มนุษย์ไฟฟ้ายะลา ยื่นหนังสือคัดค้านแปรรูป กฟภ.3 จชต. เป็น บ.อาร์พีเอส ถึงนายกรัฐมนตรี ผ่าน ศอ.บต. ระบุ มีแต่ผลกระทบต่อผู้ใช้ไฟ กว่า 5 แสนครัวเรือนในพื้นที่
จากกรณีที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ได้ออกหนังสือเลขที่ กฟผ.910000/45142 ลงวันที่ 8 พฤษภาคม 2561 ที่มีข้อความโดยสรุปว่า จะมีการบริหารจัดการกิจการด้านพลังงานในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีข้อเสนอแนวทางการบริหารจัดการใหม่ ที่มีแนวโน้มว่าจะมีการแปรรูป การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นบริษัท RPS เข้าดำเนินการกิจการด้านพลังงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งทำให้เจ้าหน้าที่และพนักงานของการไฟฟ้าในพื้นที่ เกิดความไม่สบายใจ รวมทั้งทาง สหภาพแรงงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคภาคใต้เขต 3 ได้เรียกประชุมด่วน เพื่อกำหนดท่าทีในเรื่องดังกล่าว ตามข่าวที่ได้เสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2561 เวลา 10.00 น. ที่ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) นายสมชาย อักษรภักดิ์ ประธานสหภาพแรงงาน กฟภ.ภาคใต้ เขต 3 พร้อมด้วยพนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดยะลา จำนวนกว่า 100 คน เดินทางมายื่นหนังสือคัดค้านการแปรรูป ให้แก่นายกิตติ สุระคำแหง รองเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อนำเสนอข้อเรียกร้องดังกล่าวส่งไปยัง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ระงับการแปรรูป การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นบริษัท RPS โดยข้อเรียกร้องแสดงให้เห็นถึงปัญหา และผลกระทบ ต่อผู้ใช้ไฟในพื้นที่ ในอนาคต
นายสมชาย อักษรภักดิ์ ประธานสหภาพแรงงาน กฟภ.ภาคใต้ เขต 3 เปิดเผยว่า ในวันนี้ทางการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ได้ดำเนินการพร้อมกันทั้ง 74 จังหวัด รวมทั้งในส่วนของกรุงเทพมหานคร โดยยิ่นหนังสือผ่านศูนย์ดำรงธรรมในแต่ละจังหวัด ไปยังท่านนายกรัฐมนตรี เพื่อที่จะสื่อ หรือขอคัดค้าน โดยแนบรายชื่อพนักงานการไฟฟ้าทั้ง 74 จังหวัด ที่คัดค้านการแปรรูป ซึ่งสิ่งที่คัดค้านคือ ไม่ต้องการให้มีการตัดตั้งบริษัท RPS ขึ้นมา ประเด็นการโอนผู้ใช้ไฟฟ้าประมาณ 5 แสนรายไปอยู่กับบริษัท RPSที่ดูแลพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งพนักงานทุกคนไม่เห็นด้วย หลังจากนี้ก็จะมีภาคประชาชนเข้ามาร่วมต่อต้านแน่นอน เพราะขณะนี้ชาวบ้านยังไม่ทราบว่าจะต้องไปอยู่กับบริษัท RPS จริงหรือไม่ รัฐบาลได้มีการสอบถามชาวบ้านแล้วหรือยังว่าจะให้ไปอยู่กับบริษัท ซึ่งหากผู้ใช้ไฟทั้ง 5 แสนกว่าครัวเรือน ย้ายไปอยู่ใน RPS ที่คาดว่าจะจดทะเบียนตั้งขึ้นมาภายในปลายปีนี้ ในวันนั้นถ้ารัฐบาลโอนหุ้นไปให้ RPS โดยมีเครือข่ายวิสาหกิจชุมชน ถือหุ้นใหญ่ และเมื่อบริษัท ได้รับโอนหุ้นไปแล้ว บริษัทก็ต้องหวังผลกำไร ในขณะที่ ที่ผ่านมา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประสบปัญหาขาดทุน และรัฐบาลในวันนั้นก็ไม่มีสิทธิไปยุ่งในส่วนของบริษัท เนื่องจากโอนให้ไปแล้ว เรื่องการใช้ไฟฟรี 50 หน่วย ไฟสาธารณะ ส่วนลดค่าไฟให้กับหน่วยกำลังทหาร ตำรวจ ในพื้นที่ การขยายเขตการใช้ไฟฟ้า เมื่อต้องไปอยู่กับเอกชน ในเรื่องเหล่านี้ก็จะมีต่อหรือไม่ ในเมื่อบริษัทขาดทุน จะดำเนินการอย่างไร
“ส่วนการจะสร้างโรงไฟฟ้าอีก 120 เมกกะวัตต์ มีการศึกษาผลกระทบแล้วหรือไม่ ที่เราเห็นตัวอย่างที่ชัดเจนที่ จ.ร้อยเอ็ด ที่ชาวบ้านโดนกันมา เพราะมีโรงไฟฟ้าใกล้กัน 3 แห่ง ชาวบ้านต้องแบกรับมลพิษ นักเรียนต้องใส่หน้ากากกันฝุ่นไปโรงเรียน นี่คือปัญหา ซึ่งควรจะนำปัญหาเหล่านี้มาศึกษากันก่อน ทุกวันนี้ในพื้นที่ ไม้ที่จะนำมาผลิตไฟฟ้าที่โรงไฟฟ้าชีวะมวล ก็มีไม่เพียงพอ และถ้าต้องขึ้นโรงไฟฟ้าอีก 120 เมกกะวัตต์ จะเอาไม้มาจากไหน ที่ผ่านมามีการไปซื้อไม้มาจาก จ.กระบี่ มาผลิต ราคาไม้ที่นำมาผลิตจากตันละ 800 ก็ขึ้นมาเป็น พันกว่าบาท ในอนาคตถ้ามีการแข่งแย่งวัตถุดิบ ต้นทุนก็จะสูงขึ้น ถามว่าบริษัทจะทำอย่างไร ก็หนีไม่พ้นต้องขึ้นค่าไฟแน่นอน และเมื่อขึ้นค่าไฟ ชาวบ้านก็ไม่มีสิทธิ์ เพราะบริษัทผูกขาดเรื่องไฟฟ้า จึงขอนำเรียนไปยังท่านนายกรัฐมนตรีว่า หากจะตั้งบริษัท RPS ก็ตั้งไป แต่อย่าเอาผู้ใช้ไฟ 5 แสนกว่าครัวเรือนไปอยู่ด้วย” นายสมชาย กล่าว
ประธานสหภาพแรงงาน กฟภ.ภาคใต้ เขต 3 ยังกล่าวอีกว่า สิ่งที่พนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคในพื้นที่อยากเห็นก็คือ การออกมาชี้แจงให้เข้าใจ ไม่ใช่ปล่อยเรื้อรังมาแบบนี้ อยากรู้ว่ารัฐบาลจะเดินต่อในเรื่องบริษัท RPS อย่างไร ไม่อยากให้ปิดหูปิดตาประชาชน ถ้าดูจากแผนแล้ว พบว่าเดือนมิถุนายน จะลงนาม เอ็มโอยู เดือนกันยายน เข้า ครม. และจัดตั้ง RPS ในเดือนธันวาคม ปีนี้ ที่มองว่าเร่งรีบไปหรือไม่ อยากให้ออกมาชี้แจงเพื่อความสบายใจ ซึ่งหากยังไม่ได้มีการตอบรับข้อเรียกร้องของทางสหภาพแรงงานฯ ก็จะมีมาตรการกดดันต่อไป แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าจะเดินหน้าเรียกร้องในลักษณะใด
