ราชบุรี ในวันนี้( 27 ม.ค. 64 ) ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดราชบุรี ได้มีตัวแทนชาวบ้าน จากตำบลห้วยไผ่ อำเภอเมือง ตำบลทุ่งหลวง อ.ปากท่อ และอ.จอมบึง จ.ราชบุรี จำนวนหนึ่ง ได้นำน้ำเสียใส่แกลลอนและใส่ขวดน้ำ เดินทางมาเรียกร้องขอให้ทางจังหวัดราชบุรีแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำเสียที่เกิดจากฟาร์มหมูอย่างจริงจัง และทวงถามความคืบหน้าที่ผ่านมาเรื่องการสรุปผลการตรวจวัดคุณภาพน้ำ ทั้งที่น้ำเสียจากฟาร์มสุกรไหลลงสู่ลำรางสาธารณะที่ ต.ทุ่งหลวง น้ำเสียซึมลงสู่ใต้ดิน บริเวณสวนสาธารณะพื้นที่หมู่ 2 ต.ห้วยไผ่ อ.เมือง และน้ำเสียจากฟาร์มสุกรหมู่ที่ 5 ต.จอมบึง อ.จอมบึง ที่มีน้ำเสียซึมลงใต้ดิน จนเป็นปัญหาเรื่องของทำการเกษตรและใช้อุปโภค บริโภคไม่ได้ ตามที่สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 8 ได้ดำเนินการตรวจวัดคุณภาพน้ำไปแล้ว
โดยในหนังสือระบุว่า ตามหนังสือศูนย์ศึกษาการเรียนรู้ตามแนวพระราชดำริบ้านดอยดิน ลงวันที่ 29 กรกฎาคม 2563 ขอความอนุเคราะห์จากสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 8 ลงพื้นที่ตรวจสอบคุณภาพน้ำบริเวณสวนสาธารณะหมู่ที่ 2 ต.ห้วยไผ่ อ.เมือง สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 8 ได้ดำเนินการติดตามตรวจสอบคุณภาพน้ำบริเวณดังกล่าวแล้ว จำนวน 2 จุด ตรวจวัดและได้เข้าสำรวจในวันที่ 4 สิงหาคม 2563 จากข้อมูลการตรวจสอบคุณภาพน้ำภาคสนาม และผลการตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการ พบว่าคุณภาพน้ำมีค่าดัชนีชี้วัดคุณภาพน้ำไม่เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด ซึ่งการใช้น้ำเพื่อการอุปโภค บริโภคต้องผ่านการฆ่าเชื้อโรคตามปกติและผ่านกระบวนการปรับปรุงคุณภาพน้ำก่อน ซึ่งชาวบ้านเห็นว่าการทำงาน ของภาครัฐยังไม่ได้แก้ไขอย่างจริงจัง น้ำเสียดังกล่าวจึงดูเหมือนว่ายังไม่ได้รับการแก้ไข จึงต้องนำน้ำเสียดังกล่าวใส่ขวดและแกลลอนมาให้เจ้าหน้าที่ดูว่า จะกล้าใช้ล้างหน้า หรือหุงข้าวได้หรือไม่
ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ได้เชิญผู้มาร้องเรียนไปพูดคุยที่ห้องประชุมอำเภอเมือง โดยมีนายไกรธวัช ทินโสม ปลัดจังหวัดราชบุรี น.ส.ประภารัตน์ นาคผจญ ผอ.กลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรม จ.ราชบุรี นายทศพล เผื่อนอุดม นายอำเภอเมือง พ.ต.ท.รัฐศักดิ์ อิ่มฤทธา รอง ผกก.ป. สภ.เมืองราชบุรี เจ้าหน้าที่จาก สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 8 ราชบุรี เจ้าหน้าที่จากสำนักงานปศุสัตว์จังหวัด พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม โดยมีชาวบ้านทวงถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถึงการหามาตรการเร่งแก้ไขปัญหากรณีน้ำเสียจากฟาร์มหมูไหลลงสู่ใต้ดินส่งผลกระทบทำให้ชาวบ้านปลูกพืชผักการเกษตรไม่ได้ ผ่านมานานแรมปี ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน เพียงของให้แก้ปัญหาด้วยการให้ชาวบ้านอยู่ได้ ฟาร์มหมูก็อยู่ได้ โดยไม่ให้เกิดปัญหาเดือดร้อนต่อกัน
ทางปลัดจังหวัดราชบุรีได้ประสานหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องเข้ามาชี้แจงข้อมูลรายละเอียด ขั้นตอน การดำเนินการแก้ไขแต่ละแห่งตามอำนาจหน้าที่ที่ดูแลรับผิดชอบ ใช้เวลาพูดคุยนานกว่า 1 ชั่วโมง จึงได้ข้อสรุป
โดยนายไกรธวัช ทินโสม ปลัดจังหวัดราชบุรี เปิดเผยว่า จะเริ่มหาข้อเท็จจริงกับนายอำเภอ คาดว่าประมาณสัปดาห์หน้าหน่วยงานต่าง ๆ จะลงไปตรวจสอบพื้นที่ เพื่อแสวงหาข้อเท็จจริง นำมาสู่การประมวลข้อกฎหมาย เพื่อนำมาใช้ในคณะทำงานนี้ แล้วจะมีการนัดประชุมผู้เกี่ยวข้องรวมทั้งผู้ได้รับผลกระทบ จะต้องมีเอกสารรายละเอียดที่ถูกต้องนำมาประกอบการแนวทางแก้ไข สำหรับการแก้ไขปัญหาจะมีในเรื่องการแก้ไขเบื้องต้น และระยะยาวจะทำอย่างไรในอนาคตที่เป็นรูปธรรมชัดเจนต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: