วันที่ 11 พฤษภาคม 2565 ที่ห้องประชุมหมู่บ้านน้ำยวนพัฒนา หมู่ 19 ต.ร่มเย็น อ.เชียงคำ จ.พะเยา ได้มีการประชุมของชาวบ้านโดยมีวาระสำคัญเรื่องการแสดงจุดยืนของชุมชนต่อผลกระทบจากโครงการอ่างเก็บน้ำญวน โดยมีผู้ใหญ่บ้าน คณะกรรมการหมู่บ้าน ชาวบ้านที่จะได้รับผลกระทบ และองค์กรด้านสิ่งแวดล้อม จำนวนกว่า 50 คน เข้าร่วมประชุม
ข่าวน่าสนใจ:
นายเจี่ยวโฝ่ง เต็มศิริมงคล ผู้ใหญ่บ้าน กล่าวว่า โครงการอ่างเก็บน้ำน้ำญวนมีการศึกษามากว่า 10 ปีแล้ว เท่าที่จำได้มีการดำเนินการเรื่องนี้เมื่อปี 2555 ผมในฐานะผู้นำชุมชนได้ติดตามมาอย่างต่อเนื่องและได้เข้าร่วมการประชุมหลายครั้ง ผมก็ยืนยันในที่ประชุมทุกครั้งว่าชาวบ้านน้ำยวนพัฒนาไม่เห็นด้วยกับโครงการนี้ เนื่องจากน้ำจะท่วมที่อยู่อาศัยและที่ทำกินของชาวบ้าน ปลายปี 2564 ที่ผ่านมาได้ทราบข่าวว่ารายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมผ่านคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติและเข้าสู่กระบวนการเริ่มการก่อสร้าง เมื่อทราบข่าวนี้ชาวบ้านก็เข้าไปยื่นหนังสือคัดค้านโครงการกับนายอำเภอเชียงคำ เมื่อมีนาคม 2565 ซึ่งนายอำเภอและหน่วยงานปกครองได้มาลงพื้นที่และรับปากชาวบ้านว่าภายใน 3 เดือน จะให้ชลประทานมาชี้แจงรายละเอียดและขั้นตอนว่าเป็นอย่างไร
หลังจากนั้นรองผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยาได้มาลงพื้นที่เพื่อสอบถามชาวบ้านอีกครั้ง ซึ่งชาวบ้านก็ยืนยันว่าไม่เห็นด้วยกับโครงการ รองผู้ว่าฯ ก็รับปากว่าจะต้องมีการชี้แจง และปรึกษาหารือกันอีกครั้งว่าจะสามารถหาทางออกร่วมกันได้หรือไม่ให้เจ้าของโครงการมาชี้แจงตามกระบวนการ ตอนนี้ชาวบ้านไม่ทราบขั้นตอนและไม่มีรายละเอียดโครงการรวมถึงรายงานผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมที่ชลประทานทำเสร็จไปแล้ว ผมขอยืนยันว่าชาวบ้านไม่เห็นด้วยกับโครงการนี้มาโดยตลอด ทำไมรายงานดังกล่าวจึงผ่านการพิจารณาไปได้ ซึ่งผมตั้งข้อสงสัยมาโดยตลอดว่ารายงานนี้ไม่มีข้อมูลข้อเท็จจริงของพื้นที่ที่ครบถ้วนสมบูรณ์อย่างแน่นอน เพราะไม่เคยมีหน่วยงานหรือผู้ทำรายงานมาลงพื้นที่ ตลอดระยะเวลาที่ผมเป็นผู้ใหญ่บ้านก็ไม่มีผู้ศึกษารายงานแจ้งขอมาทำข้อมูลแม้แต่ครั้งเดียว เราไม่เห็นด้วยกับรายงานชิ้นนี้และต้องยกเลิกรายงานที่ไม่สมบูรณ์นี้ ผมเห็นด้วยกับการพัฒนาถ้าหากจะสร้างอ่างเก็บน้ำไว้เพื่อการพัฒนาด้านการเกษตรต้องมาเริ่มกระบวนการกันใหม่ทั้งหมดอย่างมีส่วนร่วมและต้องไม่กระทบชาวบ้านน้ำยวน
นายนก แสงศรีจันทร์ ชาวบ้าน ผู้มีรายชื่อในเอกสารประชุมชี้แจงโครงการ ที่จะต้องย้ายบ้านเนื่องจากจะถูกน้ำท่วม ร่วมกับชาวบ้านอีก 15 หลังคาเรือน กล่าวว่า ผมไม่เห็นด้วยกับโครงการ ยืนยันว่าจะไม่ย้าย ไม่อพยพ ไม่เอาค่าชดเชย ผมขอสู้คัดค้านโครงการ รายชื่อชาวบ้านจำนวน 16 หลังคาเรือนตามเอกสารที่เคยได้รับมาจากชลประทาน เป็นข้อมูลที่ไม่เป็นจริงเพราะไม่มีรายชื่อชาวบ้าน ที่มีบ้านเรือนอยู่ในระแวกใกล้เคียงและติดกับบ้านของตนเอง ไม่มีในรายงานถ้าบ้านผมถูกน้ำท่วมตามเอกสารที่แจ้งมา บ้านเรือนของชาวบ้านที่อยู่ริมน้ำญวนฝั่งถนนติดแม่น้ำญวนทั้งหมดก็จะถูกน้ำท่วมไปด้วยเช่นกัน เพราะบ้านเรือนตั้งอยู่ใกล้กันและอยู่ในระดับความสูงที่เท่า ๆ กัน ดังนั้นชาวบ้านที่จะถูกน้ำท่วมต้องมีจำนวนมากกว่า 16 รายที่มีในเอกสารอย่างแน่นอน ชาวบ้านจึงไม่เชื่อว่ารายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่ผ่านการพิจารณาจะเป็นความจริง
นายสมศักดิ์ แซ่จ๋าว ชาวบ้าน กล่าวว่า ผมติดตามโครงการนี้มาอย่างต่อเนื่อง ทราบว่าโครงการนี้จะสร้างหัวงานเขื่อนในพื้นที่บ้านสบสา หมู่ที่ 18 ต.ร่มเย็น อ.เชียงคำ จ.พะเยา ตำแหน่งที่ตั้งหัวงานเขื่อนเป็นช่องเขาแคบสร้างกันลำน้ำญวนพื้นที่อ่างเก็บน้ำอยู่ในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าน้ำเปื๋อย ป่าน้ำหย่วน และป่าน้ำลาว พื้นที่บางส่วนอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูซาง ตัวเขื่อนออกแบบเป็นเขื่อนหินทิ้งแกนดินเหนียว ขนาดความจุ 30 ล้านลูกบาศก์เมตร สันเขื่อนสูง 40.2 เมตร ยาว 572 เมตร ระดับน้ำสูงสุด 466.50 ม.รทก.ที่ตั้งโครงการเขื่อนน้ำญวนรวมพื้นที่โครงการทั้งหมด 1,163 ไร่ ประกอบด้วย 1)พื้นที่หัวงานจำนวน 129 ไร่ พื้นที่อ่างเก็บน้ำ 948 ไร่ 3) แนวกันเขตสำหรับก่อสร้างถนนทดแทน 86 ไร่ มูลค่าก่อสร้าง รวม 1,317.39 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้าง 5 ปี
ข้อมูลเบื้องต้นที่ผมทราบคือ มีที่ดินของชาวบ้าน 83 ราย 121 แปลง บ้านเรือนของชาวบ้านน้ำยวนพัฒนา หมู่ 19 จำนวน 22 ครัวเรือนต้องถูกน้ำท่วม ซึ่งเป็นข้อมูลที่เป็นจริงหรือไม่ ยังไม่ทราบได้เนื่องจากชาวบ้านไม่มีเอกสารรายละเอียดโครงการและรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมและด้านอื่นๆของรายงานฉบับสมบูรณ์ ซึ่งต้องเป็นหน้าที่ของชลประทานเอารายงานฉบับนั้นมาให้ชาวบ้านเพื่อดูรายละเอียด ซึ่งผมเชื่อว่าตั้งแต่ขั้นแรกของการจัดทำรายงานชาวบ้านน้ำยวนไม่เคยได้เข้าร่วมในกระบวนการนี้และไม่เคยรู้ข้อมูลรายงาน เราไม่เห็นด้วยกับรายงานนี้และขอให้ยกเลิกรายงาน
นายตาไหน แซ่ย่าง ชาวบ้านผู้มีรายชื่อในเอกสารประชุมชี้แจงโครงการ ที่จะต้องย้ายบ้านเนื่องจากจะถูกน้ำท่วม ผมอายุมากแล้ว อาศัยอยู่บ้านหลังนี้มาทั้งชีวิต ถึงแม้จะเป็นบ้านหลังไม่ใหญ่แต่ก็มีความสุขดีตามวิถีของชนเผ่าเมี่ยน ผมไม่เห็นด้วยกับโครงการและจะไม่ยอมย้ายบ้าน ผมย้ายบ้านไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ไม่ได้แล้วผมอายุมากแล้ว
นางสาว ชนากานต์ เต็มศิริมงคล เราไม่เห็นด้วยกับโครงการ ข้อเสนอของเราคือยกเลิกโครงการ ซึ่งจะต้องยกเลิกรายงานผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมฉบับที่ชลประทานทำเสร็จไปแล้ว เพราะเราไม่เคยได้ร่วมและไม่ถามเราแม้แต่ครั้งเดียว สิ่งที่เรายืนยันมาตลอดคือไม่เอาโครงการ เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาทางชาวบ้านร่วมกันทำประชาคมหมู่บ้าน มีมติประชาไม่เห็นด้วยกับโครงการอ่างเก็บน้ำน้ำญวน หลังจากนี้เราจะทำหนังสือคัดค้านโครงการไปยื่นต่อนายอำเภอ ผู้ว่าราชการจังหวัด ชลประทานพะเยา ส.ส. ธรรมนัส อธิบดีกรมชลประทาน และ รมต.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ การยื่นครั้งนี้ชาวบ้านจะเดินทางไปยื่นด้วยตนเอง และบางส่วนจะส่งจดหมายให้หน่วยงานได้ทราบเหตุผลที่เราไม่เห็นด้วยกับโครงการ หลังจากนั้นเราจะผนึกกำลังชาวบ้านทั้งหมดฟ้องศาลปกครอง ให้ยกเลิกรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นรายงานที่ไม่สมบูรณ์ไม่เป็นความจริง ต่อไป
ในช่วงระหว่างการประชุม ชาวบ้านในหมู่บ้านได้แจ้งต่อที่ประชุมว่ามีหน่วยงานของชลประทานเข้ามาทำการรางวัดที่ดิน เพื่อสร้างเขื่อนบริเวณถนนใกล้ๆหมู่บ้าน ชาวบ้านทั้งหมดในที่ประชุมจึงยุติการประชุมและรวมตัวกันไปขับไล่ คนงานของชลประทาน บรรยากาศที่ชาวบ้านพบกับลูกจ้างของชลประทานที่ดำเนินงานอยู่ มีบรยากาศที่ตึงเครียด ชาวบ้านบางส่วนได้สอบถามคนงานและจำได้ว่าเมื่อ 5 วันก่อน กลุ่มคนงานชุดนี้เป็นชุดเดิมที่ชาวบ้านเคยไล่ออกจากพื้นที่มาแล้ว 1 ครั้ง ในครั้งนั้นคนงานกลุ่มนี้ได้ใช้รถยนต์สีส้มมีเครื่องหมาย ชป 041-2164 ติดด้านข้างตัวรถ เข้ามารางวัดปักหมุดระดับน้ำท่วมของโครงการ ชาวบ้านจึงขอให้กลับไป ห้ามเข้ามาในพื้นที่หมู่บ้านและให้ระงับการดำเนินการไว้ก่อนตามที่นายอำเภอรับปากว่าภายใน 3 เดือนจะให้ชลประทานมาชี้แจงโครงการต่อชาวบ้าน
วันนี้กลุ่มคนงานกลุ่มเดิมยังเข้ามาอีกครั้งโดยใช้รถยนต์ ทะเบียน บห 6255 ลำปาง ไม่มีปรากฏสัญลักษณ์ของชลประทาน เข้ามาทำงานอีกครั้ง จากการสอบถามนายเอ๋ คนขับรถบอกว่าทีมผมมี 6 คน เป็นทีมเดิมที่ถูกชาวบ้านไล่กลับเมื่อ 5 วันที่แล้ว ผมเป็นลูกจ้างที่ต้องทำงานตามที่ชลประทานสั่งให้ทำ โดยมีนายเม็งราช นายช่างสำรวจ ช 4 เป็นหัวหน้าให้มาดำเนินงานในครั้งนี้ นายช่างแจ้งพวกเราแล้วว่าถ้าวันนี้มีชาวบ้านออกมาขับไล่ไม่ให้ดำเนินงานอีกครั้ง จะยุติการดำเนินงานและจะไม่เข้ามาในพื้นที่อีกแล้ว
นายนก แสงศรีจันทร์ กล่าวว่า ชลประทานไม่จริงใจและหลอกชาวบ้านมาโดยตลอด เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าชลประทานไม่รับฟังชาวบ้าน แอบเดินหน้าโครงการและยอมไม่พูดความจริง เราไม่ต้อนรับและจะไม่ให้ความร่วมมือใด ๆ กับหน่วยงานที่ไม่รับฟังเสียงของชาวบ้านอีกต่อไป เราไม่เอาเขื่อน เราไม่ย้าย เราไม่ยอมอย่างแน่นอน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: