เกิดอุบัติเหตุรถยนต์ตู้โดยสารที่นำพระสงฆ์มาจากจังหวัดนครราชสีมา ชนประสานงากับรถบรรทุกเทลเลอร์ บริเวณถนนสายพะเยา-เชียงคำ ในพื้นที่ตำบลดงสุวรรณ อำเภอดอกคำใต้จังหวัดพะเยา เป็นเหตุให้พระสงฆ์มรณภาพหนึ่งรูป พร้อมคนขับและโยมที่เดินทางมาด้วยเสียชีวิตอีก 2 ราย รวมเสียชีวิต 3 ศพ และมีพระสงฆ์และสามเณรได้รับบัตรเจ็บอีก 4 รูป
เจ้าหน้าที่กู้ภัยในพื้นที่อำเภอเมืองและอำเภอดอกคำใต้ ต้องช่วยกันระดมกำลังเข้าทำการช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บรวมทั้ง นำร่างผู้เสียชีวิตออกมาจากตัวรถ หลังอุบัติเหตุรถตู้โดยสาร Toyota สีขาวหมายเลขทะเบียน นค 9135 นครราชสีมา ประสบอุบัติเหตุชนประสานงากับรถบรรทุกเทเล้อร์ หมายเลขทะเบียน 70 -8432 เชียงราย พ่วง 70-5676 เชียงราย บริเวณถนนสายพะเยา-เชียงคำ ในพื้นที่หมู่ที่ 5 ตำบลดงสุวรรณ อำเภอดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา เป็นเหตุให้ผู้โดยสารที่เดินทางมากับรถตู้คันดังกล่าว ซึ่งมีพระสงฆ์ 3 รูป สามเณร 2 รูป คนขับรถตู้และโยมที่เดินทางมาด้วย รวม 7 ชีวิต ซึ่งจากการเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบได้มีพระสงฆ์มรณภาพ 1 รูป ทราบชื่อต่อมาคือพระน้อม ช่วยงาน (นมกาโร ) อายุ 60 ปี วัดป่าสมบัติเจริญธรรมมาราม ตำบลกุดโบสถ์ อำเภอเสิงสาง จังหวัดนครราชสีมา และมี ผู้เสียชีวิตอีก 2 ราย ซึ่งเป็นคนขับและโยมที่เดินทางมาด้วย นอกจากนั้นยังมีพระสงฆ์และสามเณร ที่เดินทางมากับรถตู้คันดังกล่าว ได้รับบาดเจ็บ อีก 4 รูป คือ ราย พระสัญญา อ่อนเปล พระพีรพล พลนอก พระมนัส สอนผู้ สามเณรก้องวิทย์ บึ๊กสันเทียะ ซึ่งทั้งหมดเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลดอกคำใต้
ซึ่งจากการสอบถามนายลำไย พรมเทียน อายุ 47 ปีบ้านเลขที่ 46/1 หมู่ 2 ตำบลบ่อทอง อำเภอทองแสนขัน จังหวัดอุตรดิตถ์ ผู้ขับขี่รถบรรทุกเทเลอร์ ระบุว่า รถตู้คันดังกล่าวได้วิ่งสวนทางมาด้วยความเร็วสูง และคาดว่าน่าจะหลับใน เพราะก่อนเกิดเหตุได้ขับส่ายไปมา ตนเองเห็นแล้วพยายามที่จะเบรคแต่รถตู้คันดังกล่าวยังคงพุ่งตรงมาในเลนท์ตนเอง จึงได้ทำการหักหลบแต่ไม่ทันจึงเป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุดังกล่าว
โดยจากการสอบถามเบื้องต้นกับผู้ที่โดยสารมากับรถตู้คันดังกล่าว ทราบว่า พระสงฆ์ทั้ง 5 รูปมาจาก วัดป่าสมบัติเจริญธรรมมาราม ตำบลกุดโบสถ์ อำเภอเสิงสาง จังหวัดนครราชสีมา รวมทั้งคนขับ และญาติโยมที่เดินทางมาด้วย จะเดินทางมาพบกับพระซึ่งอยู่ในพื้นที่จังหวัดพะเยาและมาทำบุญในพื้นที่จังหวัดพะเยา แต่มาประสบอุบัติเหตุจนทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
