X

ญาติหนุ่มกุเรื่องร่อนทองเจอ ออกมาขอโทษอ้างรู้เท่าไม่ถึงการณ์และชอบสร้างเรื่อง

ราชบุรี    จากกรณีที่นายกรภัทร   พรของแม่  อายุ 33 ปี  อยู่บ้านเลขที่ 9/44  เพชรเกษมซอย 1  ต.หน้าเมือง  อ.เมือง  จ.ราชบุรี  ได้โพสต์เฟซบุ๊กว่า ไปร่อนเจอทองในลำห้วยดอนแจง  หมู่ 4  ต.ดอนตะโก  อ.เมืองราชบุรี และได้นำไปให้ร้านทองตรวจสอบก็พบว่าเป็นทองคำแท้  จึงทำให้มีประชาชนที่ทราบข่าว ทั้งจากในพื้นที่อำเภอเมืองและต่างจังหวัดต่างก็พากันนำอุปกรณ์แห่ไปร่อนหาทองในลำห้วย  จนทำให้ทางนายอำเภอเมือง  ต้องทำการสั่งปิดพื้นที่ เนื่องจากเกรงจะเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และเข้าข่ายกระทำความผิด พ.ร.บ.แร่   ต่อมาก็ได้ออกมาเปิดเผยความจริงว่าเรื่องทั้งหมดนั้นตนเองกุเรื่องขึ้นมาเพื่ออยากจะดัง   รวมทั้งอ้างว่ามีนักข่าวท้องถิ่นคนหนึ่งคอยให้การช่วยเหลือในการจัดฉาก   ดังที่มีการเสนอข่าวไปแล้วนั้น

            ล่าสุดวันนี้ (28 ม.ค.64)    ซึ่งในวันนี้นายกรภัทร  พรของแม่  ได้นัดหมายกับเพื่อจะเข้าพบนายทศพล  เผื่อนอุดม นายอำเภอเมืองราชบุรี   แต่ก็ยังไม่มาตามนัดซึ่งเมื่อติดต่อไปยังนายกรภัทร กลับอ้างว่าตอนนี้รู้สึกเครียดมาก อยากฆ่าตัวตาย เพราะเจอกระแสต่อต้านจากสังคมเยอะ  และอยากจะขอโทษชาวราชบุรีทุกคนด้วยที่พูดไปแบบนั้น เนื่องจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์  ตอนนี้ขอพักผ่อนสมอง ที่จังหวัดเพชรบุรีก่อน และยังไม่พร้อมเจอหน้าใคร และต้องขอโทษนายอำเภอราชบุรี ที่ตนไม่ได้เดินทางไปพบตามนัดหมายหลังจากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย

       ด้านนายทศพล เผื่อนอุดม นายอำเภอเมืองราชบุรี เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้รับฟังคำสารภาพ จากครูหนุ่มแล้ว ว่าลงไปหาปลาไม่ใช่เรื่องจริงทั้งหมดเป็นการกุข่าวขึ้นมา มีจริงบ้างเท็จบ้าง เป็นความคึกคะนอง เรื่องที่บอกว่าเป็นทองรูปพรรณที่เป็นจี้กระต่ายนั้นอันนี้เป็นเรื่องจริงเขาบอกว่าพบจริง แต่ยังไงแล้วต้องเป็นหน้าที่ตำรวจที่จะสอบสวนข้อเท็จจริงว่าคืออะไรแต่เขายืนยันว่าตัวที่เขาพบจี้กระต่ายนั้นจริงแต่หลังจากนั้นก็โพสต์เอาสนุกใน Facebook เพื่อให้คนสนใจและเห็นคนมากดไลค์กันก็เลยกลายเป็นเป็นเรื่องเป็นประเด็นขึ้นมาประกอบกับมีผู้สื่อข่าวให้ความสนใจจนเป็นเรื่องราวขึ้นมาใหญ่โตจนบานปราย พร้อมกับยังพูดถึงนักข่าวที่อยู่เบื้องหลังท่านหนึ่งต้องเป็นหน้าที่ที่ต้องไปให้คำตอบกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพนักงานสอบสวนอีกทีนึง ว่าเรื่องจริงเรื่องเท็จเป็นมาอย่างไร และประกอบความผิดอะไรหรือไม่ แต่ต้องดูรายละเอียดองค์ประกอบว่าเข้าข่ายความผิดอื่นๆ ไหม  เบื้องต้นการเอาผิดครูหนุ่มนั้น ต้องดูว่าว่าสามารถดำเนินคดีในเรื่องไหน แต่เป็นความผิดต่อรัฐเจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถดำเนินการได้ ต้องดูรายละเอียดอื่นควบคู่ไปด้วยว่าหน่วยงานรัฐหน่วยงานใดโดยเฉพาะคลองชลประทานมีอะไรเสียหายไหมผู้ที่รับผิดชอบพื้นที่ในพื้นที่พื้นที่มีอะไรเสียหายไหมพร้อมทั้งประสานไปยังพื้นที่ที่รับผิดชอบคลองดังกล่าว ทั้ง อบต. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตรวจสอบความเสียหายให้รวบรวมมาร้องทุกข์กล่าวโทษไปตามขั้นตอน ส่วนผู้ที่ถูกกล่าวหาถูกพาดพิงก็ต้องมาชี้แจงแสดงพยานหลักฐานว่าไปตามขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรม

   ขณะที่พ.ต.ท.รัฐศักดิ์ อิ่มฤทธา รอง ผกก.ป. สภ.เมืองราชบุรี   ก็กล่าวว่า เบื้องต้นได้ประสานติดต่อเจ้าตัวอยู่ ทราบว่าหลบไปพักในพื้นที่เงียบ แจ้งว่าตอนนี้ระแวงกลัวถูกทำร้าย รู้สึกเครียดมาก อยากฆ่าตัวตาย เพราะเจอกระแสต่อต้านจากสังคมเยอะ  ตอนนี้ขอพักผ่อนสมองก่อน และยังไม่พร้อมเจอหน้าใคร พร้อมเตรียมประสานเชิญมาสอบปากคำกับพนักงานสอบสวนต่อไป ส่วนการเข้าข่ายความผิด นั้น เบื้องต้นที่ไปโพสในเฟซ อาจจะเป็นเรื่องการกระทำผิดในเรื่องของ พรบ.คอมพิวเตอร์  นำข้อมูลข่าวสารอันเป็นเท็จ สร้างความตกใจให้กับประชาชน ส่วนในเรื่องอื่นๆ ถ้ามีหน่วยงานใดที่ได้รับความเสียหายก็จะดำเนินการเพิ่มเติมต่อไป ซึ่งอยู่ระหว่างรอให้นายกรภัทร มีสภาพจิตใจที่ดีขึ้นก่อน เพราะทราบมาว่าเคย ป่วยโรคจิต ซึมเศร้า หากหายดีแล้วจะเรียกมาสอบสวน เอาผิดฐานนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ /ส่วนเรื่องความผิดอื่น ต้องดูองค์ประกอบความผิดอย่างละเอียดอีกครั้ง

     หลังจากนั้นนายสมเกียรติ  เฉลิมดิษฐ์ อายุ 62 ปี   ซึ่งเป็นลุงของนายกรภัทร หรือ ครูหนุ่ม ได้เดินทางมาเข้าพบพูดคุยกับนายทศพล เผื่อนอุดม นายอำเภอเมืองราชบุรี เปิดเผยพฤติกรรม นิสัยของนายกรภัทร ว่าเป็นคนชอบแกล้งคนชอบสร้างเรื่อง ตั้งแต่เล็กๆ เคยทำของในบ้านหลายอย่างพัง ทั้งวิทยุก็เอากาวไปหยอดปุ่มเปิดเสียง เอานาฬิกา มาสลับเข็มเดิน รวมทั้งยังไปสอยมะพร้าวที่บ้านในสวนจนหมดต้นทั้งลูกอ่อนลูกแก่   เพราะตนเองจะรู้นิสัยดีว่าเป็นเด็กยังไงชอบหาเรื่องเดือดร้อนมาให้ น้องอาจจะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ตามประสาเด็กป่วยทางจิต โดยแม่ของน้องเองก็ยินดีขอโทษประชาชนพร้อมยอมรับผิดชอบเพราะลูกเป็นแบบนี้ตั้งแต่เล็ก ซึ่งวันนี้แม่ของนายนายกรภัทร ได้ให้ลุงเป็นตัวแทนเนื่องจากแม่ทำงานต่างจังหวัดหากกลับมาก็ต้องกักตัว 14 วัน เลยให้คุณลุงดำเนินการให้   ได้กล่าวขอโทษชาวราชบุรี   และทุกคนที่แห่กันไปร่อนทอง รวมทั้งขอโทษส่วนราชการทุกส่วนที่ทำให้เดือดร้อน ทั้งหมดที่เกิดขึ้นไม่ได้มีเจตนาหลอกลวงใคร เกิดจากการรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ของเด็กที่ป่วยทางจิต   ซึ่งตอนนี้ตนเองก็ยังไม่สามารถติดต่อ  นายกรภัทร ได้ทั้งมือถือและทางไลน์ แต่หากติดต่อได้  ก็จะพูดคุยให้เข้ามาพบกับนายอำเภอทันที

ซึ่งภายหลังนายกรภัทร  ได้ส่งคลิปวีดีโอ สั้นๆขณะกำลังร้องไห้อย่างหนักและพูดว่าผมอยากฆ่าตัวตายแล้ว เพราะผมไม่ไหวกระแสต่อต้านผมเยอะมาก  ที่ผมทำไปเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์เท่านั้น ผมขอโทษทุกคนด้วยที่ผมคิดสั้นลงไป

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

Picture of สายชล โอชะขจร

สายชล โอชะขจร

ผู้สื่อข่าวราชบุรี