ปัตตานี – กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ชี้แจงเหตุผลและแนวทางในการเข้าจัดกิจกรรมในโรงเรียนตาดีกา
เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา 14.00 น. ที่ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พันเอก ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า ตามที่กลุ่มด้วยใจ และองค์กรเครือข่าย ได้มีจดหมายข่าวร้องเรียนกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า และหน่วยที่เกี่ยวข้อง เรื่องการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ทหารในโรงเรียนตาดีกา โดยกล่าวหาว่าเป็นการกระทำที่เข้าข่ายการละเมิดสิทธิเด็กและความเกี่ยวพันของเด็กในความขัดแย้งกันด้วยอาวุธ และพร้อมกันนี้ได้เผยแพร่หนังสือดังกล่าวผ่านสื่อต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งอาจทำให้สังคมมีความเข้าใจที่ไม่ถูกต้องในสาระสำคัญ
ทางกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอชี้แจงในเรื่องดังกล่าวว่า การจัดเจ้าหน้าที่เข้าไปในสถานศึกษา มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเข้าใจกับผู้บริหารสถานศึกษา ครูผู้สอน และสร้างภูมิคุ้มกันให้นักเรียนผ่านกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้เห็นถึงอัตลักษณ์ของความเป็นชาติไทย เช่น การใช้ภาษาไทย การทำกิจกรรมหน้าเสาธง การร้องเพลงชาติ เป็นต้น
นอกจากนี้ยังทำการส่งเสริมและสนับสนุนให้เด็กและเยาวชนยอมรับการอยู่ร่วมกันภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรม โดยไม่ทำลาย อัตลักษณ์อันดีงามของท้องถิ่น ทั้งนี้เพราะในห้วงเวลาที่ผ่านมาได้มีการตรวจพบบุคคลบางกลุ่ม ได้แอบแฝงเข้าไปปลูกฝังความคิดความเชื่อที่ผิดๆ ในสถานศึกษา ที่นำไปสู่การสร้างความเกลียดชังและใช้ความรุนแรงในปัจจุบัน
“กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้กำหนดแนวทางในการเข้าไปพบปะพัฒนาสัมพันธ์และทำกิจกรรมในโรงเรียนด้วยความระมัดระวังและไม่กระทบต่อการเรียนการสอน โดยให้หลีกเลี่ยงการพกพาอาวุธในขณะที่ทำกิจกรรมกับเด็กนักเรียน ทั้งนี้จะต้องมีการแจ้งให้ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้นำศาสนาในพื้นที่ทราบก่อนเข้าปฏิบัติงานทุกครั้ง ผลจากการปฏิบัติที่ผ่านมา ทำให้สามารถสร้างความเข้าใจและความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันของบุคลากรครูผู้นำศาสนา ผู้นำท้องถิ่นและผู้ปกครอง รวมทั้งสร้างการยอมรับในการอยู่ร่วมกันภายใต้ความหลากหลายมากยิ่งขึ้น
สำหรับเหตุการณ์ตามที่ได้ร้องเรียนนั้น ได้ตรวจสอบแล้ว ยอมรับว่าเจ้าหน้าที่อาจมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมจริง โดยได้พกพาอาวุธในขณะทำกิจกรรม ซึ่งแม่ทัพภาคที่ 4 ได้สั่งการให้หน่วยเข้าไปสร้างความเข้าใจกับผู้บริหารสถานศึกษา พร้อมกับเน้นย้ำให้ปฏิบัติตามแนวทางที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด” โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 สน. กล่าว
พันเอกปราโมทย์ ยังกล่าวอีกว่า ผลจากการเข้าไปพบปะพัฒนาสัมพันธ์และจัดกิจกรรมในโรงเรียนตาดีกา ตลอดห้วงเวลาที่ผ่านมา สามารถยืนยันได้อย่างชัดเจนว่า เป็นการปฏิบัติภายใต้อำนาจหน้าที่ตามกฎหมายของประเทศไทย โดยไม่มีการละเมิดสิทธิเด็กและความเกี่ยวพันของเด็กในความขัดแย้งกันด้วยอาวุธ
ทั้งนี้เพราะปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ มิใช่เป็นพื้นที่ขัดแย้งด้วยอาวุธ หรือพื้นที่สงครามตามที่กล่าวอ้างและยกระดับแต่อย่างใด จึงขอให้กลุ่มด้วยใจและองค์กรเครือข่าย เคลื่อนไหวด้วยความบริสุทธิ์ใจ โดยไม่มีนัยยะอื่นแอบแฝงด้วยการช่วยกันต่อต้านกลุ่มที่ใช้สถานศึกษาปลูกฝังเด็กให้เข้าสู่วงจรความรุนแรง จึงจะถือเป็นการปกป้องสิทธิเด็กอย่างแท้จริง มิเช่นนั้นอาจทำให้สังคมเกิดความเคลือบแคลงสงสัยว่าเป็นผู้ให้การสนับสนุนให้มีการใช้ ความรุนแรงเช่นเดียวกับอีกหลายๆ กลุ่ม ที่ปรากฏให้เห็นในปัจจุบัน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: