ราชบุรี ในวันนี้ ( 20 มี.ค.63) พล.ต.ต.อนุภาพ ศรีนวล ผบก.ภ.จว.ราชบุรี ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุเมืองนครปฐม ขอให้ช่วยสกัดจับคนร้ายที่ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงผู้อื่นเสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บสาหัส 2 ราย เหตุเกิดที่บริษัทขายรถ ยี่ห้อ อีซูซุ สาขาสระกะเทียม อ.เมือง จ.นครปฐม โดยคนร้ายคือ นายสุพัฒน์ สุขพันธ์ อยู่บ้านเลขที่ 35/315 ถนนบ้านปากแรต ซอยมายเฮาส์ ต.บ้านโป่ง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ส่วนผู้เสียชีวิตคือนายหฤษฎ์ คิดดี อายุ 45 ปี บ้านเลขที่ 44/6 ม.5 ต.หนองอ้อ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี และยังไม่ทราบชื่อผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 2 ราย ซึ่งถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลศูนย์นครปฐมไปก่อนหน้านี้แล้วทราบว่าอาการสาหัส
ภายหลังทราบชื่อผู้ก่อเหตุ พล.ต.ต.อนุภาพ ศรีนวล ผบก.ภ.จว.ราชบุรี จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.บ้านโป่ง เข้าตรวจสอบที่บ้านผู้เกิดเหตุพบรถยนต์ Honda Accord สีน้ำตาล ซึ่งเป็นรถคันที่ใช้ก่อเหตุ จอดอยู่ภายในบ้าน สอบถามบ้านข้างเคียงให้ข้อมูลว่าคนร้ายได้เปลี่ยนรถเป็นรถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว 4 ประตู ป้ายแดง เลขทะเบียน ก-5755 ราชบุรี หลบหนีออกจากบ้านไปประมาณ 5 นาที ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะมาถึง พล.ต.ต.อนุภาพ ศรีนวล ผบก.ภ.จว.ราชบุรี จึงได้สั่งการให้ทุกสภ.ตั้งจุดก้าวสกัดจับตามแผน เผชิญเหตุของ ภ.จว.จังหวัดราชบุรี
ต่อมาเจ้าหน้าที่ศูนย์วิทยุตำรวจสภ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ได้รับแจ้งว่าพบรถต้องสงสัย ขับอยู่บริเวณถนนเลียบคลองชลประทานบ้านโป่ง-โพธาราม มุ่งหน้าไปยัง วัดคงคาราม เขตอำเภอโพธาราม ศูนย์วิทยุบ้านโป่ง จึงแจ้งไปยัง สภ.โพธาราม ให้ช่วยตั้งด่านสกัดจับบริเวณหน้าวัดคงคาราม ต.คลองตาคต จนสามารถหยุดรถและจับกุมผู้ต้องหา พร้อมของกลางอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุได้พร้อมอาวุธปืนสั้น ปืนยาว รวม 8 กระบอก และเครื่องกระสุนปืนขนาดต่างๆจำนวนมาก เมื่อจับกุมได้แล้ว พล.ต.ต.อนุภาพ ศรีนวล ผบก.ภว.จ.ราชบุรี ได้เดินทางมาสอบปากคำผู้ต้องหาที่ สภ.โพธาราม เบื้องต้นผู้ก่อเหตุให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ก่อเหตุฆ่าผู้อื่นจริง สาเหตุมาจากเรื่องความขัดแย้งในที่ทำงาน โดยอ้างว่ามีปัญหากับผู้ตายมานานแล้ว นั้นมีการพูดจาเสียดสีกันหลายครั้ง และก่อนจะเกิดเหตุมีการประชุมกันที่บริษัทขายรถ ซึ่งผู้ตายก็มาพูดจาเสียดสีอีก จึงทำให้เกิดบันดาลโทสะชักอาวุธปืนยิง ประกอบกับตนนั้นเป็นคนชื่นชอบเรื่องของอาวุธปืนและชอบสะสมอาวุธปืนด้วย จึงทำให้มีอาวุธปืนหลายกระบอก และหลังก่อเหตุก็รู้ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องไปค้นที่บ้านพัก จึงกลัวถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจยึดไป จึงพยายามนำปืนทั้งหมดที่มีอยู่ในบ้านขนขึ้นรถกระบะ เพื่อจะนำอาวุธปืนทั้งหมดมาฝากไว้ที่บ้านญาติในพื้นที่อำเภอโพธาราม แต่ก็มาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งจุดสกัดจับกุมไว้ได้ก่อน ซึ่งขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุมผู้ก่อเหตุ ไม่ได้มีการขัดขืนขัดต่อสู้แต่อย่างใด
ส่วนอาวุธปืนที่ตรวจพบในรถผู้ก่อเหตุมี
1, อาวุธปืนยาวขนาด .17 ยี่ห้อ CZ 455 หมายเลขทะเบียน พท 6158733 จำนวน 1 กระบอกพร้อมกระเป๋าใส่ปืน จำนวน1ใบ 2, อาวุธปืนยาว .357 แม็กนั่มยี่ห้อรู้RUGER 77/357 ทะเบียนกท 5756218 จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระเป๋าใส่ปืนจำนวน 1 ใบ 3, ปืนยาวอัดลมเบอร์ 2 ยี่ห้อ IGT MACH 1 ไม่มีทะเบียน จำนวน 1 กระบอกพร้อมกระเป๋าใส่ปืนจำนวน 1 ใบ 4, อาวุธพกสั้นกึ่งอัตโนมัติยี่ห้อ SIG SAUER P938 ขนาด 9 มม.หมายเลขประจำปืน 52B00 5537 จำนวน 1 กระบอก ซองบรรจุกระสุน จำนวน 3 อัน ซองสำหรับใส่ปืนจำนวน 1 อัน(ปืนที่ใช้ก่อเหตุ) 5, อาวุธพกสั้นกึ่งอัตโนมัติ ยี่ห้อ SIG SAUER P229 ขนาด 9 มม.หมายเลขประจำปืน 55B09 5811 จำนวน 1 กระบอก ซองบรรจุกระสุน จำนวน 1 อัน ซองสำหรับใส่ปืนจำนวน 1 อัน 6, อาวุธพกสั้นกึ่งอัตโนมัติยี่ห้อ วอลเธอร์ PPK หมายเลขทะเบียน กท 55219633 ขนาด 380 จำนวน 1 กระบอก ซองบรรจุกระสุนจำนวน 1 อัน ซองสำหรับใส่ปืนจำนวน 1 อัน 7, อาวุธพกสั้นขนาด .38 หมายเลขปืน 219AK769 Model 67-1 หมายเลข C57 4243 จำนวน 1 กระบอก ซองสำหรับใส่ปืนจำนวน 1 อัน 8, อาวุธปืนบีบีกัน Model ยี่ห้อ Glock 18c จำนวน 1 กระบอก 9, กระสุนปืนขนาด 9 มม.จำนวน 98 นัด 10, กระสุนปืนขนาดจุด .38 จำนวน 6 นัด 11, กระสุนปืนขนาด .17 จำนวน 238 นัด 12, กระสุนปืนขนาด 380 จำนวน 18 นัด 13, กระสุนปืนขนาด .45 จำนวน 1 นัด 14, กระสุนปืนอัดลมเบอร์ 2 จำนวน 1 กล่อง
