ในวันนี้( 22 ม.ค. 64 ) ที่ห้องประชุม สภ.ทุ่งหลวง อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี นายสุธี เล้าสุบินประเสริฐ นายอำเภอปากท่อ เป็นประธานประชุมการตรวจสอบที่ดินในพื้นที่เขตป่าสงวนแห่งชาติ เขต อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี มีนายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น (คปต.) นายจุมพฎ ชอบธรรม ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดราชบุรี นายพัฒนะ ศิริมัย ผู้อำนวยการศูนย์ป่าไม้ราชบุรี นายสุชาติ บัวบาง เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญงาน หัวหน้าสายตรวจปราบปรามการกระทำผิดว่าด้วยการป่าไม้ที่ 10 (ราชบุรี) กรมป่าไม้ พ.ต.อ.อิทธิพล พรเทวบัญชา ผู้กำกับ สภ.ทุ่งหลวง อ.ปากท่อ พระสงคราม เอื้อนยศ อดีตนักอนุรักษ์ในพื้นที่ตำบลทุ่งหลวง และชาวบ้านนักอนุรักษ์กลุ่มหนึ่งเข้าร่วมประชุม
ทั้งนี้นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น (คปต.)ได้เดินทางมาร้องขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบที่ดินของนายทุนบริษัทแห่งหนึ่ง อ้างว่ามีเอกสารสิทธิ์ได้มีการบุกรุกทำประโยชน์ปลูกต้นยูคาลิปตัส และขุดบ่อลูกรังนำไปขาย โดยนายวีระ สมความคิด อ้างว่าที่ดินดังกล่าวนั้นอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าพุสามซ้อน ป่าไม้ถาวร มีการประชุมชี้แจง โดยผู้แทนจากหน่วยงานต่าง ๆ พร้อมแสดงภาพแผนที่ประกอบแนวเขตแต่ละจุดอย่างละเอียด
หลังเสร็จการประชุม ทางคณะได้ลงตรวจสอบพื้นที่หลายจุดที่ได้มีการพูดถึง โดยมีพระสงคราม อดีตนักอนุรักษ์ นำไปชี้แต่ละจุดเคยมีการร้องเรียน ประกอบด้วย จุดที่ 1 นายวีระ และคณะนำเจ้าหน้าที่ป่าเดินทางเข้าไปในป่าที่มีการปลูกต้นยูคาลิปตัส พร้อมใช้โทรศัพท์มือถือจับพิกัดแผนที่ภาพถ่ายของดีเอสไอ ระบุพบว่าที่ดินที่ยืนอยู่นี้ อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ อีกทั้งทางพระสงคราม เอื้อนยศ ก็ยังพาเดินเข้าไปตรวจสอบพื้นที่พบเสาหินปูนสี่เหลี่ยม สูงประมาณ 1 เมตร เก่าสภาพเริ่มชำรุด ที่ข้างเสาเขียนระบุว่าเขตป่าสงวนแห่งชาติติดไว้ ปักอยู่กลางไร่ปลูกต้นยูคาลิปตัส เจ้าหน้าที่ได้จดทำบันทึกไว้เป็นหลักฐาน นายวีระได้สอบถามหน่วยงานป่าไม้ก็ยอมรับว่า ที่ดินตรงนี้อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติจริง
จากนั้นคณะได้เดินทางไปตรวจสอบจุดที่ 2 สภาพมีการขุดเอาดินจากบริเวณนี้ไปขาย ลักษณะเป็นดินบ่อลูกรัง เจ้าหน้าที่ใช้อากาศยานไร้คนขับหรือ โดรน ขึ้นไปบินสำรวจพื้นที่ พบว่ามีการการขุดลูกรังไปขาย พื้นที่ดินถูกขุดลึกลงไป จากอดีตเป็นที่ดินเรียบ นายวีระใช้โทรศัพท์มือถือจับพิกัดพบว่าเป็นที่ดินอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ สอบถามเจ้าหน้าที่ป่าไม้ก็ยอมรับอีกเช่นกันว่าอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำบันทึกไว้เป็นหลักฐาน จุดที่ 3 อยู่บริเวณหมู่ที่ 16 ต.ทุ่งหลวง สภาพเป็นบ่อลูกรังลึกมีแอ่งน้ำขังในรัศมีเป็นพื้นที่กว้าง จากการขุดลูกรังนำไปขาย อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ จุดที่ 4 คณะได้ไปตรวจสอบที่ดินที่มีการขุดบ่อลูกรังหลายจุดเป็นบ่อลึก เมื่อยิงพิกัดแล้วพบว่าอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ โดยนายวีระ สมความคิดได้พาคณะเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบที่ดินอีกหลายจุด พร้อมกับใช้โทรศัพท์มือถือจับพิกัด และสอบถามเจ้าหน้าที่ป่าไม้ทุกจุดพบว่า ที่ดินที่พาไปตรวจสอบนั้น อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าพุยาง ป่าพุสามซ้อน เขตตำบลทุ่งหลวง อำเภอปากท่อ
พระสงคราม อดีตนักอนุรักษ์ กล่าวว่า รับไม่ได้กับการกระทำ ที่ได้ทำลายสิ่งแวดล้อม คือ พื้นที่ป่าหายไป ตนเองก็ได้เคยทำหลายอย่างมาแล้ว ทั้งเคยเป็นหมอดิน เป็นเกษตรของอำเภอ ดูแลรักษาผืนป่าก็ทำมาแล้ว ทำเยอะมากไป แล้วพอมาเจอความผิดจึงรับไม่ได้ มีหน่วยงานจากสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ มาจัดทำแนวเขตส่งให้ ว่าพื้นที่แนวเขตเป็นอย่างไร จากไม่มีน้ำทำการเกษตร พัฒนาจนมีน้ำทำการเกษตรตลอดทั้งปี ตอนนี้เกษตรกรมีรายได้ทั้งปี ทั้งช่วงหน้าแล้ง ช่วงหน้าฝน ที่จะพัฒนาให้มีรายได้ แต่ไม่ได้พัฒนาให้มันเสียหายในขณะนี้ ทำเฉพาะขุดลอกคลองให้น้ำไหลลงมาและกักเก็บน้ำไว้เป็นท่อน ๆ เพื่อไม่ให้เสียทรัพยากร ทำให้เกษตรกรได้ผลผลิตตลอดทั้งปี แต่มาวันนี้มีนายทุนเข้ามาบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ชาวบ้านจึงได้มีการร้องเรียนไปหลายหน่วยงานมาโดยตลอด แต่ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข
นายสุชาติ บัวบาง เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญงาน หัวหน้าสายตรวจปราบปรามการกระทำผิดว่าด้วยการป่าไม้ที่ 10 ( ราชบุรี ) กล่าวว่า ที่ดินบางส่วนที่มีการขุดดินไปมีอยู่ประมาณ 400 ไร่เศษ ที่มีร่องรอยการขุดดินระหว่าง 2 จุด เมื่อประมาณ 5-6 ปีที่แล้ว มีการร้องเรียนไปที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องเรียนของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมว่า พื้นที่บริเวณดังกล่าวนี้มีการบุกรุก แผ้วถางป่า ยึดถือครอบครอง บุกรุกพื้นที่โครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติ ประมาณ 5,000 ไร่ ที่ผ่านมาได้มาตรวจสอบทั้งหมดที่มีการร้องเรียน พื้นที่ตรวจสอบประมาณ 1,500 ไร่ ทั้งหมด 3 จุด จุดที่มีการขุดลูกรัง จุดที่มีการร้องว่ามีการบุกรุกแปลงปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติ 3 จุดรวมเนื้อที่ประมาณ 2,000 ไร่ จากการตรวจสอบวันนั้นมีการแสดงเอกสารสิทธิ์ และเป็น นส. 3 ก ทั้งหมด ส่วนกระบวนการว่าจะออกเอกสารถูกต้องหรือไม่นั้น ก็เป็นเรื่องของกระบวนการที่จะต้องตรวจสอบกันต่อไป ยืนยันว่าจากรูปแผนที่ท้ายกฎกระทรวงว่า พื้นที่ประมาณ 2,000 ไร่นั้น อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าพุยาง พุสามซ้อนทั้งหมด ซึ่งคงต้องไปว่ากันตามกระบวนการของกฎหมายว่า การออกเอกสารสิทธิ์นั้นถูกต้องหรือไม่อย่างไรต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: