X

ซุ่มดู “แม่เต่าศรีสุดา” ขึ้นวางไข่ “วิถีลูกเต่ากระ” ชีวิตต้องรอดเพื่อไปต่อ…..

ซุ่มดู “แม่เต่าศรีสุดา” ขึ้นวางไข่

“วิถีลูกเต่ากระ” ชีวิตต้องรอดเพื่อไปต่อ…..

ตอนที่ 2/2

วันนี้  ในความมืดมิด และในความเงียบที่เกือบเงียบสนิท ตรงชายหาดแคบ ๆ ปลายสุดที่เงียบสงัดของเกาะทะลุ  คงมีแต่เสียงคลื่นทะเลที่สาดซัดเป็นจังหวะขึ้นสู่ชายหาดบางเบา  พลันโสตปราสาทของทุกคนที่เฝ้ารออยู่ในความมืด  ก็แยกแยะได้ถึงเสียงฝีเท้าเบา ๆ และการลากตัวผ่านพื้นทรายของอะไรหนัก ๆสักอย่างหนึ่ง เชื่องช้า แต่มั่นคง เหมือนเป้าหมายจะเป็นผิวพื้นทรายแนวหนึ่งท่ามกลางแนวหินคับแคบของอ่าวเทียน ตรงนั้น

พักใหญ่ๆ ในความเงียบงัน  เสียงของอาการเคลื่อนไหวเบาบางนั้นก็สงบลง และ ฉับพลัน  ก็เกิดเสียงดัง ซ่า ซ่า ซ่า ของการขุดคุ้ยผิวพื้นทรายดังขึ้นเกรียวกราว  แต่เข้าจังหวะกับเสียงของคลื่นกระทบฝั่งได้อย่างพอเหมาะ  และทุกคนที่พากันมาซุ่มเฝ้ารอแม่เต่าขึ้นวางไข่  ณ ที่นั้น   ต่างก็พากันตระหนักและวาดมโนภาพในความมืดได้ว่า นั่นคือ  ภาพแม่เต่าตัวใหญ่ซึ่งได้คลานขึ้นจากน้ำลึก สำรวจที่ทางพบที่เหมาะสมแล้ว  จึงกำลังใช้สองเท้าหน้าและสองเท้าหลังช่วยในการขุดหลุมบนผิวพื้นทรายให้ลึกประมาณครึ่งค่อนเมตร  หรือประมาณ 60 เซนติเมตรขึ้นไป เพื่อใช้วางไข่นั้นเอง

จากการทำงานเก็บสถิติที่ผ่านมาหลายสิบปี  ทำให้บ้านน้องเต่าของเกาะทะลุ  ทราบเป็นอย่างดีถึงพฤติกรรมการขึ้นวางไข่ของแม่เต่า  และสามารถประเมินวงรอบต่อไปของการขึ้นวางไข่ของแม่เต่าแต่ละตัวได้อย่างค่อนข้างแม่นยำ  ดังนั้น  เมื่อสามารถพบการขึ้นวางไข่ในรอบแรกจึงทำให้สามารถส่งพนักงานมาเฝ้ารอการขึ้นฝั่งวางไข่ของแม่เต่าตัวเดิมในวงรอบการขึ้นวางไข่รอบต่อไปของแม่เต่าตัวเดิมได้อย่างถูกต้อง

เป็นชั่วโมง  กว่าแม่เต่าตัวใหญ่จะเสร็จสิ้นการขุดหลุมเพื่อวางไข่ในความมืดมิด  และความเงียบสงัดก็กลับคืนมาสู่พื้นที่เฝ้ารอตรงนั้นอีกครั้งหนึ่ง  และพักใหญ่ ๆ ที่ความเงียบสงัดนั้นดำเนินไป  ฉับพลัน  ใครคนหนึ่งก็เปิดไฟฉายดวงใหญ่ในมือสว่างพรึ่บขึ้น ภาพที่ทุกคนได้เห็นในความสว่างของไฟฉายใหญ่นั้นก็คือ  ภาพเแม่เต่าใหญ่ตัวหนึ่งหยุดนิ่งตรึงอยู่กับที่  ที่ส่วนท้ายของลำตัว ไข่ขาว ๆใบเท่าลูกปิงปองกำลังทยอยร่วงหล่นจากตัวแม่เต่าลงสู่หลุมเล็ก ๆที่เพิ่งขุดขึ้นทีละใบ ละใบ อย่างช้า ๆ  มีน้ำเมือกใสๆเหนียว ๆที่ไหลตามมาคอยช่วยประคองให้ไข่ไหลตกลงสู่พื้นรังไข่ได้อย่างเบา ๆ  นับเป็น Soft Landing ได้จริง ๆ

แม่เต่า เมื่อเริ่มต้นการวางไข่แล้ว  เพราะมีไข่อยู่ในตัวมากมายหลายสิบถึงร้อยฟอง  จะต้องไข่ออกมาให้หมดก่อน  หยุดไม่ได้ ตอนนี้จึงทำอะไรไม่ได้เลย  นอกจากหลับตานิ่งวางไข่อยู่ตรงนั้นไปเรื่อย ๆ มิไยที่มนุษย์รอบตัวจะเปิดไฟสว่าง  หรือในขณะนี้  ที่คนสี่ห้าคนกำลังกุลีกุจอเข้ามาทำการวัดตัวแม่เต่า ถ่ายภาพ ติดแท็ก เพื่อการจดจำตัวแม่เต่าเอาไว้   ส่วนผมเองก็เข้าไปถ่ายภาพไข่เต่าทางด้านหลังอย่างใกล้ ๆชัด ๆ  แม่เต่าก็ทำอะไรไม่ได้เลย คงต้องปล่อยให้คนสี่ห้าคนดำเนินการกับตัวของมันไปเรื่อย ๆ

พักใหญ่ ๆ  แม่เต่าวางไข่จนหมดตัว  แล้วมันก็ใช้สองเท้าหลังค่อย ๆฝังกลบหลุมนั้นเสียงดังเกรียวกราวจนมิดชิดเป็นอย่างดี  เสร็จแล้ว แทบไม่ได้หันไปมองข้าง ๆ หรือ ข้างหลัง แม่เต่า ก็ค่อยๆคลานต้วมเตี้ยมลงทะเลผ่านหน้าทุกคนที่โบกมือสั่งลามันกลับลงทะเลไป  ดูเหมือนมิได้สนใจลูก ๆของมันในไข่เต่ามากมายที่วางฝากไว้กับธรรมชาติแม่แต่น้อย   เป็นธรรมชาติพิเศษสุดพาะตัวของเต่าเลยจริง ๆ

พอแม่เต่าลงทะเลลับตาไปแล้ว  คนสี่ห้าคนก็ค่อยๆ บรรจงขุดไข่เต่าขึ้นมาใส่ลงไปในกล่องกระดาษ  นับไข่เต่าได้จำนวน 120 กว่าฟอง  แล้วจึงพากันเดินกลับไปจัดทำหลุมไข่เต่าแห่งใหม่ในพื้นที่ปลอดภัยภายใน  บ้านน้องเต่า  ซึ่งมีการเตรียมการล่วงหน้า เช่น ทำความสะอาด  ยกพื้นหนีน้ำท่วม  เอาไว้แล้วเป็นอย่างดี จากนี้ไปอีกสองสัปดาห์พอดี  ลูกเต่ารังนี้  จะได้เวลาทะลวงผืนทรายขึ้นมาดูโลกโหดร้าย  แต่แสนสวยนี้กันแล้ว

ลูกเต่า ฟักออกจากไข่

“น้อง Hero” ลูกเต่าตัวแรก และ16 รอดตาย จากไข่เต่า 90 ฟอง

ตามปรกติ บริเวณที่แม่เต่าจะขึ้นมาวางไข่ จะได้รับการโผล่พ้นผิวน้ำขึ้นมาสำรวจสังเกตโดยแม่เต่าก่อนล่วงหน้า การขึ้นมาสำรวจทำให้มีการถูกพบเห็น และ คนเราก็จะใช้ร่องรอยนั้นแหละ เป็นเครื่องมือในการสืบค้น และกำหนดเวลาการในการเฝ้ารอให้แม่เต่าขึ้นมาวางไข่มาเก็บไข่ไปเพื่อการอนุรักษ์

ความลึกของพื้นทรายของหลุมไข่เต่า ก็อาจมีการขึ้นฝั่งสำรวจโดยแม่เต่าด้วยเช่นกัน ตามปรกติ แม่เต่าจะวางไข่ไว้ที่พื้นทรายที่มีความลึกระดับหนึ่ง  ที่สำคัญน้ำต้องท่วมไม่ถึง และ ฝนต้องไม่ตกมากนักในช่วงที่ลูกเต่าอยู่ในรังใต้พื้นทราย  หากในวันนี้ด้วยภาวะที่ทะเลมีความแปรปรวนสูง ฝนอาจจะตกมากเกินไป ตกลงมาเป็นห่าใหญ่ ๆ หรือ  มีบางครั้ง น้ำทะเลก็ขึ้นสูงเกินไปกว่าปรกติ  ทำให้เกิดน้ำท่วมรังไข่เต่า  ไข่ที่ถูกน้ำท่วม  หรือมีความชื้นสูงเกินไปจะเกิดภาวะเน่าเสีย  ทำให้ไม่สามารถฟักออกเป็นตัวได้  เหตุการณ์นี้เกิดถี่มากยิ่งขึ้นในปัจจุบัน

สองสัปดาห์ผ่านพ้นไป ไข่เต่า 90 กว่าฟอง คงยังอยู่ในหลุมแห่งใหม่  ซึ่งจัดทำขึ้นในพื้นที่ปลอดภัย ภายในบ้านน้องเต่า  โดยมี เจ้าหน้าที่ให้การดูแลอย่างใกล้ชิด หากแต่ในระหว่างนั้น พายุจ่ามี  พายุหมุนลูกหนึ่งจากทะเลจีนใต้ก็เกิดขึ้น  แม้เพียงหาง ๆก็ทำให้เกิดฝนตกหนักขึ้นติดต่อกันหลายวันบนเกาะทะลุ  วันนี้  แม้ได้เวลาที่ลูกเต่าจะออกมาจากไข่  ตามบันทึกสถิติของบ้านน้องเต่า  แต่ พี่ชาติ ก็ไม่มีความมั่นใจในสิ่งที่จะเกิดขึ้นเลย

ห้าโมงเย็น  เป็นเวลาตามความคาดหมายและ การบันทึกสถิติของพี่ชาติ ผมจึงเป็นอีกคนหนึ่งซึ่งเพิ่มเติมเข้าไปสังเกตการณ์  การออกจากไข่ของลูกเต่าอย่างใกล้ชิด

ตามปรกติ  เมื่อถึงเวลาออกจากไข่  ภายใต้หลุมทราย  ลูกเต่า ทั้งหลายที่ฟักออกเป็นตัวสำเร็จแล้วภายในไข่  ก็จะค่อย ๆใช้จะงอยปากแหลมคม  เจาะทะลุไข่ออกมาในเวลาไล่เลี่ยกัน  จากนั้นทั้งหมดจึงจะพาตัวออกจากไข่  การเคลื่อนไหวใต้พื้นทรายทั้งหมด  จะสามารถมองเห็นได้เป็นรอยแตกแยกขยับเขยื้อนเล็กๆของผิวทราย  ซึ่งหากตั้งใจเฝ้าสังเกตุก็จะสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน

และในคราวนี้ก็เช่นกัน หลังจากสองเราตั้งใจจ้องมองกันพักใหญ่ รอยขยับเขยื้อนของผิวทรายตรงปากหลุมก็ค่อย ๆปรากฏ  ขยับขยายออกมาทีละนิดละนิด จนในที่สุดเราก็มองเห็นเจ้าลูกเต่าตัวน้อย ๆแข็งแรงตัวหนึ่งโผล่กระมอมกระแมมขึ้นจากผิวทราย  แต่ เอ๊ะ ทำไมมันออกมาเพียงตัวเดียว  และ หลังจากเฝ้ามองดูมันต้วมเตี้ยมเดินวนในหลุมทรายไปไหนไม่ได้เพราะเราปิดทางเดินเอาไว้อยู่นานสองนาน   ก็ยังไม่มีลุกเต่าตัวอื่น ๆ โผล่ตามออกมา เราเองก็ชักจะแปลกใจเหมือนกัน

พี่ชาติ กระวนกระวายยิ่งกว่า  และหลังจากเฝ้ารอกันไปนานเป็นสิบนาที  พี่ชาติ  ก็อดรนทนไม่ไหว .. นี่มันผิดธรรมชาติแล้ว ..  พี่ชาติบ่นงึมงำ  พร้อมกับรีบจ้ำอ้าวไปคว้าจอบกลับมาที่หลุม  และเริ่มลงมือขุดทราย  แล้วเราก็ค่อย ๆพบหลังจากลงจอบขุดลงไป   มีเจ้าลูกเต่ากำลังออกจากไข่  เพิ่มขึ้นทีละชุด ๆ จากเจ้าน้องเต่าตัวแรก  เพิ่มเป็น 4 ตัว  พอลงมือขุดต่อไปก็พบเพิ่มขึ้นเป็น 8 ตัว เป็น 10 ตัว  ถึงตอนนี้หลุมทรายก็เปิดกว้างออกจนมองเห็นไข่ทั้งหมดในครอกนี้หลายสิบฟอง  ปรากฏว่ามีไข่ซึ่งสามารถฟักออกมาเป็นตัวได้เพียง 16 ตัวเท่านั้น  นอกนั้น  ไข่ที่เหลือ กลายเป็นไข่ที่เน่าเสียไปแล้วไม่สามารถฟักออกมาเป็นตัวได้อย่างเห็นได้ชัด  เรียกได้ว่า ในไข่เต่าทั้งหมดในครอกนี้  มีไข่ที่ฟักออกมาได้เพียงไม่ถึง 10 เปอร์เซ็นต์ เท่านั้นเอง

และ เมื่อมีจำนวนน้อย  ลุกเต่าทั้งหมดก็ไม่สามารถรวมกำลังกันแหวกพื้นทรายขึ้นมาด้วยตนเองได้พร้อม ๆกัน  คงมีแต่เจ้าลูกเต่าตัวแรกเท่านั้นที่แข็งแรงเป็น HERO สามารถทะลวงพื้นทรายขึ้นมาส่งข่าวขอความช่วยเหลือกับเราได้เป็นตัวแรก  มิฉนั้นแล้วหากพี่ชาติไม่ลงมือช่วยเอาจอบมาขุดทรายลงไป  ลุกเต่าทั้ง 16 ตัวก็อาจจะไม่ได้รอดขึ้นมาเหนือพื้นผิวทรายทั้งหมด  เจ้าตัวแรกที่ขึ้นมาได้นี้จึงนับเป็นเจ้า Hero อย่างแท้จริง

พี่ชาติ บอกกับเราปิดท้ายว่า  น่าจะเป็นเพราะ  ฝนที่ตกหนาหนักมากจากพายุโซนร้อนที่เพิ่งผ่านพ้นไป  ทำให้เกิดความชื้นมากขึ้น  จนไข่ส่วนใหญ่ไม่ฟักเป็นตัว  และด้วยความแน่นของพื้นทรายที่มากกว่าปรกติ  จึงทำให้ลูกเต่าจำนวนน้อย  ไม่สามารถออกแรงรวมกำลังกันขึ้นจากหลุมได้อย่างพร้อมเพรียง  ทำให้เราต้องขุดพื้นทรายลงไปช่วยพวกมันออกมา

เป็นสิ่งที่จะต้องเรียนรู้กันต่อไปว่า ทั้งหมดนี้จะเป็นเพราะ การเปลี่ยนแปลงสภาวะอากาศ หรือ Climate Change หรือไม่  เพราะเป็นเหตุการณ์ซึ่งเพิ่งเกิดขึ้นกับที่นี่เป็นครั้งแรก คงเป็นเพราะเจ้า  พายุจ่ามี ลูกนั้นอย่างแน่นอน  ที่ทำให้เกิดภาวะ น้ำท่วมรังไข่ และ พื้นทรายอัดแน่นกว่าปรกติ  เช่นนี้ พี่ชาติ บอกกับเรา  พร้อมๆกับการเร่งมือทำทางเดินลงทะเลของลูกเต่า  16 เดนตาย และ เจ้า Hero  ที่พากันรีบรุดคลานต้วมเตี้ยมออกไปลงทะเล  แต่เส้นทางที่มนุษย์ทำขึ้นใหม่เส้นนั้น  กลับไปสุดที่กาละมังน้ำใส  และ บ่ออนุบาลเต่ากระ  ที่ทั้งคณะ 16 เดนตายนี้  จะใช้ชีวิตต่อไปรอจนกระดองแข็งแกร่งป้องกันตัวได้  และได้รับการปล่อยออกสู่ทะเลใหญ่รอบ ๆ เกาะทะลุต่อไป

ข่าวสารชิ้นล่าสุดส่งมาท้าย ๆ ปลาย ๆ ว่า มีการพบ “ตัวเต่า” ที่ได้รับการปล่อยออกจากบ่ออนุบาลเกาะทะลุ  มีเครื่องหมายติดไว้ชัดเจน  พากันไปไกลถึงทะเลจันทบุรี ระยอง ตราด ทางโน้นมาแล้ว

…..

เรื่อง: อภินันท์ บัวหภักดี, รสวรณภัทชก์ หงษ์สุวรรณ์           ภาพ: อภินันท์ บัวหภักดี

ผลงานชิ้นนี้เผลิตโดยนักข่าวที่เข้าร่วมโครงการ UNDP Media Fellowship on Sustainable Development

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

Picture of รสวรรณภัทชก์ หงษ์สุวรรณ์

รสวรรณภัทชก์ หงษ์สุวรรณ์

ด้วยใจรักและผูกพันในการทำหน้าที่สื่อมวลชนหลากหลาย ทั้งสื่อรัฐและเอกชนมายาวนาน มุ่งมั่นสร้างสรรค์สาระสำคัญอันเป็นประโยชน์ นำเสนอข่าวที่มีคุณค่า ถูกต้อง รวดเร็วทันใจ เชื่อถือได้ “KIND BUT FIRM”