ราชบุรี ในวันนี้( 16 ก.พ. 64 ) ทนายอนันตชัย ไชยเดช พร้อมด้วย 7 องค์กรคนพิการ ได้เดินทางมาที่สภ.โพธาราม จ.ราชบุรี เพื่อมาติดตามสอบถามในเรื่องคดีที่นางสาวปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ แจ้งความดำเนินคดีกับ นายอนันตชัย ไชยเดช นายชูศักดิ์ จันทยานนท์ ประธานมูลนิธิออทิสติกไทย และนางสาวเพียงฝัน นาคสุขไพบูลย์ นักเรียนทุนแพทย์ปริญญาเอกในประเทศอังกฤษ กับ พ.ต.อ.สมมาตร จันทรัตน์ ผกก.สภ.โพธาราม
โดยนายอนันตชัย กล่าวว่า วันนี้แค่จะมาดูว่านางสาวปารีณา นั้นแจ้งข้อกล่าวหาอะไรกับใครบ้าง ซึ่งตนก็จะขอชี้แจงกับทางตำรวจตามสิทธิ์ ซึ่งถ้าคดีไม่เข้าองค์ประกอบ ตนกับ 7 องค์กร นั้นจะทำการฟ้องกลับ โดยไปฟ้องที่ศาลเลย เพื่อไม่ให้ทางตำรวจนั้นยุ่งยาก เพราะตำรวจก็มีคดีอยู่มากมาย จึงไม่ต้องการให้เป็นภาระของเจ้าหน้าที่อีก และต้องการที่จะให้เป็นคดีตัวอย่างด้วย จะไม่ทำให้เจ้าหน้าที่เดือดร้อน เพราะการแจ้งความทิ้งไม่ได้หวังผลอะไร จะทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเสียเวลา นอกจากนี้ตนก็จะไปยื่นร้องกับอีกหลายหน่วยงาน ซึ่งนางสาวปารีณา นั้นเป็นผู้แทนของประชาชนต้องดูแลประชาชน ไม่ใช่มาไล่ฟ้องประชาชน นางสาวปารีณานั้นจะต้องเจอกับตนเอง เจอกับคนอื่นไม่เหมาะ เพราะตนนั้นจะเดินหน้าให้ถึงที่สุด ซึ่งมีรายชื่อของคนพิการมากกว่า 3,000 คน ที่จะไปยื่นซึ่งเป็นเหมือนเสบียงให้เราไปยื่นได้ทุกที่
ด้านนายชัชนันท์ ภักดีศุภผล เจ้าหน้าที่จากมูลนิธิออทิสติกไทย ก็บอกว่า ตนมาในนามตัวแทนองค์กร ตนไม่ได้โกรธแค้นอะไรกับนางสาวปารีณา แต่ทำไมนางสาวปารีณา ถึงมาว่าเด็กออทิสติก หรือไปทำให้นางสาวปารีณาเดือดร้อน ซึ่งตนอยากจะบอกว่า เด็กออฯ นั้นเป็นเด็กที่มีความบกพร่องทางสมอง แต่มีความสามารถพิเศษเฉพาะด้าน ซึ่งด้านหนึ่งเก่งกว่าคนปกติ จึงอยากจะถามว่านางสาวปารีณา ว่ามาทำร้ายคนพิการได้อย่างไร ขอให้หยุดเล่นเถอะ อย่ามารังแกคนพิการอย่างพวกผมเลย
ต่อมาพ.ต.อ.สมมาตร จันทรัตน์ ผกก.สภ.โพธาราม ได้มาพบกับทนายอนันตชัย พร้อมกับบอกว่า นางสาวปารีณา นั้นมาแจ้งความให้ดำเนินคดีกับนายอนันตชัย ไชยเดช นางสาวอรัชพร หรือ ก้อย โภคินภากร ดารานักแสดง และ นายชูศักดิ์ จันทยานนท์ ประธานมูลนิธิออทิสติกไทย ในข้อหานำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ส่วนนางสาวเพียงฝัน นาคสุขไพบูลย์ นักเรียนทุนแพทย์ปริญญาเอกในประเทศอังกฤษ ยังไม่มีการแจ้ง ซึ่งคดีดังกล่าวนั้นได้ถุกส่งไปให้ทางตำรวจภูธรภาค 7 เป็นผู้ดำเนินการ เนื่องจากเกินขีดความสามารถในเรื่องของการตรวจสอบ IP Address ของผู้ที่ใช้เฟสบุ๊ค ว่าจะใช่ตัวตนของบุคคลทั้งสามหรือไม่ ซึ่งภาค7 พิจารณาแล้วเห็นว่า คดีดังกล่าวเกี่ยวกับเรื่องทางเทคโนโลยีจึงส่งสำนวนคดีไปสอบสวนที่ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) โดยตรง ซึ่งนางสาวปารีณาได้แจ้งความนายอนันต์ชัย ฯ ที่นายอนันต์ชัยฯ นั้นได้ลงเฟซบุ๊ก กล่าวหาด้วยข้อความ ว่า” ส.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ เป็น ส.ส. เจ้าปัญหา และเจ้าอารมณ์ ” “ความประพฤติลูกผมซึ่งเป็น ออทิสติก ดีกว่าท่าน ส.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ น่ะครับ อายไหมครับ? ท่าน ส.ส.ผู้ทรงเกียรติ!” เป็นสิ่งที่ทำให้ น.ส.ปารีณาฯ เสียหาย ด้อยค่า ส่วนนายชูศักดิ์ นั้นเนื่องจากเป็นคนออกหนังสือปิดผนึกถึง นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา แต่กลับไปเผยแพร่ โดยให้นางสาวอรัชพร หรือ ก้อย เป็นคนแชร์ จดหมายดังกล่าว ลงไอจี จึงทำให้เสียหาย
ซึ่งหลังจากได้รับคำตอบจากพ.ต.อ.สมมาตร จันทรัตน์ ผกก.สภ.โพธาราม ว่าสำนวนคดีนั้นถูกส่งไปที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) แล้ว ทางนายอนันตชัย พร้อมกับ 7 องค์กรคนพิการ และรายชื่อผู้พิการกว่า 3,000 รายชื่อ จะไปยื่นหนังสือร้องเรียนและขอความเป็นธรรม ต่อ ผบ.ตร.โดยตรง และจะไปยื่นหน่วยงานที่เชื่อว่ารัฐบาลจะไม่สามารถอยู่นิ่งได้ แต่ตอนนี้ยังบอกไม่ได้ว่าจะไปยื่นที่ไหนและเมื่อไหร่
