ราชบุรี ในวันนี้(2 มี.ค.64) ด.ต.พัชระ อาสนะเวช หัวหน้าตำรวจสายตรวจตำบลสามเรือน อ.เมือง จ.ราชบุรี ได้รับแจ้งว่า ที่บริเวณบ้านเลขที่ 131 หมู่ 7 ต.สามเรือน มีคนร้ายเข้าไปขโมยทรัพย์สิน ซึ่งเป็นเครื่องมือเก่าที่ใช้กับโรงโม่หิน มากกว่า 10 เครื่อง และรถยนต์เก่า จำนวน 3 คัน ที่เก็บไว้ในบริเวณบ้านดังกล่าวนั้น หายไปทั้งหมด จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ พบนางสมศรี ดลบันดาลโชค อายุ 58 ปี คนที่แจ้งให้มาตรวจพื้นที่ดังกล่าวได้นำเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบ ซึ่งพบว่าที่เกิดเหตุนั้นเป็นพื้นที่โล่ง อยู่ริมถนนเพชรเกษม มีการนำรั้วเหล็กมากั้นเป็นประตู โดยใช้กุญแจล็อคและตอกเสมอยึดไว้กับพื้น ภายในนั้นเป็นพื้นที่โล่ง มีบ้านหลังเล็กๆ 1 หลัง ซึ่งนางสมศรี ได้นำเจ้าหน้าที่ไปชี้จุดเคยเป็นที่จอดรถเทรลเล่อร์ รถปิกอัพ รถเก๋ง BMW เครื่องรถแบคโฮ ใบมีดขนาดใหญ่ เครื่องเชื่อมขนาดใหญ่ และเครื่องไฟขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นเครื่องมือที่นำมาจากโรงโม่หิน ที่เลิกกิจการไปแล้ว และนำมาเก็บไว้ที่นี่ รวมมูลค่าหลายล้านบาท
โดยนางสมศรี ได้เล่าให้ฟังว่า ครอบครัวของตนนั้นเลิกกิจการทำโรงโม่หินมาหลายปี และจะนำเครื่องมือทั้งหมดมาเก็บไว้ที่นี่ ปกติตนและลูกๆ จะมาแวะเวียนมาดูข้าวของเป็นประจำ รวมทั้งมาปลูกพืชผักไว้ ซึ่งก็ไม่ได้มีอะไรหายเป็นอย่างนี้มาเป็นหลายปีแล้ว และล่าสุดก็มาดูเมื่อวันที่ 17 ก.พ.64 ที่ผ่านมา ก็พบว่าทุกอย่างยังอยู่ครบ แต่พอมาเช้าวันนี้ก็แวะมาดูตามปกติ ก็พบว่าไม่มีอะไรเหลือเลย ก็แทบช็อค จึงได้โทรศัพท์ไปบอกลูกๆ และโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาตรวจสอบ ดังกล่าว และอยากจะให้เจ้าหน้าที่ได้ช่วยติดตามตัวคนร้ายที่มาขโมยทรัพย์สินให้ได้ เพราะทรัพย์สินทั้งหมดนั้นถือเป็นมรดกที่สามีทิ้งไว้ให้ตนกับลูก ก่อนจะเสียชีวิต แต่ถูกคนร้ายมาขโมยไปหมดเลย
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า คนร้ายนั้นน่าจะรู้ว่า พื้นที่บริเวณนี้ไม่มีใครเฝ้า จึงได้นำรถบรรทุกสิบล้อ ที่มีเครนยกด้านหลังมาทำการดึงเสมอ บก ที่ยึดประตูออก แล้วนำรถเข้าไปใช้เครนยกเครื่องมือต่างๆ ซึ่งมีขนาดใหญ่ขึ้นรถบรรทุกสิบล้อรวมทั้งรถยนต์ออกไป เพราะมีร่องรอยรถบรรทุกสิบล้อเข้าไปด้านในเหยียบท่อน้ำแตกทั้งหมด และคนร้ายน่าจะมีไม่ต่ำกว่า 3 คนเพราะเครื่องมือนั้นส่วนใหญ่มีขนาดใหญ่ น้ำหนักหลายตัน การเคลื่อนย้ายนั้นค่อนข้างลำบาก
โดยขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนของสภ.เมือง ได้ออกตรวจสอบตามร้านรับซื้อของเก่า ว่ามีใครนำเครื่องมือเก่ามาขายบ้างหรือไม่ รวมทั้งตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางเพื่อหาเบาะแสคนร้ายด้วย
ข่าวน่าสนใจ:
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: