ราชบุรี จากเหตุการณ์รถไฟชนกับรถไฟ ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก เหตุเกิดเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 24 ก.พ. 63 ที่ผ่านมา ที่บริเวณสถานีรถไฟปากท่อ อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี ผู้สื่อข่าวได้ไปสอบถามนางสาวพัชรี เงินคงพันธุ์ ชาวบ้านที่อยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุและเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ได้เล่านาทีระทึกในช่วงที่เกิดเหตุให้ฟังว่า ช่วงก่อนที่จะเกิดเหตุได้นั่งอยู่หน้าบ้านซึ่งอยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุ และเห็นรถไฟขบวนที่มีผู้โดยสารจอดอยู่นานแล้ว จู่ๆก็มีรถไฟอีกขบวนวิ่งชน จนดังสนั่นเหมือนเสียงฟ้าฝ่า ตนกับเพื่อนอีก 2 คน ต่างก็วิ่งหนีเพราะความกลัว ก่อนจะกลับมาดูในจุดเกิดเหตุอีกครั้ง ก็พบว่ารถไฟพังเสียหาย และมีคนเจ็บจำนวนมาก
นอกจากนี้นายมนต์ชัย ทองรักษา พนักงานควบคุมปะแจ สับรางรถไฟ ก็เล่าให้ฟังว่า ตนเป็นผู้คุมประแจ ส่วนบริษัทเอเอสคนคุมประแจอยู่ด้านเหนือ บริษัทอยู่ด้านใต้ และใช้คนคุม มีโทรศัพท์ติดต่อสถานีใกล้เคียงเพื่อแจ้งว่ามีขบวนรถออกมาแล้ว ในกรณีถ้าไม่มีหลีกรถเราก็ไม่ต้องออกไปสับราง เราก็ยืนประจำหน้าที่คอยสับราง วันนั้นเป็นคนของบริษัทเอเอส โดยคนของการรถไฟฯจะไปยืนอยู่ด้านเหนือ ซึ่งบริษัทเอเอสจะเป็นบริษัทที่คุมโครงการก่อสร้างรถไฟรางคู่จะอยู่ตรงนั้นที่คอยสับราง เขาเข้ามาทำงานร่วมกับการรถไฟฯด้วย
ด้านเจ้าหน้าที่ห้ามล้อรถคนหนึ่งก็เล่าให้ฟังว่า ตนทำหน้าที่เป็นคนห้ามล้อของขบวนรถโดยสารที่จอดรออยู่ที่ชานชลาประมาณ 20 นาที ขบวน 722 ก็มาและพุ่งเข้าชนเลย ซึ่งในช่วงนั้นรวดเร็วมาก จนจำลายละเอียดอะไม่ได้ และก่อนเกิดเหตุก็ไม่ได้มีการประสานมาแต่อย่างใด
จากนั้นในเวลา 11.30 น. พล.ต.ต.อภิชิต เทียนเพิ่มพูน รองผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 7 ได้เดินทางมาที่สภ.ปากท่อ จ.ราชบุรี เพื่อมาตรวจสอบข้อเท็จจริงในกรณีเกิดเหตุรถไฟชนกัน ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก โดยมี พ.ต.อ.อนุรักษ์ พรพุทธศรี รองผู้บังคับการตรำวจภูธร จ.ราชบุรี และ พ.ต.อ.สมบัติ โพธิ์งาม ผกก.สภ.ปากท่อ ให้การต้อนรับ ภายหลังจากการสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดเหตุขึ้น พล.ต.ต.อภิชิต เทียนเพิ่มพูน รองผู้บัญชการตำรวจภูธร ภาค 7 ก็เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายจากผู้บัญชาการภาค7 ให้มาติดตามสถานการณ์รถไฟชนกัน ซึ่งเบื้องต้นก็พบว่าผู้ที่ได้รับบาดเจ็บนั้นได้รับการช่วยเหลือเป็นอย่างดี จากทั้งทางจังหวัดราชบุรี ตำรวจภูธร และการรถไฟ รวมทั้งดำเนินการส่งผู้โดยสารกลับภูมิลำเนาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในส่วนของสาเหตุนั้นขณะนี้ยังสรุปไม่ได้ เนื่องจากจะต้องให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจวิทยาการเข้ามาตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัดก่อนว่าเกิดจากอะไร แต่เบื้องต้นก็คงจะต้องเป็นเจ้าหน้าที่การทางรถไฟที่จะต้องถูกเรียกมาสอบปากคำ ส่วนผู้โดยสารนั้นทางพนักงานสอบสวนสภ.ปากท่อ ได้มีการสอบปากคำไปบ้างแล้ว ซึ่งคงจะต้องเร่งรัดให้เร็วที่สุดด้วย
สำหรับตัวเลขของผู้บาดเจ็บที่มีการสรุปแล้วนั้นนายฐากูร อินทชม ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการเดินรถไฟ ก็เปิดเผยว่า มีพนักงานรฟท. 4 คน เป็นพนักงานรถจักรของขบวนรถสินค้าที่ 722 จำนวน 2 คน และเป็นพนักงานประจำขบวนรถของขบวนรถด่วนพิเศษทักษิณ อีกจำนวน 2 คน ส่วนอีก 28 คน เป็นผู้โดยสารที่มากับขบวนรถด่วนพิเศษทักษิณ ซึ่งเท่าที่ทราบมีอาการสาหัสเป็นพนักงานของเรา ส่วนผู้โดยสารได้รับแรงกระแทกในระดับหนึ่ง เพราะผู้โดยสารจะเริ่มอยู่ตู้ที่ 4 จากขบวนรถ โดยพนักงานที่ได้รับบาดเจ็บ 2 คน เป็นพนักงานที่อยู่ในตู้ที่ตกราง และอีกคนเป็นพนักงานรถนอนอยู่ในตู้ที่ถัดไป ส่วนสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบอย่างละเอียด
ส่วนการเก็บกู้โบกี้รถที่ตกราง และรางรถไฟที่เสียหาย เจ้าหน้าที่ได้เร่งดำเนินการซ่อมแซม และยกโบกี้รถไฟออกจากราง รวมทั้งขนสัมภาระของผู้โดยสารที่ยังตกค้างอยู่ออกจากตัวรถเพื่อนำไปส่งคืนให้เจ้าของรวมทั้งตรวจสอบสถาพสินค้าที่ฝากมากับโบกี้รถไฟ เพื่อตรวจดูความเสียหายและจะได้ดำเนินการชดใช้ให้ด้วย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: