ราชบุรี เมื่อเวลา 18.10 น. วันที่ 3 พ.ค.63 พ.ต.อ.โชติช่วง ภาณุทัต ผกก.สส.ภ.จ.ราชบุรี ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.อาคม โลภปัญญา สารวัตรสืบสวนตำรวจภูธร จ.ราชบุรี วางแผนทำการส่งสายลับไปล่อซื้อยาบ้าจากนายนิรุธ กลองศรี อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 57 หมู่ 7 ต.หลุมดิน อ.เมือง จ.ราชบุรี หลังสืบทราบมาว่า นายนิรุธ นั้นเป็นเอเย่นต์ค้าส่งยาบ้าในพื้นที่ ต.หลุมดิน โดยได้ให้สายลับข่าวซึ่งเป็นเพื่อนของนายนิรุธที่ถูกจับกุมในข้อหาค้ายาบ้ามาก่อนหน้านี้แล้ว ทำการสั่งซื้อยาบ้าจำนวน 3,000 เม็ด แต่นายนิรุธนั้นอ้างว่าจะต้องสอบถามไปยังลูกพี่ก่อนว่าจะมียาบ้าพอหรือไม่ ซึ่งต่อมานายนิรุธ ได้โทรศัพท์แจ้งกลับมายังสายลับว่า ลูกพี่มียาบ้าแค่เพียง 2,000 เม็ด และจะนำมาส่งให้ก่อน ส่วนที่เหลืออีก 1,000 เม็ด จะนำมาส่งให้อีกภายในสองวัน ซึ่งภายหลังตกลงกันแล้ว นายนิรุธได้นำยาบ้ามาส่งให้สายที่บ้าน ในหมู่ 2 ต.เจดีย์หัก อ.เมือง จ.ราชบุรี ซึ่งเมื่อนายนิรุธนำยาบ้ามาส่งให้เจ้าหน้าที่ได้แสดงตัวเข้าจับกุม พบยาบ้าจำนวน 2,000 เม็ด ตามที่ได้มีการสั่งซื้อ และพบนายนิรุธ พร้อมกับเพื่อนอีกคนที่อยู่ในรถทราบชื่อต่อมาคือนายณัฐพล กองศรีกุลดิลก อายุ 38 ปี ลูกชายของอดีตสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดราชบุรี เป็นคนขับรถมาให้นายนิรุธ เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวมาสอบสวนที่กองกำกับการตำรวจภูธร จ.ราชบุรี
จากการสอบสวนในเบื้องต้นนายนิรุธให้การรับสารภาพว่าเป็นเอเย่นต์ค้ายาบ้าจริง และเมื่อมีการตรวจสอบข้อมูลในโทรศัพท์ของผู้ต้องหาทั้งสองก็พบว่ามีการเชื่อมโยงกัน โดยในช่วงที่สายลับโทรติดต่อนายนิรุธเพื่อขอซื้อยาบ้านั้น นายนิรุธบอกว่าจะต้องโทรสอบถามลูกพี่ก่อนว่ามียาบ้าเหลือเท่าไหร่ ซึ่งพบว่านายนิรุธ นั้นได้โทรศัพท์ไปหานายณัฐพลและพบว่ามีการพูดคุยกันถึงเรื่องของยาบ้าว่ามีจำนวนเท่าไหร่ มีคนจะสั่งซื้อ จากนั้นนายนิรุธได้โทรกลับมาบอกสายลับว่ามียาบ้าเหลือแค่สองพันเม็ด ซึ่งเชื่อได้ว่านายณัฐพล นั้นเป็นเอเย่นต์ส่งยาบ้าเหมือนกัน จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองคนไว้ดำเนินคดี พร้อมกับเตรียมขยายผลหาแหล่งที่มาของยาบ้าด้วย
