ตัวแทนชาวบ้านร้องสื่อขอความช่วยเหลือ หลังถูกโฆษณาชวนเชื่อลงทุนซื้อที่ดิน สูญเงินกว่า 11 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2562 นายนูรอาหมัด หะยีอาแว อยู่บ้านเลขที่ 37 ถ.รวมวิทย์ ต.เบตง อ.เบตง จ.ยะลา ได้เดินทางมาร้องเรียนขอความช่วยเหลือกับสื่อมวลชน หลังจากเมื่อช่วงปลายปี 2552 ที่ผ่านมา ได้ถูกมูลนิธิแห่งหนึ่งในจังหวัดยะลา โฆษณาชวนเชื่อให้ชาวบ้านร่วมกันซื้อที่ดิน เพื่อสร้างศูนย์ดะวะห์ ในพื้นที่ ต.ตาเซ๊ะ อ.เมือง จ.ยะลา แต่เมื่อเวลาผ่านมาถึงปัจจุบันเป็นเวลาเกือบ 10 ปีแล้ว ก็ไม่ได้มีการก่อสร้างแต่อย่างใด โดยพื้นที่ดังกล่าวประมาณ 1.800 ไร่ และได้มีการแบ่งที่ดินออกเป็น 7,000 ห้อง และจำหน่ายในราคาห้องละ 50,000 บาท
นายนูรอาหมัด หะยีอาแว ผู้แทนชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ กล่าวว่า แรกเริ่มของเรื่องนี้เขามีความคิดที่จะซื้อที่ดินเพื่อที่จะสร้างศูนย์ดะวะห์แห่งประเทศไทย แต่ครั้งแรกจะสร้างที่ปัตตานี แต่ไม่สามารถหาที่ดินแปลงใหญ่ไม่ได้ แต่ก็ได้ที่ดินบริเวณตำบลตาเซ๊ะ อ.เมืองยะลา และเจ้าของที่ดินก็จะขาย ทางมูลนิธิ จึงได้มีการระดมทุนจากชาวบ้าน 3 จังหวัด จนสามารถระดมทุนมาได้กว่า 350 ล้านบาท และจ่ายค่าที่ดินไปประมาณ 280 ล้าน ซึ่งก่อนที่จะมีการซื้อขายนั้น ก็มีการเชิญชวน โฆษณาชวนเชื่อบอกว่า ลงทุน 50,000 บาท ได้ที่ดิน 1 ห้อง กว้าง 5 เมตร ยาว 20 เมตร และหลังจากครบ 1 ปี ใครมีความประสงค์จะขายคืนทางมูลนิธิรับซื้อคืนในราคาเท่าตัวคือ 1 แสนบาท จึงทำให้ระดมทุนได้เร็วขึ้น และตั้งแต่ปี 2552 จนถึงปัจจุบัน ชาวบ้านที่ต้องการที่จะเอาเงินคืน ก็พยายามไปแจ้งและต่อรอง บางรายก็บอกว่าไม่เอากำไรแล้ว ขอเพียงเงินต้นคืน เพราะมีหลายคนที่ต้องขายทรัพย์สินเพื่อนำเงินมาซื้อที่ดินบริเวณนี้ และในช่วงปี 2558 ทางมูลนิธิได้แจ้งมายังชาวบ้านว่า สามารถให้เงินคืนกับผู้ที่จะขายที่ดินคืน และมีชาวบ้านประมาณพันกว่าคนมายื่น ตนเองได้ลำดับที่ 705 จำนวน 221 ห้อง เป็นเงินประมาณ 11 ล้านบาท แต่ปรากฏว่าไม่ได้ ไม่มีชาวบ้านรายใดได้ จนถึงวันนี้ก็พยายามร้องเรียนไปยังหลายหน่วยงาน ไม่ว่าจะเป็นศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ศูนย์ดำรงธรรมของศอ.บต. และอีกหลายหน่วยงาน ที่มีการตั้งคณะกรรมการเพื่อแก้ปัญหานี้โดยตรง แต่ก็ไม่มีอะไรคืบหน้า ไม่มีหนังสือสรุปใดๆ
“ตนเองจึงได้ไปปรึกษา ดีเอสไอ ก็รับเรื่องไว้ แล้วจะดำเนินการให้ มีการสอบปากคำเมื่อวันที่ 15 พย 61 จนถึงวันนี้ก็ยังไม่มีคำตอบ ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนจากเรื่องนี้เป็นจำนวนมาก ฝากให้ฝ่ายรัฐบาล มอบหมายให้หน่วยงานใดก็ตาม ที่สามารถแก้ไขปัญหาตรงนี้ได้ ทุกวันนี้ชาวบ้านที่จ่ายเงินไปแล้วก็ไม่ได้มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินแต่อย่างใด” นายนูรอาหมัด กล่าว
