ราชบุรี จากกรณีเมื่อวันที่ 12 มี.ค.63 ได้มีเฟซบุ๊กชื่อพิรญาณ์ แก้วทอง ช่างสักคิ้วโหงวเฮ้ง ได้โพสต์เกี่ยวกับกรณีรถถูกเฉี่ยวชน เนื้อหาระบุว่า “รถน้องสาวเราเอง โดนคนดังราชบุรีชน แต่ติดต่ออะไรไม่ได้เลย โทรก็ไม่รับสายสักครั้ง อายุก็ปาไปแปดสิบกว่าแล้ว ลูกยังปล่อยให้ขับรถชนชาวบ้านไปทั่ว ท่านรวยท่านไม่เดือดร้อนหรอก คนหาเช้ากินค่ำสิเค้าเดือดร้อน ท่านเล่นชนแล้วก็ไม่รับผิดชอบ ปากบอกรับผิดชอบๆๆ พอโทรไปก็ไม่รับ เอาไงล่ะทีนี้ ดังแล้วไง รวยแล้วยังไงวะ! ” ทำให้มีการแชร์เรื่องราวดังกล่าวในโลกโซเซียล ผู้สื่อข่าวจึงได้ไปตรวจสอบดังกล่าว และทราบว่าผู้ที่ถูกเจ้าของเฟซบุ๊กตำหนิคือนายทวี ไกรคุปต์ บิดาของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ และทราบว่าผู้เสียหายคือน.ส.สุประวีณ์ แก้วทอง อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 62/2 หมู่ 9 ต.หนองโพ อ.โพธาราม จ.ราชบุรี และได้เข้าพบร.ต.ท.ภูษิต ฮ้อประเสริฐ ร้อยเวร สภ.เมืองราชบุรี เพื่อร้องทุกข์ และลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานแล้ว เมื่อช่วงค่ำของวันที่ โดยแจ้งว่าเมื่อวันที่ 19 ก.พ. 63 เวลาประมาณ 12.30 น. ขณะผู้เสียหายจอดรถยนต์ ยี่ห้อ โตโยต้า วีออส สีเทา หมายเลขทะเบียน กธ 3180 ราชบุรี ไว้ภายในปั้มน้ำมัน ปตท. สามเรือน หมู่ 7 ต.สามเรือน อ.เมืองราชบุรีที่เกิดเหตุ ได้มีรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อเบนซ์ สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน 6 กว 2384 กรุงเทพมหานคร ขับมาเฉี่ยวชนด้านข้างจนรถเสียหาย จากนั้นมีชายไทย (ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง) แจ้งว่าชื่อนายทวี แสดงตัวเป็นผู้ขับขี่ และตั้งแต่เกิดเหตุก็ไม่สามารถติดต่อกับนายทวีได้เลย ผู้เสียหายจึงมาลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเพื่อดำเนินฟ้องร้องเรียกร้องค่าเสียหายทางแพ่งต่อไป
ในวันนี้(13 มี.ค. 63) ผู้สื่อข่าวจึงได้สอบถามนางสาวปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ ขณะลงพื้นที่ตรวจสอบที่ดินของนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ร่วมกับกรมป่าไม้ ถึงเรื่องราวที่นายทวี ขับรถไปเฉี่ยวชนรถของผู้จัดการร้านสะดวกซื้อว่าได้มีการชดใช้หรือไม่ ซึ่งนางสาวปารีณา ก็บอกว่า ตนนั้นรักและเคารพคุณพ่อ แต่ไม่สามารถที่จะไปห้ามไม่ให้คุณพ่อขับรถได้ ทั้งที่ที่บ้านก็มีคนขับรถ ก็ยอมรับว่ามีคู่กรณีเข้ามาเรื่อยๆ แต่ก็รับผิดชอบทุกคน ซึ่งรายล่าสุดที่คุรพ่อไปเฉี่ยวชนนั้น ตนก็ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ให้ติดต่อมาเพื่อจะได้รับผิดชอบให้ ซึ่งปรากฎว่าเป็นคนรู้จักกันจึงมีการเคลียร์กันแล้วโดยทางผู้เสียหายจะนำรถให้ทางอู่ได้ประเมินราคาให้ ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าคุณพ่อนั้นอายุมากแล้ว และแต่ละบ้านนั้นมีความจำเป็นที่แตกต่างกันบางบ้านลูกดูแลพ่อ ซึ่งครอบครัวของตนนั้น พ่อดูแลทุกอย่างบางครั้งก็ต้องให้เงินลูกใช้เพราะเงินเดือน ส.ส.นั้นไม่พอใช้ และตนก็มีหนี้สินที่กู้มาจาก ธกส.ต้องส่งดอกเบี้ยปีละล้านกว่าบาท จึงต้องพึ่งพาคุณพ่ออยู่ ขณะเดียวกันตนนั้นเป็นคนกล้าพูดจนบางครั้งต้องมีปากเสียงกับคุณพ่อ แต่คุณพ่อก็ยังเมตตาและยังดูแลอยู่ แต่ตนก็ยังพยายามที่จะพูดให้คุณพ่อไม่ต้องขับรถ และก็ไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว เพราะพยายามหลายครั้งจนคุณพ่อหงุดหงิด แต่ก็จะไม่ลดความพยายามด้วยความรักคุณพ่อ แต่การพูดให้คุณพ่อหงุดหงิดมากๆ ก็เกรงว่าจะกลายเป็นบาป ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ไปท้วงติงมากๆ คุณพ่อก็จะไม่มีความสุข เวลาที่ท่านออกไปท่านก็เข้าใจท่านขับรถได้ ซึ่งเป็นอันตรายต่อสังคม ในช่วงที่เคยเกิดเหตุก็มีการสอบถามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าทำไมไม่มีการยึดใบขับขี่ ซึ่งทางตำรวจก็บอกว่าไม่มีอำนาจ ซึ่งวันนี้ยังไม่มีใครดำเนินคดีกับคุณพ่อ เพราะทุกคนอาจจะไม่ติดใจ แต่ลูกๆ ทุกคนยังคงติดใจอยู่ เพราะเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย จึงอยากให้คุณพ่อหยุดขับรถ และใครที่ยังมีคุณพ่อที่อายุมากอยู่และมีคนมาด่าคุณพ่อก็จะรู้สึกเหมือนตนเองตอนนี้ ซึ่งโชคดีว่าคุณพ่อเล่นโซเซียลไม่เป็นไม่เช่นนั้นก็จะทำให้คุณพ่อเป็นทุกข์มาก
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: