บรรยากาศในหมู่บ้านศรีเมืองชุม หมู่ 6 และบ้านใหม่พัฒนา หมู่ 8 ตำบลลอ อำเภอจุน จังหวัดพะเยา เป็นไปอย่างเงียบเหงา ไม่ค่อยจะมีรถสัญจรผ่านไปมา ร้านค้าปิดเกือบทั้งหมด ขณะที่ประชาชนอาศัยอยู่ในบ้านพักของตนเอง ภายหลังถูกกำหนดให้เป็นพื้นที่ควบคุมตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน เนื่องจากพบผู้ติดเชื้อโควิด-19ในพื้นที่ดังกล่าวจำนวน 1 ราย
นางปภาดา ธิมาคำ เจ้าของร้านขายของชำบ้านหมู่ 1 ซึ่งติดอยู่กับพื้นที่ดังกล่าว เปิดเผยว่า หลังจากพบผู้ป่วยโควิด ร้านค้าเกือบทั้งหมดในหมู่ที่ 6 และหมู่ 8 ได้ปิดลงเนื่องจากกลัวการแพร่ระบาด และผู้ค้าส่งสินค้าไม่กล้าเข้ามาส่งของในพื้นที่ จะมีเพียงไม่กี่ร้านที่เปิดเพราะเกรงว่าหากปิดร้านแล้วชาวบ้านจะไม่มีที่ซื้อของใช้อุปโภค บริโภค เนื่องจากมีบางส่วนเท่านั้นที่ต้องกักตัวเอง 14 วัน ทั้งนี้ตนเองจะให้ลูกค้าที่มาซื้อของอยู่ห่าง 2 เมตร และจ่ายเงินหรือรับของโดยการวางบนโต๊ะ เพื่อป้องกันการสัมผัสโดยตรง และให้ใส่หน้ากากผ้า หรือหน้ากากอนามัยทุกครั้งเวลามาซื้อสินค้าไม่เช่นนั้นจะไม่ขายให้เด็ดขาด นอกจากนี้ยังไม่มีการขึ้นราคาสินค้าทุกชนิดรวมทั้งไข่ไก่ด้วยเพื่อช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
ด้านนางสาวรัตนา คำยัง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านร่องย้าง เปิดเผยว่า ตั้งแต่ตรวจพบว่ามีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 เจ้าหน้าที่ อสม.ได้ลงพื้นที่เพื่อติดตามผู้ใกล้ชิดผู้ป่วยพบว่ามีจำนวน 11 รายที่มีความเสี่ยงสูง โดยแยกเป็นคนในครอบครัว 4 ราย คนที่เดินทางในรถยนต์มาจากกรุงเทพมหานครคันเดียวกัน 5 ราย และเจ้าหน้าที่ รพ.สต. อีก 2 ราย ซึ่งปัจจุบันกักตัวอยู่ในบ้านของตนเองทั้งหมด ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 6 เมษายน นี อย่างไรก็ตามสิ่งที่เป็นน่าเป็นห่วงมากที่สุดในตอนนี้คืออุปกรณ์ในการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 สำหรับเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องในการเฝ้าระวังและติดตามกลุ่มผู้มีความเสี่ยงทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นแอลกอฮอลล์ล้างมือ หน้ากาก N95 ชุดป้องกันการติดเชื้อ และหน้ากากอนามัย ซึ่งตั้งแต่พบผู้ติดเชื้อยังไม่ได้รับจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแม้ว่าจะเป็นพื้นที่เสี่ยงสูงก็ตาม ไปหาซื้อตามร้านค้าก็ไม่มี มีเพียงโรงพยาบาลจุน ที่แจ้งมาว่าจะส่งชุดป้องกันการติดเชื้อมาให้แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ได้รับแต่อย่างใด
ผอ.รพ.สต. กล่าวต่ออีกว่า บุคลากรที่เกี่ยวข้องต้องหาอุปกรณ์มาดัดแปลงเอาเอง เพื่อป้องกันตนเองจากเชื้อโควิด ซึ่งมีตัวอย่างมาแล้วจากเจ้าหน้าที่ รพ.สต. 2 รายที่อยู่ในข่ายมีความเสี่ยงสูงเนื่องจากสัมผัสผู้ป่วย ยังไม่รวมถึง อสม.และผู้นำชุมชน ที่ต้องลงพื้นที่ทุกวัน เพื่อติดตามและเฝ้าระวังเพราะผู้ป่วยมีประวัติในการเดินทางไปในหลายที่และมีกลุ่มเสี่ยงหลายราย ทั้งนี้หากอยากขอความช่วยเหลือจากประชาชนร่วมบริจาคอุปกรณ์ได้ที่ รพ.สต.บ้านร่องย้าง ได้ตลอดเวลา
