ผู้การยะลา เรียกพนักงานสอบสวน สภ.ยะหา นำโดรน-หลักฐาน คดียิง M79 ใส่ฐาน ชคต.บาโงยซิแน ที่ตรวจยึดมาตรวจสอบ
จากกรณีที่เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนเครื่องยิงลูกระเบิดชนิด M79 ยิงใส่ฐานปฏิบัติการ ชุดคุ้มครองตำบล (ชคต.)บาโงยซิแน บ้านลีมาปูโล๊ะ หมู่ที่ 3 อ.ยะหา จ.ยะลา จำนวน 2 ลูก เป็นเหตุให้ จนท.อส.ชคต. ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 2 นาย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 15 พค 61 ที่ผ่านมา ซึ่งภายหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ อส.ที่ประจำอยู่ในฐานปฎิบัติการ ได้ให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ก่อนหน้าจะเกิดเหตุ 2-3 วัน เวลาประมาณ 03.00 น. พบเห็นอากาศยานไร้คนขับ หรือ โดรน ไม่ทราบที่มา บินวนเวียนอยู่บริเวณโดยรอบฐาน ตามข่าวที่ได้เสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 18 พ.ค. 61 เวลา 11.00 น. ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา พลตำรวจตรีกฤษฎา แก้วจันดี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา พร้อมด้วย พันตำรวจเอกนรินทร์ บูสะมัญ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา ได้เรียก พนักงานสอบสวน สภ.ยะหา พร้อมอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน ที่เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจยึดจากบ้านเลขที่ 63/1 ม.3 บ.ลีมาปูโร๊ะ ต.บาโงยซิแน อ.ยะหา จ.ยะลา ซึ่งเป็นบ้านของ นางคอรียะ สะดียามู เมื่อวันที่ 17 พค 61 ที่ผ่านมา มาทำการตรวจสอบ ซึ่งพบว่า อากาศยานไร้คนขับลำดังกล่าว เป็นยี่ห้อ DJI Phantom3 Advance พร้อมรีโมทบังคับ และอุปกรณ์ต่างๆ และได้ส่งให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องส่งไปตรวจสอบ หาพยานหลักฐานว่า จะเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตามข้อสงสัยหรือไม่
พลตำรวจตรีกฤษฎา แก้วจันดี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา เปิดเผยว่า สำหรับความคืบหน้ากรณีเหตุการณ์ดังกล่าวนั้น หลังเกิดเหตุตนได้มอบมายให้ พ.ต.อ.นรินทร์ บูสะมัญ รอง ผบก.ภ.จว.ยะลา เข้าตรวจที่เกิดเหตุ ดูพยานหลักฐาน และตรวจสอบข้อเท็จจริงทุกประการ ซึ่งยืนยันว่าเป็นการใช้เครื่องยิงลูกระเบิด เอ็ม 79 ยิงใส่ จากนั้นเมื่อวานที่ผ่านมา (17พค) ตนเองได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.สุวัตต์ วงษ์ไพบูลย์ รอง ผบก.ภ.จว.ยะลา อีกท่าน เข้าประสานกับท่านนายอำเภอยะหา รวมทั้งฝ่ายเจ้าหน้าที่ทหาร ในพื้นที่ ต.บาโงยซิแน ได้รับการยืนยันว่า ในวันเกิดเหตุ ไม่มีการใช้โดรนบิน ก่อนที่จะเกิดเหตุ แต่ก่อนหน้านั้นประมาณ 3-4 วัน มีเจ้าหน้าที่พบเห็นโดรนขึ้นบินจริง จึงได้มีการประชุมรวบรวมข้อมูลข่าวสาร จนเป็นที่แน่ชัดแล้วว่า มีประชาชนรายหนึ่งในพื้นที่ใกล้จุดเกิดเหตุ มีโดรน ไว้ในครอบครอง และใช้บิน เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าทำการตรวจสอบ และตรวจยึดเอาไว้ตรวจสอบ รวมทั้งตรวจยึดอาวุธปืนพกสั้นจำนวน 1 กระบอก เอาไว้ตรวจสอบด้วย
“ขอเรียนให้พี่น้องประชาชนทราบว่า ในวันเกิดเหตุที่เข้าใจกันว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุใช้โดรนบินมาก่อนที่จะก่อเหตุนั้น ไม่เป็นเรื่องจริง แต่อาจจะมีการใช้โดรนบินก่อนเกิดเหตุ 3-4 วัน ซึ่งอยู่ในระหว่างตรวจสอบ ทั้งนี้ตนเองก็ขอให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ หากพบเห็นการใช้โดรนในพื้นที่ ให้แจ้งไปยังหน่วยทหาร หรือตำรวจ เพื่อทางเจ้าหน้าที่จะได้แนะนำให้ไปขึ้นทะเบียน และใช้ให้ถูกกฎหมาย และขอประชาสัมพันธ์ว่า หากมีการใช้โดรน โดยฝ่าฝืนกฎหมาย ท่านแม่ทัพภาค 4 ก็ได้ให้แนวนโยบายในการปฎิบัติมาแล้ว” ผบก.ภ.จว.ยะลา กล่าว
พลตำรวจตรีกฤษฎา ยังกล่าวอีกว่า ในเบื้องต้นผู้ที่ครอบครองโดรน ได้ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ว่า โดรนลำดังกล่าวเป็นของสามี ซึ่งได้เดินทางไปทำงานที่ประเทศอินโดนีเซีย ตั้งแต่วันที่ 12 พค 61 ที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ประสานข้อมูลการเดินทางจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า มีการเดินทางออกนอกประเทศตามที่กล่าวอ้างหรือไม่
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: