ม.พะเยา นำร่อง ติดตั้งหอฟอกอากาศอัตโนมัติแบบไฮบริด (Hybrid Air Purifier tower) เครื่องที่ 3 ของประเทศ
วันที่ 5 พฤษภาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากปัญหา สภาพอากาศ และฝุ่น PM 2.5ในพื้นที่ภาคเหนือที่มีระดับสูงเกินมาตรฐานซึ่งจะเกิดในช่วงฤดูแล้งของทุกปี ส่งผลกระทบต่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตของนิสิต บุคลากร และประชาชน ที่เข้ามาใช้บริการและใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัยพะเยา โดยสถาบันนวัตกรรมและถ่ายทอดเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยพะเยา และหน่วยวิจัยเพื่อความเป็นเลิศด้านวิศวศึกษาโดยมีชุมชนเป็นฐาน คณะวิศวกรรมศาสตร์ และคณะสาธารณะสุขศาสตร์ ได้ร่วมมือกับศูนย์วิจัยและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน (Research & lnnovation for Sustainbility Center-RISC) โดยบริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น (MQDE) ด้านความร่วมมือทดสอบต้นแบบหอฟอกอากาศอัตโนมัติแบบไฮบริด (Hybrid Air Purifier tower) ภายใต้ชื่อโครงการ “ฟ้าใส รุ่นที่ 2” ซึ่งเป็นหอฟอกอากาศกลางแจ้งผ่านระบบการปล่อยละอองน้ำ เพื่อดักจับฝุ่นขนาด 2.5 ไมครอน และสามารถฟอกอากาศได้เป็นระยะรัศมี 20 เมตร จากหอฟอกอากาศ
รศ.ดร.สุภกร พงศบางโพธิ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยพะเยาได้มอบหมายให้ ดร.ชัชวาล วงค์ชัย ผู้ช่วยอธิการบดี ดูแลการติดตั้งหอฟอกอากาศอัตโนมัติแบบไฮบริด (Hybrid Air Purifier tower) ณ บริเวณลานสนามกีฬากลางแจ้ง มหาวิทยาลัยพะเยา เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 64 โดยได้ทำการลงพื้นที่ พร้อมด้วยทีมงานนักวิจัย เพื่อทดสอบการติดตั้ง และตรวจสอบความเรียบร้อยของหอฟอกอากาศ ผ่านการร่วมมือของนักวิจัยมหาวิทยาลัยพะเยา ผศ.ดร. ธนาทิพย์ จันทร์คง คณะวิศวกรรมศาสตร์ หลักสูตรวิศวกรรมไฟฟ้า และ ดร.ปฎิพัทธ์ วงค์เรือง คณะสาธารณสุขศาสตร์ หลักสูตรอนามัยสิ่งแวดล้อม โดยขนาดหอฟอกอากาศนี้มีขนาด 2.4*2.4*5.1 เมตร โดยหลักการทำงานระบบการกำจัดฝุ่น Jet Venturi Scrubber จะเป็นการพ่นละอองน้ำขนาดเล็กเพื่อดักฝุ่น และมีระบบดูดอากาศจากด้านบนตัวเครื่องผ่านระบบการจัดการฝุ่นและฆ่าเชื้อ และพ่นอากาศที่บริสุทธิ์ได้ในรัศมี 20 ถึง 25 เมตร โดยตัวเครื่องได้ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในการขับเคลื่อน โดยการติดตั้งหอฟอกอากาศเครื่องแรก ในปี 63 ในโครงการ 101 True Digital Park กรุงเทพมหานคร เครื่องที่ 2 บริเวณสถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงค์ มักกะสัน และเครื่องที่ 3 ณ มหาวิทยาลัยพะเยา
ข่าวน่าสนใจ:
การติดตั้งหอฟอกอากาศอัตโนมัติแบบไฮบริด (Hybrid Air Purifier tower) ในครั้งนี้เพื่อเป็นการฟอกอากาศในสถานการณ์ค่าฝุ่น PM 2.5 เกินมาตรฐาน อีกทั้งเป็นแหล่งเรียนรู้และการวิจัยเป็นแหล่งศึกษาและวิเคราะห์ผลกระทบต่อพฤติกรรมและการดำเนินชีวิตของประชาชน พัฒนาให้เป็นแหล่งเรียนรู้ เพื่อสร้างความตระหนักรู้ต่อการดูและสุขภาพในสภาวะฝุ่นควัน ทั้งสร้างภาคีเครือข่ายความร่วมมือในการรับมือในการป้องกันฝุ่น PM 2.5 ในอนาคต โดยผ่านการร่วมมือของสถาบันนวัตกรรมและถ่ายทอดเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยพะเยา ศูนย์วิจัยและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน (RISC) หน่วยวิจัยเพื่อความเป็นเลิศด้านวิศวศึกษาโดยมีชุมชนเป็นฐาน คณะวิศวกรรมศาสตร์ หน่วยวิจัยมลพิษบรรยากาศและการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศมหาวิทยาลัยพะเยา และคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยาต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: