ราชบุรี เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 6 ม.ค.63 ชาวบ้านในหมู่ 4 บ้านหินสี ต.ยางหัก อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี กว่า 60 คน ได้รวมตัวกันมาแจ้งความที่สภ.ปากท่อ จ.ราชบุรี เพื่อให้ดำเนินคดีกับคณะกรรมการ ของกองทุนเงินออมทรัพย์ของหมู่บ้านหินสี จำนวน 15 คน ที่บริหารจัดการเงินของกลุ่มผิดพลาด จนทำให้เงินของชาวบ้านที่ไปฝากไว้หายไปหมด ทำให้ชาวบ้านกว่า 500 คน ที่นำเงินมาฝากไว้ได้รับความเดือดร้อน
โดยนางวันเพ็ญ ยังกองแก้ว อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 37 ม.4 ต.ยางหัก ก็บอกว่ากองทุนนี้ก่อตั้งมาตั้งแต่ พ.ศ.2552 มีสมาชิกกว่า 500 คน โดยแต่ละคนจะมีบัญชีเงินฝากคนละเล่ม ทุกครั้งที่นำเงินไปฝากกับกองทุนก็จะลงตัวเลขลงในเล่ม นอกจากนี้ทางกองทุนยังปล่อยให้มีการกู้เงิน โดยคิดดอกเบี้ยร้อยละ 2 บาท จากเงินต้น โดยให้มีการผ่อนชำระเป็นรายเดือน ซึ่งคนที่ไม่ได้มาชำระก็จะต้องหักจากเงินที่นำมาออมไว้ เพราะการกู้นั้นจะต้องกู้แค่ครึ่งเดียวของเงินที่ออมไว้ โดยตนนั้นออมเงินได้ 28,000 บาท แต่กู้มาแค่ 7,000 บาท ซึ่งยังมีเงินเหลืออีก 21,000 บาท แต่คณะกรรมการอ้างว่าไม่มีหลักฐานในการออม เนื่องจากสมุดฝากนั้นทางคณะกรรมการนั้นได้ทำการนำไปเผาทิ้งหมดแล้ว จึงทำให้ตนนั้นข้องใจว่าการทำลายเอกสารนั้นคณะกรรมการใช้สิทธิ์อะไร และทำเพื่ออะไร ทำให้ในวันนี้ตนจึงไม่มีหลักฐานมาแจ้งความ ที่ผ่านมาชาวบ้านก็รวมตัวกันไปร้องศูนย์ดำรงธรรมอำเภอปากท่อ และมีการมาไกล่เกลี่ยหลายรอบ ให้เวลาคณะกรรมการทั้ง 15 คน ได้นำเงินมาคืนให้ชาวบ้าน มาหลายเดือนแล้ว แต่กรรมการก็เพิกเฉย มีการติดตามทวงถามหลายรอบ แต่เรื่องก็เงียบจึงทำให้ชาวบ้านมาแจ้งความในวันนี้
ต่อมา พ.ต.อ.สมบัติ โพธิ์งาม ผกก.สภ.ปากท่อ และนายกนิษฐ์ ศิลา ปลัดศูนย์ดำรงธรรมอำเภอปากท่อ ได้มาพูดคุยกับชาวบ้าน โดยให้ทางศูนย์ดำรงธรรมจะทำหนังสือไปขอเรื่องของระเบียบในการจัดตั้งกองทุน จากคณะกรรมการกองทุนก่อนว่าในระเบียบการจัดตั้งให้อำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการอย่างไรบ้าง รวมทั้งเรื่องของวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งกองทุน เพื่อนำมาประกอบในการที่จะให้ชาวบ้านได้แจ้งความ ว่าจะควรจะมีความผิดในเรื่องใดบ้าง พร้อมทั้งให้ชาวบ้านได้เก็บข้อมูลหลักฐานไว้ทั้งหมดเพื่อนำมาประกอบในการดำเนินคดีต่อไปด้วย
