ในวันนี้(20 ส.ค. 61) ที่บริเวณที่ดินว่างเปล่าจำนวน 14 ไร่ ของนางละเมียด เกตุนิล อายุ 70 ปี ซึ่งอยู่ติดกับวัดดาวลอย หมู่ 5 ต.ปากท่อ อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี มีชาวบ้านต่างพากันเข้าไปเก็บต้นอังกาบหนู ซึ่งขึ้นในพื้นที่ดังกล่าวจำนวนมาก หลังมีความเชื่อว่าต้นอังกาบหนูมีสรรพคุณในการรักษาโรคมะเร็งและโรคเบาหวาน โดยบางคนนั้นก็ตัดเอาแต่ใบไปเพื่อนำไปต้มเป็นน้ำชาแล้วใช้ดื่มแทนน้ำ แต่บางคนก็ถอนทั้งต้นทั้งรากเพื่อนำไปปลูกขยายพันธุ์ที่บ้าน
ด้านนายสนุน อมศิริ อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4 หมู่ 6 ต.แพรกหนามแดง อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม ก็บอกว่า พื้นที่แห่งนี้เป็นของนางละเมียด ซึ่งเป็นพี่สาวและตอนนี้ก็ไปบวชชีอยู่ที่วัดในอ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันต์ และตนนั้นเป็นผู้ดูแลพื้นที่ดังกล่าว เดิมเคยปลูกว่านหางจระเข้ แต่ราคาไม่ดี จึงได้ปล่อยทิ้งร้าง และมีต้นอังกาบหนูขึ้นมาจนเต็มพื้นที่แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร จนมีข่าวเรื่องที่มีคนเป็นโรคมะเร็งแล้วนำใบอังกาบหนูไปต้มแล้วดื่มแทนน้ำและเกิดหายจากโรคมะเร็ง และยังมีผู้ที่นำไปลงเฟสบุ๊คว่า ในพื้นที่แห่งนี้มีต้นอังกาบหนูขึ้นจำนวนมาก ทำให้วันนี้มีคนแห่มาเก็บ ส่วนตนนั้นไม่รู้ว่าสามารถรักษาโรคได้จริงหรือไม่ แต่ก็ได้ทดลองกินใบสดๆ ซึ่งพบว่ามีรสชาติขม และ เผ็ด แต่พอดื่มน้ำตามเข้าไปก็มีรสชาติหวาน สิ่งที่อยากจะขอคือไม่ได้หวง แต่คนที่มาเก็บนั้นอย่าถอนต้นไปขอให้เก็บแต่ใบเพราะเกรงว่าคนที่มาทีหลังจะไม่มี และอย่าเก็บไปมากเพราะเกรงว่าจะนำไปทำเป็นธุรกิจ รวมทั้งขออย่าทิ้งขยะในพื้นที่ให้สกปรก
ด้านนางจรัสพร ขาวเครือ อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 112/208 เขตมีนบุรี กรุงเทพฯ ซึ่งเดินทางมาจากกรุงเทพเพื่อมาเก็บใบอังกาบหนูก็บอกว่า พี่สาวของตนนั้นป่วยเป็นโรคมะเร็งปอด ซึ่งก็มีการรักษามาอย่างต่อเนื่อง และเมื่อมีข่าวว่าต้นอังกาบหนูนั้นช่วยรักษาโรคมะเร็งได้ โดยครั้งนั้นได้เดินทางไปหาที่จ.สุโขทัย เพราะเห็นว่าที่นั่นมีต้นอังกาบหนู แต่พอไปถึงกลับผิดหวังเพราะหมดแล้ว จนมีการแชร์ในเฟสบุ๊กว่าที่อ.ปากท่อ นั้นมีต้นอังกาบหนูจำนวนมากและเจ้าของก็อนุญาตให้เก็บได้ จึงได้รีบเดินทางมา เพราะก็เป็นอีกความหวังที่จะช่วยให้พี่สาวได้หายจากโรคร้าย
ข่าวน่าสนใจ:
- เตือนชาวบ้านอย่าตกเป็นเครื่องมือคนร้ายที่พยายามสร้างความขัดแย้งในพื้นที่
- หนุ่มวัย 30 ขับกระบะหาห้องพัก เฉี่ยวชนกับรถมอไซค์ จึงจอดลงไปเคลียร์ ถูกกระบะตู้เย็นชนดับคาที่
- ชาวบ้านผวา พบเสือ 3 แม่ลูก ป้วนเปี้ยนในป่า 100 ไร่ใกล้ฟาร์มเลี้ยงวัว ไม่กล้าเกี่ยวข้าว-กรีดยาง วอนบุกพิสูจน์
- กระบะซิ่งหนีสายตรวจ แหกโค้งพุ่งลงคูน้ำดับ ยกคัน 7 ศพ พบเป็นแรงงานต่างด้าว หลายราย
ด้านนายประเสริฐ สัตยารมณ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ต.ปากท่อ ก็บอกว่า วันนี้คนมาเก็บต้นอังกาบหนูจำนวนมาก จนทำให้การจราจรติดขัด ตนต้องมาช่วยในการระบายเรื่องการจราจรให้ และขอให้ช่วยรักษาความสะอาด และเจ้าของพื้นที่ก็ไม่ได้หวงเพราะเขาให้เขาก็ได้บุญ
สำหรับต้นอังกาบหนูนั้นหรือชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Barleria prionitis L. เป็นพืชในวงศ์ ACANTHACEAE ภาษาอังกฤษ เรียก Porcupine flower ไม้พุ่มขนาดเล็ก สูง 1-1.5 เมตร ตามโคนต้นจะมีหนามแหลมยาวประมาณครึ่งเซนติเมตร กิ่งก้านของต้นอังกาบหนูจะแตกออกไปรอบ ๆ ต้น ส่วนใบเป็นใบเดี่ยว ออกตรงข้ามกันเป็นคู่ ๆ ลักษณะของใบเป็นทรงรี ปลายและโคนใบจะแหลม ส่วนกลางใบจะกว้างประมาณ 0.5-1 นิ้ว ยาว 1.5-2 นิ้ว ขอบใบเรียบ มีสีเขียวอ่อน ออกดอกเป็นช่อค่อนข้างแน่น ดอกมีหลายสีทั้งสีเหลืองสด สีฟ้า สีขาว สีม่วงอ่อนแกมชมพู ที่โคนช่อดอกมีใบประดับรูปขอบขนานยาว ขอบใบเว้า ดอกส่วนโคนเชื่อมเป็นหลอด ยาว 3-4 เซนติเมตร ด้านนอกมีขนและมีเกสรผู้ 4 อัน แบ่งเป็นเกสรสั้น 2 เกสรยาว 2 ผลอังกาบหนูเป็นฝักรูปยาวรี ปลายและโคนแหลม ด้านในมีเมล็ดประมาณ 4 เมล็ดซ่อนอยู่
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: