X

TAT เดินเกม Movie Marketing “ธี่หยด2” ต่อยอดท่องเที่ยว

ททท. เดินเกม Movie Marketing สนับสนุนภาพยนตร์ “ธี่หยด 2” ต่อยอดนำเสนอเสน่ห์ของเมืองน่าเที่ยวจังหวัดอุตรดิตถ์ กับแนวคิด “ธี่เที่ยว ธี่กิน ของดีธี่อุตรดิตถ์” ชวนเดินทางตามรอยรับสุขทันที ที่เที่ยวไทย

กรุงเทพฯ – การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ให้การสนับสนุนโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวผ่านภาพยนตร์ “ธี่หยด 2” เพื่อใช้ภาพยนตร์เป็นเครื่องมือใน การเผยแพร่เสน่ห์เมืองน่าเที่ยว อัตลักษณ์แห่งวัฒนธรรม วิถีชีวิตท้องถิ่นและแหล่งท่องเที่ยวของประเทศไทย เปลี่ยนเสียงเพรียกแห่งความหลอนเป็นทริป ท่องเที่ยวตามรอยภาพยนตร์ นำเสนอเมืองน่าเที่ยวของภาคเหนือ “จังหวัดอุตรดิตถ์” โลเคชั่นของเนื้อเรื่อง กับแนวคิด “ธี่เที่ยว” “ธี่กิน” ของดี “ธี่” อุตรดิตถ์ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ สอดรับแคมเปญ “สุขทันที ที่เที่ยวไทย” พร้อมต่อยอดกิจกรรมเพื่อสังคม CSR ตามแนวคิด Sustainable Tourism ร่วมกับนักแสดงในเดือนพฤศจิกายนนี้ เพื่อตอกย้ำความตั้งใจในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวสู่ความสมดุล แข็งแรงและยั่งยืน

นายนิธี  สีแพร รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด ททท. กล่าวว่า ททท. มุ่งส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยโดยใช้เสน่ห์ไทย เป็น Highlight Product ในการนำเสนอเอกลักษณ์ความเป็นไทย วิถีชีวิต ภูมิปัญญาท้องถิ่น และศิลปวัฒนธรรม เป็นจุดขายและพัฒนาต่อยอดเป็นเมนูประสบการณ์ทรงคุณค่าเพื่อดึงดูดและสร้างแรงบันดาลใจแก่นักท่องเที่ยว และหนึ่งในมิติที่สามารถต่อยอดกับมิติการท่องเที่ยวเชื่อมโยงไปสู่รูปแบบการท่องเที่ยวต่าง ๆ ได้อย่างมีนัยสำคัญและชัดเจน คือ อุตสาหกรรมภาพยนตร์

โดยปีนี้อุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยมีความโดดเด่นและเติบโตอย่างก้าวกระโดด ภาพยนตร์ไทยหลายเรื่องประสบความสำเร็จและเดินทางไปคว้ารางวัลระดับโลกมาประดับอุตสาหกรรมได้อย่างน่าชื่นชม สะท้อนถึงศักยภาพของบุคลากรในแวดวงที่มีความเชี่ยวชาญ มีความคิดสร้างสรรค์ นำเสนอมุมมองที่แปลกใหม่ สามารถมัดใจผู้ชมและเป็นที่ยอมรับในระดับโลก ทั้งยังกลายเป็นไวรัลในโซเชียลจนเกิดกระแสฟีเวอร์ในวงกว้าง และเป็นแรงขับเคลื่อนให้ประชาชนท่องเที่ยวตามรอยภาพยนตร์ ซึ่งตอบโจทย์สำคัญด้านการท่องเที่ยว

ททท. จึงเห็นโอกาสดำเนิน กลยุทธ์ MOVIE Marketing ต่อยอดมิติท่องเที่ยว โดยใช้ภาพยนตร์เป็นเครื่องมือในการเผยแพร่และถ่ายทอดเสน่ห์ไทย คือ อัตลักษณ์แห่งวัฒนธรรม วิถีชีวิตท้องถิ่นและแหล่งท่องเที่ยวของประเทศไทย รวมทั้งสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของการท่องเที่ยวไทย นำไปสู่การออกเดินทางตามรอยภาพยนตร์ในพื้นที่เมืองหลักและเมืองน่าเที่ยวต่าง ๆ ทั่วประเทศ

สำหรับภาพยนตร์ “ธี่หยด” ภาพยนตร์แนวสยองขวัญที่สร้างกระแสทั้งก่อนและหลังเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ทั้งในแง่ของเนื้อหาและรายได้ที่ทะยานสูงสุดถึง 500 ล้านบาท จากการเข้าฉายในกลุ่มประเทศทวีปเอเชีย อาเซียน และ กลุ่มประเทศ CIS กว่า 20 ประเทศ และการกลับมาของ “ธี่หยด 2” ครั้งนี้ เชื่อมโยงกับมิติท่องเที่ยวผ่านการนำเสนอเมืองน่าเที่ยว “จังหวัดอุตรดิตถ์” ในฐานะโลเคชั่นของเนื้อเรื่องในภาพยนตร์ ซึ่งจะถ่ายทอดและสอดแทรกเรื่องราวของความเชื่อ วัฒนธรรม และวิถีชีวิตของท้องถิ่น

โดย ททท. ได้ให้การสนับสนุนการถ่ายทำภาพยนตร์ในพื้นที่ สนับสนุนด้านการประชาสัมพันธ์ รวมไปถึงความร่วมมือในการดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคม CRS ร่วมกับนักแสดง ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2567 ททท. ตั้งใจออกแบบกิจกรรมที่ สอดแทรกแนวคิดการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (Sustainable Tourism) โดยนำเสนอกิจกรรมการดูแลรักษาป่าและสิ่งแวดล้อม และการบริจาคสิ่งของจำเป็นแก่โรงเรียนในชนบท ควบคู่กับการนำเสนอวัฒนธรรมท้องถิ่นในแนวคิด “ธี่เที่ยว ธี่กิน ของดี “ธี่” อุตรดิตถ์ และยังคงไว้ซึ่งความหลอนแบบเต็มสตรีม

ชวนล้อมวงฟัง ตำนานสุดลึกลับของเมืองลับแล ไปกับ The Ghost Radio เพื่อส่งมอบ การท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์ (Experience Based Tourism) ที่มีคุณค่าและความหมายแก่ผู้ร่วมกิจกรรม และเพื่อมุ่งหวังให้ภาพยนตร์เข้ามาเป็นกลไกสำคัญในการสร้างแรงกระตุ้นเชิงรุกให้กับแคมเปญส่งเสริมตลาดในประเทศ “สุขทันที ที่เที่ยวไทย” เกิดการบอกเล่า ส่งต่อประสบการณ์การเดินทางเล่าผ่านคอนเทนต์ (Content) สร้างการรับรู้ในวงกว้างทางโซเชียลมีเดีย เจาะกลุ่มเป้าหมายนักท่องเที่ยวคุณภาพ ทั้ง Gen Y-Z และกลุ่มผู้ชื่นชอบภาพยนตร์ อันจะป็นประโยชน์ต่อการปลุกกระแสการเดินทางท่องเที่ยวตามรอยภาพยนตร์ต่อไป

 

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

Picture of รสวรรณภัทชก์ หงษ์สุวรรณ์

รสวรรณภัทชก์ หงษ์สุวรรณ์

ด้วยใจรักและผูกพันในการทำหน้าที่สื่อมวลชนหลากหลาย ทั้งสื่อรัฐและเอกชนมายาวนาน มุ่งมั่นสร้างสรรค์สาระสำคัญอันเป็นประโยชน์ นำเสนอข่าวที่มีคุณค่า ถูกต้อง รวดเร็วทันใจ เชื่อถือได้ “KIND BUT FIRM”