ราชบุรี เมื่อเวลา 11.45 น. วันที่ 29 ม.ค.64 พ.ต.ท.กัมปนาท ท้ายวัฒน์ สารวัตรเวร สภ.เมืองราชบุรี ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายวิ่งราวทรัพย์ ที่ร้านทองน่ายู่หมง ซึ่งตั้งอยู่ภายในตลาดเทศบาลเมืองราชบุรี ถนนศรีมหาเกษตร ตำบล หน้าเมือง อำเภอเมืองราชบุรี จึงประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรและกำลังชุดสืบสวน สภ.เมืองราชบุรี ซึ่งลักษณะของคนร้ายมีรูปร่างสันทัด สวมเสื้อคุมแขนยาวสีดำ มีผ้าก๊อตปิดแผลบริเวณหูขวา นุ่งกางเกงยีนส์ สวมหน้ากากอนามัยสีดำ โดยพฤติการณ์ของคนร้ายคือ ทำทีมาขอซื้อสร้อยทองคำหนัก 3 บาท โดยขอให้คนขายในร้านนั้นหยิบลายที่ต้องการมาให้เลือกจำนวน 3 เส้น น้ำหนักรวม 9 บาท จากนั้นคนร้านได้ขอถ่ายรูปอ้างว่าจะส่งให้แฟนดูในการเลือกลายทอง จากนั้นหาช่วงจังหวะช่วงที่เจ้าของร้านเผลอ ได้คว้าทองทั้งสามเส้นไป ก่อนจะวิ่งออกไปทางประตู หลบหนีไปตามเส้นทางภายในตลาด ซึ่งคนร้ายใช้เวลาก่อเหตุไม่ถึง 10 นาที จังหวะนั้นอาสาสมัครชุดปะฉะดะ สภ.เมืองราชบุรี ที่อยู่ในบริเวณดังกล่าวได้รับแจ้งและเห็นคนร้ายวิ่งมาพอดี จึงได้วิ่งไล่ตามแต่ไม่ทันจึงได้วิทยุแจ้ง รูปพรรณของคนร้ายพร้อมกระจายกำลังค้นหา ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรที่อยู่ป้องกันเหตุตามจุดแยกต่างๆ ได้กระจายกำลังกันค้นหา จนพบคนร้ายตามลักษณะที่แจ้งมา เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าจับกุมและขอตรวจค้น แต่ไม่พบของกลางในตัว แต่ทราบชื่อคือนายนายณัฐรัตน์ ทาเกตุ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 167/1 ถ.สมบูรณ์กุล เขตเทศบาลเมืองราชบุรี จึงนำตัวมาเค้นสอบจนคนร้ายยอมบอกว่า นำทองไปซ่อนที่บริเวณข้างถังขยะใกล้ร้านสะดวกซื้อ ถนนเลียบทางรถไฟ จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาไปชี้จุดที่นำทองไปซ่อน ซึ่งมีทองทั้งหมด 3 เส้น เส้นละ 3 บาท รวมทั้งหมด 9 บาท มูลค่ากว่า 80,000 บาท จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางมาสอบสวนที่สภ.เมืองราชบุรี
โดยเบื้องต้นนั้นนายณัฐรัตน์ ให้การรับสารภาพว่าเป็นคนที่ก่อเหตุวิ่งราวทองจากร้านทองจริง ส่วนสาเหตุที่ลงมือก่อเหตุเพราะว่าไปเล่นการพนันออนไลน์ (บาคาร่า) จนทำให้มีหนี้สินจากการเล่นพนันออนไลน์มากกว่า 40,000 บาท จึงคิดหาทางนำเงินมาใช้หนี้ โดยการทำทีไปขอซื้อทองแล้วฉวยโอกาสวิ่งราวทอง ตั้งใจว่าถ้าได้ทองคำมาแล้วจะนำไปขายก่อนเพื่อนำเงินมาใช้หนี้ แต่ก็มาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้เสียก่อน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาวิ่งราวทรัพย์ผู้อื่น และจะนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพและดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป ส่วนประวัติของผู้ต้องหานั้นทางเจ้าหน้าที่กำลังทำการตรวจสอบว่าเคยมีประวัติในการก่ออาชญกรรมมาก่อนหรือไม่ เพื่อจะได้ดำเนินการต่อไป
