ราชบุรี ในวันนี้( 17 พ.ค. 64 ) ที่ศาลาประชาคมหมู่บ้าน หมู่ที่ 4 หน้าวัดเขาน้อยเทียมสวรรค์ ต.อ่างทอง อ.เมือง จ.ราชบุรี ได้ถูกจัดให้เป็นสถานที่รับการลงทะเบียนการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 ของหมู่ 4 และหมู่ 5 ต.อ่างทอง โดยมีเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลอ่างทอง เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และ อสม. รับการลงทะเบียน โดยก่อนเข้ารับการลงทะเบียน ภายในศาลาทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัย และมีเจ้าหน้าที่อาสาสมัครสาธารณสุขคอยตรวจวัดอุณหภูมิ ล้างมือด้วยแอลกอฮอล์เจล นั่งเก้าอี้เว้นระยะห่างกันประมาณ 2 เมตร เพื่อความปลอดภัยตามมาตรการสาธารณสุข
ด้านนายวิษณุ เปี่ยมพูล ผู้ใหญ่หมู่ที่ 4 เปิดเผยว่า ได้ประชาสัมพันธ์ผ่านทางหอกระจายข่าวของหมู่บ้าน เพื่อให้ประชาชนทราบข่าวสารของภาครัฐอย่างต่อเนื่อง วันนี้มีการลงทะเบียนบริเวณหมู่ที่ 4 หมู่ที่ 5 ประชากรหมู่ 4 มีอยู่ประมาณ 1,150 คน หมู่ที่ 5 มีประมาณกว่า 900 คน ส่วนมากอยากจะฉีดวัคซีน บางส่วนอยู่ระหว่างพิจารณา แต่ก็ได้มาจองไว้เพราะว่ากลัวจะเสียสิทธิ์การรับวัคซีน มองว่าล่าช้าในการฉีดวัคซีนด้วย ทางรัฐยังไม่ได้แจ้งวันเวลาการฉีดวัคซีนที่ชัดเจน แต่แจ้งให้ประชาชนมาลงทะเบียนไว้ก่อน โดยที่หมู่บ้านนั้นมีมาตรการดูแลความปลอดภัยทั้งประชาสัมพันธ์ให้ผู้ที่มาจากต่างจังหวัดขอให้มาตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายก่อน ส่วนบุคคลที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงยังไม่ต้องเข้ามาในพื้นที่เพื่อความปลอดภัยของหมู่บ้าน
ส่วนพลตำรวจตรี ปรัชญ์ชัย ใจชาญสุขกิจ สมาชิกวุฒิสภา โฆษกคณะกรรมาธิการการกฎหมายการยุติธรรมและการตำรวจวุฒิสภา กล่าวว่า ทั่วโลกหลายประเทศ เช่น จีน อเมริกา อังกฤษ ประเทศที่ประสบความสำเร็จไปแล้ว คือการณรงค์การฉีดวัคซีนอย่างเร็วที่สุดให้กับประชาชน ข้อมูลวัคซีนที่จะฉีดนั้นคงมีความเข้าใจกันพอสมควรที่ช่วยได้ระดับหนึ่ง ที่จะทำให้การแพร่ระบาดการป้องกันตนเองที่จะไม่เป็นตัวแพร่ระบาดต่อไป เรื่องวัคซีนทุกภาคส่วนทั้งผู้ว่าราชการจังหวัด ฝ่ายปกครอง ภาคเอกชนอยากฉีดวัคซีนกันทั้งนั้น โดยเฉพาะภาคเอกชน เพราะว่าการฉีดวัคซีนในโรงงานทำให้ได้ขับเคลื่อนการทำงานในโรงงานต่อไปได้ เพราะคนงานหากติดเชื้อก็จะทำให้การผลิตเกิดความเสียหาย ตนเองทำธุรกิจเหมือนกันได้พูดคุยกับชาวบ้านถึงกรณีเศรษฐกิจเริ่มตกต่ำลงอย่างรุนแรง การตกงานสูงมาก ทำให้ปัญหาโรคโควิดไม่ใช่การแพร่ระบาดอย่างเดียวแล้ว มันลามไปถึงปัญหาปากท้องของประชาชนด้วย หากยืดเยื้อต่อไปปัญหาจะลุกลามไปอีกมากมาย ทั้งปัญหาสังคมต่าง ๆ ชาวบ้านเริ่มยากจนจริง
ด้านการทำงานของผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดนั้นขอชื่นชมการทำงานผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง มีประชาชนที่ลงทะเบียนต้องการที่จะฉีดวัคซีน โดยการแนะนำของผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ฝ่ายปกครอง รวมทั้งอาสาสมัครสูงสุดในประเทศไทย คือ กว่า 2 แสนคน รวมแล้วเกิน 50 เปอร์เซ็นต์ของประชากรที่อยากฉีดวัคซีน เชื่อว่าประชาชนอยากฉีดวัคซีนมากกว่านี้ แต่ยังสับสนเรื่องขั้นตอนการฉีดอยู่ ก็อยากฝากถึงรัฐบาลว่าประชากรไทยประมาณ 70 ล้านคน เราฉีดประมาณ 50 ล้านคน ฉีด 50 ล้านเข็มแรกเท่านี้ถือว่าน้อยมาก จึงต้องรีบระดมฉีดแล้วเพราะชาวบ้านทนไม่ไหวเรื่องปัญหาปากท้อง ปัญหาตกงาน และปัญหาธุรกิจต่างๆได้รับผลกระทบหมด ขับเคลื่อนไม่ได้ จำเป็นต้องเร่งรัดทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันเป็นหนึ่งเดียว
ข่าวน่าสนใจ:
ฝากถึงผู้ว่าราชการจังหวัดต้องให้ฝ่ายปกครอง สาธารณสุข อาสาสมัคร อสม. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ทุกภาคส่วนช่วยกันแนะนำชาวบ้านถึงเรื่องนี้ สอบถามชาวบ้านหลายคนบอกว่าอยากฉีด เพียงแต่ขั้นตอนนั้นยุ่งยาก อยากให้ดูตัวอย่างต่างประเทศฉีดวัคซีนแถมเงินให้ด้วย ทางนิวยอร์กฉีดที่สถานีรถไฟได้ขึ้นรถไฟฟรี หลายประเทศใช้แนวจูงใจประชาชนร่วมกันฉีดวัคซีนป้องกัน จึงจำเป็นต้องดูโมเดลการบริหารจัดการที่ดีแล้วนำมาใช้ ตอนนี้ได้ลงพื้นที่ไปดูปัญหาความเดือดร้อนชาวบ้านเป็นอย่างไร และต้องได้รับคำตอบว่าอยากฉีดวัคซีน จะได้กลับมาใช้ชีวิตที่เป็นปกติ จะได้ไม่ต้องตกงาน และเร่งรัดการเยียวยาในหลายแบบ แต่ที่ออกแบบมานั้นมันสวนทางกับความเป็นอยู่ อย่างโครงการเที่ยวด้วยกันนั้น เที่ยวไปไม่ได้ เพราะเราต้องอยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติ จึงต้องออกแบบให้สัมพันธ์กัน เช่น ฉีดวัคซีนแล้วจะให้รางวัลอะไรก็ได้ ใช้งบประมาณไม่กี่หมื่นล้านบาท ก็น่าจะทำให้ประชาชนเกิดความมั่นใจ มีแรงจูงใจให้ได้ดูแลตัวเอง ทุกคนจะมีความปลอดภัย
มองว่าการฉีดวัคซีนมีความล่าช้ามาก ยิ่งช้า ยิ่งแย่ กว่าจะลงทะเบียน กว่าวัคซีนจะมาถึง กว่าจะจัดการอีก ตนเองไปฉีดวัคซีนมาแล้วดูขั้นตอนไม่เยอะ แต่เสียเวลาไปประมาณ 1.30 ชม. พอฉีดเสร็จต้องรอฟังดูผลว่ามีผลข้างเคียงต่อร่างกายหรือไม่ ขั้นตอนแรกจนถึงการฉีดนั้น แค่นำบัตรประชาชนไปลงทะเบียนรับบัตรคิวใช้เวลานิดเดียว จากนั้นไปชั่งน้ำหนักกับวัดความดัน แต่ตอนนี้ต้องรอคิวเพื่อไปสอบประวัติและต้องมานั่งรอ จะมีผู้มาซักประวัติตามแบบฟอร์มสอบถามมีโรคประจำตัวอะไรบ้าง แพ้ยาอะไรบ้าง พร้อมให้ลงชื่อ ตรงนี้ให้รอเกิน 30 นาที พอผ่านขั้นตอนเหล่านี้ก็ไปเข้าช่องฉีดวัคซีนได้เลย พยาบาลจะเป็นผู้ฉีดให้ จริงๆ ไม่จำเป็นต้องใช้บุคลากรทางการแพทย์ก็ได้ ให้ใช้อาสาสมัครสาธารณสุข เพราะการตรวจเช็คประวัติเหล่านี้ง่ายๆ แต่ผู้ที่ฉีดยาต้องผ่านการอบรมมา เช่น พยาบาล หรือ หมอสนามทางทหารก็ได้ อยากบอกให้มารวมใจกันมุ่งงานด้านนี้ให้จบโดยเร็วที่สุดที่จะเร็วได้ เพราะหากยิ่งช้า ยิ่งตายแน่นอน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: