ราชบุรี ในวันนี้( 8 พ.ค. 63 ) จังหวัดราชบุรีเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อว่าผลิตโอ่งมังกรนิยมใส่น้ำเก็บไว้ใช้ มาตั้งแต่ยุดปี พ.ศ. 2476 ด้วยชาวจีนโพ้นทะเลที่อพยพเข้ามาตั้งรกรากอยู่ที่ราชบุรี แต่ในปัจจุบันโอ่งมังกรมีการผลิตลดน้อยลงเต็มทีด้วยปัจจัยอย่างอื่นเข้ามาแทนที่ โอ่งมังกรจึงได้ถูกดัดแปลงไปทำอย่างอื่น นอกจากไว้ใส่น้ำแล้ว นำไปจัดสวนปลูกต้นไม้ หรือเป็นของสะสมเก็บไว้ภายในบ้านหรือดัดแปลงไปทำอย่างอื่นได้
แต่นายพา สินเจริญ และนางมุกดา เขียวไผ่ สองสามีภรรยา อยู่บ้านเลขที่ 66 หมู่ 10 ต.ธรรมเสน อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ซึ่งกำลังประสบกับปัญหายุควิกฤตโควิด -19 พยายามมองหาลู่ทางการทำมาหากินเลี้ยงครอบครัว จนมาพบกับโอ่งมังกรเก่า ๆ ตั้งอยู่ที่บ้านนานหลายสิบปี จึงนำมาดัดแปลงเจาะที่ก้นโอ่งแล้วนำเตาอั้งโล่เข้าไปใส่ข้างใน ใช้ถ่านเป็นเชื้อเพลิง มีการอ๊อกเหล็กทำเป็นขาตั้งและหูจับ ด้านในเจาะน็อตเป็นช่วง ๆ แล้ววางเหล็กเป็นราววงกลมไว้สำหรับตะขอแขวน มีฝาเหล็กปิดด้านบน นำข้าวโพดสีเหลืองสายพันธุ์สวิส เสียบลวดเหล็กไปแขวนไว้ในราววงกลมอบในโอ่งมังกร เป็นการอบข้าวโพดขายเพื่อเสริมรายได้ให้กับครอบครัว เนื่องจากโอ่งมังกรมีข้อดี มีประโยชน์คือ ทำให้ข้าวโพดมีกลิ่นหอมอบอวน นุ่ม หวาน กินละมุนลิ้น โดยเพิ่งทดลองเปิดขายมาได้ไม่นานนี้เอง หลังจากที่ลองผิดลองถูกอยู่ประมาณ 2 วัน ใช้เวลาอบข้าวโพดแต่ละครั้งจนได้สูตรที่ลงตัว ข้าวโพดอบออกมาเป็นสีเหลืองนวลส่งกลิ่นหอมถูกปากลูกค้า โดยนำมาขายที่บริเวณถนนสายราชบุรี – อรัญยิก – เขางู ตำบลเจดีย์หัก อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี
ซึ่งนายพา สินธุเจริญ เจ้าของร้านข้าวโพดอบโอ่งมังกร เปิดเผยว่า ตัวเองมีอาชีพเป็นช่างอ๊อกเหล็กต่อรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง ภรรยาอยู่บ้าน หลังจากที่ประสบปัญหาเรื่องงานอาชีพช่วงสถานการณ์โควิด -19 ลงทะเบียนแล้วแต่ยังไม่ได้รับเงินเยียวยา 5,000 บาท จากรัฐบาล จึงต้องพยายามดิ้นรนหาอาชีพเสริมช่วยเหลือตัวเองและครอบครัว เลยพยายามมองหาอาชีพเสริมให้กับครอบครัว เคยเห็นบางคนนำข้าวโพดย่างกันเยอะ จึงคิดว่าถ้าลองนำมาอบในโอ่งมังกรดู ทำให้ข้าวโพดมีกลิ่นหอม และไม่ค่อยมีควันลอยเหมือนกับข้าวโพดย่าง โดยจะใส่ถ่านไว้ในเตาด้านล่างก้นโอ่ง แล้วนำข้าวโพดที่เกี่ยวตะขอไปวางเรียงในโอ่งครั้งละ 20 ฝัก ซึ่งตามปกติที่เคยเห็นจะมีแค่ไก่อบโอ่ง ไก่ย่างบนเตาไฟ แต่ข้าวโพดอบโอ่งยังไม่มีใครนึกคิดขึ้นมาทำ จึงได้ลองทำดูผ่านมาได้ 5 วันแล้ว ช่วงแรกขายได้ดีมากวันละประมาณ 40 กิโลกรัม โดยไปซื้อข้าวโพดที่ตลาดศรีเมืองมา ถุงหนึ่งจะมีข้าวโพดประมาณ 23 – 25 ฝัก มาย่างประมาณ 20 – 25 นาที จะเริ่มมีกลิ่นหอมโชยออกมาจากโอ่งแสดงว่าสุกและนำออกมาวางขายได้แล้ว ลูกค้าบางคนติดใจซื้อแต่ละครั้ง 4 – 5 ฝัก ขายอยู่ฝักละ 10 บาท คิดเองทำเอง รายได้ต่อวันหักทั้งทุนและกำไรแล้วเหลือใช้ประมาณเฉลี่ยวันละ 200 – 300 บาท พออยู่ได้ในยามนี้
อย่างไรก็ตามการใช้เวลาอบข้าวโพดในโอ่งค่อนข้างนานประมาณ 20 นาที ถึงจะสุกกินได้ ใครที่ผ่านไปถนนสายอรัญญิก – เขางู อรัญญิกซอย 6 ก็แวะอุดหนุนได้จะเห็นป้ายเขียนข้อความว่า ข้าวโพดอบโอ่ง ลองซื้อไปรับประทานดู เห็นว่าขายดีจนอบกันแทบไม่ทันเลยทีเดียว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: