ยะลา – ช้างป่าเหยียบชาวบ้านถ้ำทะลุดับ 1 ราย ในขณะที่นายอำเภอบันนังสตา เร่งประสานอุทยานแห่งชาติบางลาง และกำชับ เจ้าหน้าที่ ผู้นำหมู่บ้าน เฝ้าระวัง
เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 60 เวลา 07.30 น.นายชัยวัฒน์ อินอ่อน ปลัดอำเภอบันนังสตา ได้รับแจ้งจาก ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ต.ถ้ำทะลุ อ.บันนังสตา ว่า มีชาวบ้านถูกช้างป่าเหยียบจนเสียชีวิตภายในสวนยางพารา จึงได้นำกำลัง อส.พร้อมด้วย ชุด ชรบ.และผู้ใหญ่บ้านเข้าตรวจสอบ โดยจุดเกิดเหตุที่ขนำในสวนยางพารา ม.5 บ้านตังกะเด็ง ต.ถ้ำทะลุ อ.บันนังสตา ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ นายเสาร์ สมยศ อายุ 75 ปี อยู่บ้านเลขที่ 112/1 ม.5 ต.ถ้ำทะลุ อ.บันนังสตา สภาพศพนอนเสียชีวิต อยู่ข้างขนำภายในสวนยาง
จากการตรวจสอบบริเวณโดยรอบของขนำ พบรอยเท้าของช้างป่า จำนวนหลายรอย จึงเชื่อว่าเมื่อคืนที่ผ่านมา มีโขลงช้างป่าลงมาจากเทือกเขา และได้เข้ามาที่ขนำของ นายเสาร์ สมยศ ก่อนที่นายสมยศ จะถูกช้างป่า ทำร้ายจนเสียชีวิต เจ้าหน้าที่ที่เข้าตรวจสอบจึงได้ช่วยกันนำศพผู้เสียชีวิต ออกจากจุดที่เกิดเหตุ เพื่อนำส่งโรงพยาบาลบันนังสตา ให้แพทย์ได้ทำการชันสูตรอีกครั้ง
ทั้งนี้เหตุการณ์ช้างป่า ทำร้ายชาวบ้านจนเสียชีวิต ในพื้นที่ จ.ยะลา นับเป็นครั้งที่ 2 หลังจากที่ล่าสุด มีช้างป่าทำร้ายชาวบ้านใน อ.เบตง เสียชีวิต เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา
นายธราวุธ ช่วยเกิด นายอำเภอบันนังสตา เปิดเผยว่า ในเบื้องต้นนั้น ช้างป่าดังกล่าว เป็นโขลงช้างป่า ที่อาศัยอยู่ในภูเขาแถบอำเภอบันนังสตา และ อำเภอธารโต ซึ่งยังคงปรากฏให้เห็นในการเข้ามาบุกรุกหากินในพื้นที่ทางการเกษตรของชาวบ้าน แม้ว่าก่อนหน้าที่จะมีมาตรการขั้นต้นในการผลักดันช้างกลับเข้าไปในป่าแล้วก็ตาม จนได้เกิดเหตุมาทำร้ายชาวบ้าน ซึ่งกรีดยางอยู่ในสวนยางพาราจนเสียชีวิต
“โดยมาตรการขั้นต่อไปหลังจากนี้ จะเร่งดำเนินการประสานกับทางอุทยานแห่งชาติบางลาง และป่าไม้ในพื้นที่ พร้อมกับ เจ้าหน้าที่ อส.ประจำตำบล ผู้นำชุมชน ให้เข้าทำการชี้แจงทำความเข้าใจกับชาวบ้านในพื้นที่เสี่ยงภัยจากช้างป่า เนื่องจากชาวบ้านมีอาชีพในการกรีดยาง ต้องให้มีการเพิ่มความระมัดระวังตัวมากขึ้น” นายอำเภอบันนังสตา กล่าว
นายธราวุธ กล่าวอีกว่า สำหรับมาตรการระยะยาวนั้น อาจจะต้องมีการสร้างโปงตามแนวเขตป่า ที่จะไม่ทำให้ช้างเข้ามาหากินเขตพื้นที่ทางการเกษตรของชาวบ้าน โดยจะต้องมีการหารือร่วมกับหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาในระยะยาวต่อไป
ทั้งนี้ มีรายงานว่า ช้างป่าโขลงดังกล่าวนั้น คาดว่าน่าจะเป็นช้างป่า โขลงเดียวกับที่ข้ามพรมแดนตามแนวป่าไทย-มาเลเซีย ที่บ้าน กม.7 ต.คีรีเขต อ.ธารโต ซึ่งได้หนีปัญหาการเปิดป่าสัมปทานไม้ของประเทศเพื่อนบ้าน มาหากินในฝั่งพื้นที่ประเทศไทย และชาวบ้านใน ต.คีรีเขต อ.ธารโต ก็ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาช้างป่า ที่เข้าหากินทำลายพืชสวนเป็นจำนวนมาก ในห้วงเดือนที่ผ่านมา
