สูญกว่า 20 ล้าน แม่ค้าขายปลาตลาดสดยะลากว่า 20 ราย ถูกสาวแสบหลอกร่วมลงทุน แห่แจ้งความจับเครือข่ายมาดำเนินคดี
เมื่อวันที่ 18 ต.ค. 61 เวลา 15.00 น. ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองยะลา นายสันติ สุพรวดี ปลัดอำเภอเมืองยะลา ผู้แทนจากศูนย์ดำรงธรรมอำเภอเมืองยะลา และนางกาญจนา ทองแก้วบัว อายุ 39 ปี แม่ค้าขายปลาในตลาดสดพิมลชัย นำกลุ่มแม่ค้าในตลาดพิมลชัยรวมกว่า 20 คน ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการถูกนางปราณี ก้งทั่น ชาวจังหวัดพัทลุง พร้อมพวกรวม 5 คน หลอกให้ร่วมลงทุนขายส่งปลาสด ซึ่งมีมูลค่าความเสียหายกว่า 20 ล้านบาท เดินทางมาแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองยะลา เพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรม โดยมีพันตำรวจเอกประวิทย์ ช้อเส้ง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองยะลา ชี้แจงให้คำแนะนำในการดำเนินดคี
นางกาญจนา ทองแก้วบัว อายุ 39 ปี ตัวแทนแม่ค้าขายปลาในตลาดสดพิมลชัย ที่ได้รับความเสียหาย เปิดเผยว่า ในวันนี้เดินทางมาแจ้งความดำเนินดคีกับกลุ่มบุคคลจำนวน 5 คน ที่มาหลอกให้แม่ค้าขายปลาในตลาดร่วมลงทุนซื้อปลาสดจากภาคกลาง มาขายในพื้นที่ โดยตนเองขายเนื้อปลาอยู่ในตลาด ซึ่งกลุ่มบุคคลกลุ่มนี้ก็จะระดมทุนจากแม่ค้าปลาหลายๆราย รายละ 2 แสน 3 แสน บางราย 1 ล้าน 2 ล้าน 4 ล้าน ก็มี ซึ่งในช่วงแรก ก็ได้ปลามาขาย ทางกลุ่มบุคคลนี้ ก็อ้างว่า ไม่ได้รับเงินจากแม่ค้าหลายคน ก็จะต้องให้ลงทุนเพิ่มไป โดยอ้างเหตุผลมากมายจนหลงเชื่อ และเมื่อจ่ายเงินให้ไป ก็ไม่ได้รับของตามที่สัญญากันเอาไว้ ตนเองก็เกิดความสงสัย จึงได้ไปถามแม่ค้าด้วยกัน ก็ทราบว่า หลายคนก็โดนเช่นเดียวกับตนเอง รวมๆแล้วตนเองลงเงินไปล้านกว่าบาท แล้วก็ไม่ได้กลับคืน จึงได้ปรึกษากันว่าจะมาแจ้งความ
“ล่าสุดเมื่อเช้าคนที่หลอกเงินไปก็ได้โทรมาเคลียร์กับทุกคนว่า อย่ามาแจ้งความ ถ้าใครไม่มาแจ้งความ เขาก็จะจ่ายเงินคืนให้ แต่ถ้าใครไปแจ้งความเขาจะไม่คืนเงินให้ คนที่โดนโกงมีมากกว่า 20 คน แต่ละคนก็หลักแสนทั้งนั้น และตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าเจ้าตัวหนีไปไหนแล้ว จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามตัวมาดำเนินคดี เพราะที่ผ่านมาเคยทวงเงินแล้ว เขาก็รับปากว่าจะคืน แต่ก็ไม่เคยได้ ในช่วงแรกที่ตนเองยอมลงทุนด้วย ก็เพราะว่าพอลงทุนไป ก็มีของมาให้ขายจริง แต่เงินต้นไม่ได้คืน ได้คืนแค่กำไร บางวันกำไร 5 พัน แต่ให้แค่ 3-4 วัน ก็ต้องลงเงินใหม่อีก วันนี้จึงรวมตัวกันมาแจ้งความเพื่อขอความช่วยเหลือจากตำรวจ” นางกาญจนา กล่าว
ตัวแทนแม่ค้าขายปลาตลาดพิมลชัยรายนี้ ยังกล่าวอีกว่า ยังมีแม่ค้าอีกหลายรายที่โดนเช่นนี้ แต่ไม่มีหลักฐานในการโอนเงิน หรือหลักฐานในการจ่ายเงิน และส่วนหนึ่งที่ไม่มา ก็เพราะว่า มีการโทรไปเคลียร์ไม่ให้มาแจ้งความแล้วจะคืนเงินให้ หลายคนก็เลยกลัวว่าจะไม่ได้เงินคืน ความเสียหายทั้งหมดตนเองเชื่อว่าไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท โดยเหตุการณ์ที่ถูกหลอกนี้ ระยะเวลาประมาณ 4-5 เดือน ซึ่งกลุ่มแม่ค้าจะแจ้งความข้อหาฉ้อโกง ถึงแม้ว่าจะได้เงินคืนหรือไม่ได้ ก็อยากจะให้คนอื่นรับรู้แล้วจะไม่โดนคนกลุ่มนี้หลอกอีก
ด้านพันตำรวจเอกประวิตร ช้อเส้ง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองยะลา เปิดเผยว่า สำหรับแนวทางการช่วยเหลือชาวบ้านเรื่องนี้ ทางพนักงานสอบสวนก็จะรับคำร้องทุกข์ รับแจ้งความจากผู้เสียหายทุกราย รวมทั้งสอบปากคำผู้เสียหายทุกราย เพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน และเมื่อรวบรวมพยานหลักฐานแล้ว พนักงานสอบสวนก็จะรีบดำเนินการเรียกตัวผู้ต้องหา ตามหมายเรียก ซึ่งหากไม่มาตามหมายเรียกก็จะออกหมายจับ และดำเนินการจับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป ซึ่งคดีนี้ตนเองเชื่อว่าไม่ได้ซับซ้อนมาก เนื่องจากผู้ต้องหามีตัวตน และมีที่อยู่ชัดเจน ทางพนักงานสอบสวนก็จะเร่งรัดในการดำเนินคดี เพื่อให้ผู้เสียหายได้รับความเป็นธรรมมากที่สุด ส่วนผู้เสียหายท่านใดที่ยังไม่เดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์ ก็ให้เดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์ได้ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองยะลา ได้ตลอด 24 ชม. โดยพนักงานสอบสวนจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด ในคดีนี้ และตนเองจะเป็นผู้ควบคุมดูแลคดีนี้ด้วยตนเอง ซึ่งจะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย
