กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า แจงคืบหน้า เจ้าหน้าที่เข้าบังคับใช้กฎหมายจับกุมและวิสามัญคนร้ายในพื้นที่ บ้านชะเมาสามต้น และบ้านบือแนบาแด อ.สายบุรี จ.ปัตตานี
จากกรณีเหตุการณ์เจ้าหน้าที่สนธิกำลัง 3 ฝ่าย เข้าพิสูจน์ทราบและบังคับใช้กฎหมายกับกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงที่เข้ามาหลบซ่อนในพื้นที่ บ้านชะเมาสามต้น ตำบลเตราะบรอน และ บ้านบือแนบาแด ตำบลกะดุนง อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี และได้เกิดการยิงต่อสู้กันขึ้นกับเจ้าหน้าที่เป็นเหตุให้กำลังพลบาดเจ็บ 3 นาย ผู้ก่อเหตุรุนแรง เสียชีวิต 2 ราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2564 เวลา 06.30 น.
ล่าสุด วันนี้ ( 6 กรกฎาคม 2564) เวลา 09.00 น. พันเอก เกียรติศักดิ์ ณีวงษ์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2564 เวลา 06.30 น. เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการขยายผลจากแหล่งข่าวหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี สืบทราบว่ามีกลุ่มคนร้ายเข้ามากบดานในพื้นที่จึงได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่สนธิกำลัง 3 ฝ่าย เข้าพิสูจน์ทราบและบังคับใช้กฎหมาย ในพื้นที่ป่าละเมาะ บ้านชะเมาสามต้น ตำบลเตราะบรอน อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี โดยกลุ่มคนร้าย เมื่อตรวจพบว่าเจ้าหน้าที่ได้ปิดล้อมเข้ามา จึงได้เปิดฉากใช้อาวุธปืนยิงใส่ เพื่อเปิดทางหลบหนี โดยกลุ่มคนร้ายได้หลบหนีเป็น 2 ชุด ชุดแรกเข้าไปหลบซ่อนอยู่ใน โรงเรียนเอกชนสอนศาสนามะอูฮัดซูบูลูซซาลาม บ้านชะเมาสามต้น หมู่ที่ 5 ตำบลเตราะบอน อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี ส่วนอีกชุดหลบหนีเข้าไปในป่า ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดที่พักของกลุ่มคนร้ายได้ ซึ่งมีการกางเต็นท์ 2 จุด มีอุปกรณ์สนาม อาหารแห้ง รองเท้าแตะ และยังพบซองกระสุนปืนอาวุธสงคราม รวมทั้งยังพบรอยเลือดหยดเป็นทาง คาดว่าคนร้ายน่าจะได้รับบาดเจ็บขณะยิงต่อสู้เพื่อเปิดทางและหลบหนีเข้าไปซ่อนตัวภายในบ้านดังกล่าว
ทั้งนี้หลังจาก พลโท เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 /ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้รับรายงานเหตุการณ์จึงได้กำชับหน่วยหน่วยให้ดำเนินการตามขั้นตอน โดยใช้กำลังเท่าที่จำเป็นจากเบาไปหาหนัก และเชิญผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำศาสนาพื้นที่ รวมทั้งญาติของผู้ก่อเหตุรุนแรง เกลี่ยกล่อม ให้ยอมเข้ามอบตัว และให้มีการปฏิบัติอย่างรัดกุม แต่กลุ่มคนร้ายยังคงหลบซ่อนภายในโรงเรียนเอกชนสอนศาสนามะอูฮัดซูบูลูซซาลาม และได้ขว้างระเบิดใส่เจ้าหน้าที่ ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 3 นาย ประกอบด้วย
1. สิบตำรวจเอก ธงชัย ศรีสวัสดิ์ ผู้บังคับหมู่ สังกัด กองกำกับการ 3 กองบังคับการสนับสนุนทางอากาศ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน โดนสะเก็ดระเบิดขาด้านซ้าย,บริเวณหลังมือขวา,ซ้ายโครงด้านขวา และท้ายทอย
2. อาสาทหารพราน วิโรจน์ ภัยชำนาญ รองผู้บังคับชุดปฏิบัติการ สังกัด กองร้อยทหารพรานที่ 4309 โดนแรงอัดจากระเบิด อาการเบื้องต้นแน่นหน้าอกและมีอาการหูอื้อข้างขวา (รอเข้าห้องเอ็กซเรย์)
3. สิบตำรวจโท ธีรณัฐ นิตยวิมล ชุดปฏิบัติการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี มีแผลถลอกเหนือคิ้ว 2 เซนติเมตร บาดเจ็บที่ขาข้างขวาข้อเท้ากระแทกพื้นบวมปวดไม่ผิดรูปรู้สึกตัวดีไม่มีแผลเปิด
ภายหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้เข้าพิสูจน์ทราบ พบผู้ก่อเหตุรุนแรงเสียชีวิต จำนวน 2 ราย หนึ่งในนั้น คือ นายคูไมดี รีจิ อายุ 33 ปี ข้างศพพบ อาวุปืน AK-47 จำนวน 1 กระบอก ภูมิลำเนา หมู่ที่ 2 ตำบลละหาร อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี พฤติกรรม : เป็นผู้ก่อเหตุรุนแรงระดับปฏิบัติการ มีหมายจับ ป.วิอาญา จำนวน 2 หมาย ที่สำคัญคือคดีปล้นร้านทองสุธาดา ในพื้นที่ อำอภอนาทวี จังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2562 และเคยถูกควบคุมตัว 3 ครั้ง ซึ่งการควบคุมตัวครั้งล่าสุด ได้ส่งดำเนินคดีและหนีการประกันตัว จนมายิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ จนเสียชีวิตในเหตุการณ์ดังกล่าว ส่วนอีกหนึ่งรายตรวจพบเสียชีวิตพร้อมด้วยปืนพกสั้นขนาด 9 มม. ข้างตัว จำนวน 1 กระบอก ยังรอการพิสูจน์อัตลักษณ์ของเจ้าหน้าที่ ซึ่งจะได้แจ้งให้ทราบต่อไป
ส่วนในพื้นที่ บ้านบือแนบาแด ตำบลกะดุนง อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี เจ้าหน้าที่ได้ทำการปิดล้อมตั้งแต่ เวลา 06.30 น. ของวันที่ 5 กรกฎาคม 2564 และกระชับวงล้อมเข้าไปจนตรวจพบที่พักพิงพร้อมอุปกรณ์เครื่องใช้จำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ได้ใช้สุนัขดมกลิ่นเข้าพิสูจน์ทราบ กลุ่มคนร้ายที่หลบซ่อนภายในวงล้อมเห็นดังนั้นจึงได้ใช้อาวุธสงครามยิงใส่ ทำให้สุนัขได้รับบาดเจ็บบริเวณใบหู ขณะนี้ยังคงปิดล้อมเป้าหมาย ซึ่งคาดว่ามีผู้ก่อเหตุรุนแรงหลบซ่อนอยู่ประมาณ 6 – 7 คน สำหรับความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป
ทั้งนี้ ขอให้พี่น้องประชาชนได้มีความมั่นใจในมาตรการการควบคุมพื้นที่และบังคับใช้กฎหมายของ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ซึ่งได้ดำเนินการติดตามในทุกคดีที่เกิดขึ้น ด้วยความระมัดระวังโดยใช้มาตรการจากเบาไปหาหนักแล้วก็ตาม แต่กลุ่มคนร้ายได้เปิดฉากยิงใส่ก่อน จึงจำเป็นต้องตอบโต้ จนนำไปสู่ความสูญเสียดังกล่าวรวมทั้ง ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่โทรเข้ามาแจ้งเบาะแสให้แม่ทัพภาคที่ 4/ ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ทราบโดยตรง หากพบเห็นสิ่งผิดปกติ หรือบุคคลต้องสงสัยเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ สามารถแจ้งได้ที่หมายเลขโทรศัพท์สายตรงแม่ทัพภาคที่ 4 หมายเลข 061 – 173 – 2999 หรือเบอร์สายด่วน 1341 และหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: