ผบช.ภ.9 แถลงข่าวจับยาบ้า-ไอซ์ พร้อมของกลาง พบหากส่งออกไปถึงประเทศที่ 2 ที่ 3 ได้ อาจมีมูลค่าถึง 1,000 ล้านบาท
วันนี้ (19 กพ.67) ที่ ศูนย์ปฎิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า เขตเทศบาลนครยะลา อ.เมืองยะลา จ.ยะลา พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบช.ภ.9 , พล.ต.ต.นิตินัย หลังยาหน่าย รอง ผบช.ภ.9 , พล.ต.กรกฎ ภู่โชติ รอง กอ.รมน.ภาค 4 สน. , นายวิชัย เพชรรักษ์ ผอ.สำนักบังคับกฏหมาย ปปส.ภาค 9 , และ พ.ต.ท.พิรยุทธ ห่อเพชร สว.กก.สส.2 บก.สส.จชต./หน.ชปส.บก.สส.จชต. หัวหน้าชุดจับกุม ได้มีการแถลงข่าวการจับกุมและตรวจยึดยาบ้าจำนวน 1,000 เม็ด และยาไอซ์อีกจำนวน 210 กิโลกรัม โดยเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2567 จนท.ได้ทำการจับกุม นายอรรคเดช หรือลี โคตรสมบัติ อายุ 22 ปี ที่อยู่ 8 หมู่ที่ 7 ต.มะรือโบตก อ.ระแงะ จ.นราธิวาส พร้อมด้วยของกลาง ยาบ้า จำนวนทั้งหมด 1,000 เม็ด เหตุเกิด ในพื้นที่บ้านกูแบบาเดาะ ซอยไชยา 2 หมู่ที่ 7 ต.มะรือโบตก อ.ระแงะ จ.นราธิวาส และได้ทำการยึดทรัพย์สินตามประมวลกฎหมายยาเสพติด ฯ เพื่อตรวจสอบ จำนวน 4 รายการ มูลค่าประมาณ 1.8 ล้านบาท
ต่อมาได้ทำการสืบสวนขยายผลเพื่อทำลายเครือข่าย และเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567 สามารถทำการจับกุมผู้ต้องหาได้เพิ่มเติม จำนวน 2 คนที่บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 155 ริมถนนทางหลวงสาย 42 ปัตตานี – นราธิวาส ต.ละหาร อ.สายบุรี จ.ปัตตานี คือ นายอันวา หรือเปาะเอะ สาแม อายุ 34 ปี ที่อยู่ 5/1 หมู่ที่ 3 ต.เฉลิม อ.ระแงะ จ.นราธิวาส และนายมูฮำหมัดยูสมิง หรือ มิน ดือแม อายุ 24 ปี ที่อยู่ 15/1 หมู่ที่ 13 ต.กะลุวอเหนือ อ.เมืองนราธิวาส จ.นราธิวาส พร้อมของกลาง ยาไอซ์ น้ำหนักรวมประมาณ 210 กิโลกรัม รถยนต์บรรทุกพ่วง จำนวน 1 คัน โทรศัพท์มือถือพร้อมซิมการ์ด จำนวน 4 เครื่อง โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนไฮโดรคลอไรด์ หรือไอซ์) อันมีลักษณะเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และเป็นการทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไปโดยผิดกฎหมาย
พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบช.ภ.9 กล่าวว่า พฤติการณ์ในการจับกุมกล่าวคือ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.2 บก.สส.จชต. ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหาร ฝ่ายปกครอง และ สำนักงาน ป.ป.ส.ภาค 9 ทำการสืบสวนติดตามจับกุมเครือข่ายนักค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งมีพฤติการณ์ร่วมกับเครือข่ายนักค้ายาเสพติดในพื้นที่ภาคเหนือ และเครือข่ายนักค้ายาเสพติดในประเทศเพื่อนบ้านทำการลักลอบลำเลียงยาเสพติดชนิดไอซ์ จากพื้นที่ภาคกลาง
มาส่งจำหน่ายให้กับเครือข่ายในพื้นที่ภาคใต้ และส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน มีลักษณะเป็นเครือข่ายค้ายาเสพติดข้ามชาติ ในการนี้ได้ทำการตรวจยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด เพื่อดำเนินการตามประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ.2564จำนวน 7 รายการ มูลค่าประมาณ 5 ล้านบาท สำหรับบุคคลในเครือข่ายที่ร่วมกระทำผิดอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติศาลออกหมายจับและดำเนินการตามกฏหมายต่อไป
พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตามนโยบายรัฐบาลให้มีการปราบปรามยาเสพติดอย่างจริงจัง โดยให้ถือเป็นวาระแห่งชาติซึ่งในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นแหล่งแพร่ระบาด เป็นจุดพักยาและเป็นเส้นทางลำเลียงไปสู่ประเทศเพื่อนบ้าน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ กอ.รมน.ภาค 4 ได้ระดมสรรพกำลังเพื่อขับเคลื่อนนโยบายในการแก้ปัญหายาเสพติดอย่างจริงจังต่อเนื่อง
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า หากมีการส่งต่อไปยังประเทศมาเลเซียจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเป็น2 เท่า หากส่งต่อไปยังฮ่องกงจะมีมูลค่าสูงขึ้นเป็น4เท่า และหากถูกส่งต่อไปถึงประเทศออสเตรเลีย จะมีมูลค่าสูงถึง1,000ล้านบาท
