ราชบุรี ในวันนี้( 8 พ.ย. 61 ) จากกรณีที่มีเพจสื่อสารออนไลน์แห่งหนึ่งได้ลงประกาศ “ประกาศพื้นที่อันตราย โดยจังหวัดราชบุรี โปรดศึกษาเส้นทางหากเดินทางไปแถวนั้นค่ะ แจ้งข่าวประชาสัมพันธ์จากจังหวัดราชบุรี เนื่องจากในวันที่ 28 พฤศจิกายน – 4 ธันวาคม 2561จังหวัดราชบุรี ร่วมกับ ทหารสามเหล่าทัพ (ทัพบก ทัพเรือ ทัพอากาศ) หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดจะทำการเก็บกู้วัตถุระเบิดสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 บริเวณสะพานธนะรัตน์ เพื่อใช้เส้นทางในการทำรางรถไฟคู่ขนาน เส้นนครปฐม-หัวหิน บริเวณดังกล่าวจะประกาศเป็นพื้นที่อันตราย จึงแจ้งให้ทราบว่าในวันและเวลาดังกล่าว โปรดหลีกเลี่ยงการใช้เส้นทางนี้เพื่อความปลอดภัย “ โดยมีการแชร์ข้อความดังกล่าวผ่านโลกออนไลน์ไปอย่างกว้างขวาง ส่งผลให้ประชาชนเริ่มหวาดวิตกตื่นกลัว มีการโทรศัพท์สอบถามข้อมูลกัน และแชร์ข้อมูลข่าวสารกันอย่างกว้างขวางทำให้ทางจังหวัดราชบุรีต้องออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงว่าเป็นข้อมูลที่คลาดเคลื่อน
โดยนายวีรัส ประเศรษโฐ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเปิดเผยว่า การเตรียมการเก็บกู้นั้นได้มีการประชุมร่วมกับคณะกรรมการที่จังหวัดได้จัดตั้งขึ้น มีฝ่ายปกครอง ท้องถิ่น ทหาร 3 เหล่าทัพ และผู้เชี่ยวชาญที่ศึกษาทางประวัติศาสตร์ มีการกำหนดกรอบคร่าวๆว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)เนื่องจากการก่อสร้างมีความล่าช้ามา ทำให้ รฟท.ขอให้ดำเนินการเก็บกู้กำหนดพื้นที่ปลอดภัยหลังปีใหม่ จึงวางแผนกำหนดกรอบคร่าวๆ โดยทางทหารเรือจะขอลงสำรวจความเป็นอยู่จริงของระเบิดจำนวน 3-5 ลูก กำหนดกรอบไว้ 28 พย. – 4 ธค.ก่อนวันที่ 5 ธันวาคมที่จะมีงานเฉลิมพระเกียรติของสถาบัน เพื่อให้มีความปลอดภัยว่าระเบิดอยู่ตรงจุดไหน เพื่อไม่ให้ประชาชนเข้าไปยุ่งเกี่ยวจุดนั้น พร้อมกับประกาศเป็นเขตพื้นที่อย่างเป็นทางการจากจังหวัดราชบุรี โดยกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยท่านผู้ว่าราชการจังหวัดจะบูรณาการทำงานร่วมกัน ช่วงวันที่ 28 พย.- 4 ธค. จึงเป็นแค่การสำรวจพื้นที่ใต้น้ำ จากนั้นทหารทั้ง 3 เหล่าทัพจะมาร่วมกันวางแผนใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ เพื่อจะหาแนวทางเก็บกู้อย่างรอบคอบ โดยจะประกาศให้ประชาชนทราบ จากนั้นจะมีการทำ Work Shop เพื่อความปลอดภัยในการกำหนดแนวเขตที่ชัดเจน โดยจะดำเนินการหลังวันที่ 10 ธันวาคม พร้อมกับจะได้จัดประชุมอีกครั้งหนึ่ง เป็นการร่วมมือระหว่างกองทัพเรือ กองทัพบก กองทัพอากาศ ซึ่งเมื่อเอาระเบิดขึ้นมาได้แล้ว ถ้าหากถอดชนวนได้ก็จะดำเนินการถอด แต่ถ้าไม่ปลอดภัยก็จะขนไปทำลายเพื่อถอนชนวนที่สถานที่ปลอดภัย โดยข่าวที่มีการแชร์ในโลกโซเซียลนั้น ยืนยันว่ามีความคลาดเคลื่อน หากมีความคืบหน้าจังหวัดจะแจ้งประกาศชัดเจน จึงขอให้ประชาชนอย่าเพิ่งตื่นตระหนกไป
