าข่ายอาการโรคดังกล่าวให้ประสานงานหน่วยงานสาธารสุขในพื้นที่โดยเร็ว
สำหรับบุคลากรของหน่วยงานให้ดำเนินการตามมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดอย่างเคร่งครัด โดยไม่อนุญาตหรือไม่อนุมัติห้เดินทางหรือแวะผ่านไปยังประเทศพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคติดต่อ โดยให้พยายามหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังประเทศกลุ่มเสี่ยงตามประกาศของคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อแห่งชาติ จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงหากมีความจำเป็นไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ เมื่อเดินทางกลับมาในประเทศไทยจะต้องให้เฝ้าระวังอาการอย่างใกล้ชิดเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีอาการใดๆ รวมถึงการดูแลสุขภาพอนามัยทั่วไป เพื่อลดความเสี่ยงของการแพร่เชื้อ เช่น การตรวจวัดอุณหภูมิของร่างกาย การล้างมือด้วยแอลกอฮอล์ทุกครั้ง สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา รวมถึงการติดต่อติดตามข่าวสารจากกระทรวงสาสุขอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ได้เพิ่มการเฝ้าระวังราชการ ลูกจ้างประจำ พนักงานราชการ และผู้ปฏิบัติงาน โดยให้มีการตรวจด้วยเครื่องสแกนตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย หากจำเป็นต้องมีการฝึกอบรมประชุมสัมมนาและจัดกิจกรรมที่มีผู้เข้าร่วมจำนวนมาก จะมีการคัดกรองผู้เข้าร่วมกิจกรรม และใช้หน้ากากอนามัย ก่อนเข้าอาคารและจัดให้มีแอลกอฮอล์ล้างมือไว้บริการตามจุดต่างๆ ทั้งในสำนักงานในพื้นที่ที่ผู้มาติดต่อกับบุคลากร
อีกทั้งได้กำชับเจ้าหน้าที่ให้ทุกคนต้องการตัวเองตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข คือดื่มน้ำอุ่นเมื่อรู้สึกกระหาย หลีกเลี่ยงการสัมผัสผู้ป่วย ไม่อยู่ใกล้ชิดผู้ป่วยไอจาม หลีกเลี่ยงการอยู่ในพื้นที่แออัด สวมใส่หน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในพื้นที่ชุมชน ไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น ไม่เข้าไปในตลาดค้าสัตว์ ไม่สัมผัสผู้ป่วยหรือตาย หมั่นล้างมือให้สะอาดด้วยน้ำสบู่ หรือเจลล้างมือ ห้ามรับประทานของดิบ รับประทานอาหารที่สะอาดปลอดภัย นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และหากพบมีอาการไข้ขึ้นอย่างรวดเร็ว ปวดศีรษะ มีอาการไอต่อเนื่องเป็นเวลานาน มีน้ำมูกไหล ให้รีบไปพบแพทย์ หรือโทรแจ้งสายด่วนกรมควบคุมโรค 1422
ทั้งนี้จะสังเกตว่าอุทยานแห่งชาติที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางไปท่องเที่ยวนั้น มีการตั้งจุดคัดกรอง และมาตรการอื่นๆ เมื่อเป็นการเฝ้าระวัง และป้องกันการแพร่กระจายของไวรัสแล้ว เช่นอุทยานแห่งชาตินพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี อุทยานแห่งชาติเจ็ดสาวน้อยเป็นต้น และเพื่อเป็นการควบคุมการแพร่กระจายของไวรัสดังกล่าวนักท่องเที่ยวที่เข้าไปใช้บริการพื้นที่อุทยานแห่งชาติจึงควรให้ความร่วมมือ.
