หลังจากที่โลกโซเซียล ได้เผยแพร่คลิปวีดีโอ ที่มีเด็กไปขอซื้อยาเม็ด เขียวเหลือง จากร้ายขายยาชื่อ พีพี ฟาร์มา ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 154/313-314 ถ.ศรีสุริยวงศ์ เขตเทศบาลเมืองราชบุรี ซึ่งเป็นยาอันตราย จำนวน 30 เม็ด ในราคา 105 บาท โดยทางร้านก็ขายให้เด็ก และไม่สอบถามถึงวัตถุประสงค์ของการซื้อยาจำนวนมากๆ นอกจากนี้คนขายก็ไม่ใช่เภสัชกรที่ประจำในร้านขายยา ทำให้มีการแชร์ต่อข้อมูลดังกล่าวกันจำนวนมาก เนื่องจากตัวยาดังกล่าว ถือเป็นยาอันตราย เพราะเป็นยาแก้ปวดชนิดรุนแรง ซึ่งเด็กๆที่ไปซื้อยาชนิดนี้มานั้นจะนำไปผสมกับน้ำอัดลมและยาแก้ไอ หลังจากนั้นก็ดื่มเข้าไปแล้วเกิดอาการเคลิ้ม เหม่อลอย เวียนศรีษะ ไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากนอนหลับอย่างเดียว โดยเฉพาะในเด็กนักเรียนนั้นจะมีผลต่อการเรียนเพราะจะเรียนไม่รู้เรื่องทำให้ขาดเรียนบ่อย ซึ่งถ้ารับประทานติดต่อกันจะทำให้กระเพราะเป็นแผลอาเจียนเป็นเลือดและสุดท้ายก็ไตวาย หรือในบางรายที่เป็นโรคภูมิแพ้อยู่แล้ว ยาตัวนี้จะไปกระตุ้นให้อาการของโรคนั้นกำเริบได้เร็ว และทำให้เสียชีวิตเร็วขึ้น ซึ่งตอนนี้ในกลุ่มของเด็กนักเรียนในกลุ่มเยาวชนกำลังเป็นที่นิยมและติดกันงอมแงมเพราะหาซื้อได้ง่ายมีขายทุกร้านขายยา
ทำให้ในวันนี้(11 ก.ย.61) พ.ต.ต.อาคม โลภปัญญา สารวัตรสืบสวน กองกำกับการตำรวจภูธร จ.ราชบุรี ได้นำกำลังเข้าตรวจสอบที่ร้านดังกล่าวพร้อมด้วยนายสุพัฒน์ ตรีสกุล และนายกฤตธี พุทธิกานต์ เภสัชกรชำนาญการ สำนักงานสาธารณสุข จ.ราชบุรี พบนางสาวปยุดา จันตรี พนักงานขายยาอยู่ในร้าน และพบว่ามียาเขียวเหลือง ดังกล่าวอยู่ในร้านจำนวนมาก โดยนางสาวปยุดายอมรับว่าได้ขายยาดังกล่าวให้กับเด็กนักเรียนที่มาขอซื้อจริง และขายในช่วงที่ไม่มีเภสัชกรอยู่ เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวนางสาวปยุดา ไปทำการเปรียบเทียบปรับในข้อหาขายยาโดยไม่มีเภสัชกร และนางสาวปยุดา ยังได้ให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ว่า ยาเขียวเหลือง ที่ร้านนำมาขายนั้นเป็นแค่ยาแก้ปวด ไม่ใช่ยาทามาดอน ที่จัดอยู่ในประเภทยาอันตรายที่จะต้องขายตามใบสั่งแพทย์เท่านั้น ซึ่งที่ร้านนั้นไม่ได้ขายแต่มีร้านขายยาหลายร้านนั้นยังขายให้เด็กอยู่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เก็บข้อมูลทั้งหมดเพื่อจะได้เข้าไปตรวจสอบตามร้านขายยาต่อไป
ด้านนายสุพัฒน์ ตรีสกุล เภสัชกรชำนาญการ สำนักงานสาธารณสุข จ.ราชบุรี ก็บอกว่าร้านขายยาแห่งนี้มีใบอนุญาติถูกต้อง แต่จะผิดเรื่องที่ขายยาอันตรายโดยไม่มีเภสัชกรประจำร้านอยู่ และเป็นเรื่องของจิตสำนึกของร้านขายยาที่จะต้องทำการสอบถามข้อมูลจากลูกค้า ในเรื่องที่มาขอซื้อยาในครั้งละมากๆ โดยเฉพาะในเด็กๆที่มาซื้อ ซึ่งทางสำนักงานสาธารณสุขก็มีการออกสุ่มตรวจตามร้านเป็นประจำ รวมทั้งจัดอบรมในเรื่องของการขายยาให้กับกลุ่มลูกค้า เป็นประจำ แต่ในรายของร้านขายยาร้านนี้ถือว่าไม่มีจิตสำนึกในการขายยาเพราะแม้แต่เด็กๆมาขอซื้อยาเขียวเหลือง ครั้งละมากๆถึง 30 เม็ดก็ยังขาย ทั้งที่รู้ว่าเด็กๆนั้นนำยาไปใช้ผิดประเภท แต่ก็ไม่ได้สนใจ วันนี้จึงต้องให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินคดี และจะต้องดำเนินการกับร้านขายยาทุกร้านในจ.ราชบุรี ด้วย
