X

หน่วยงานตรวจสอบเตาเผาถ่านกะลา หลังสั่งให้ปรับปรุงเพราะมีควันฟุ้งกระจาย

 ราชบุรี        ในวันนี้(14 พ.ย. 61) นายกันต์   เลิศอาวาส   นิติกรประจำสำนักงานองค์การบริหารส่วนตำบลยางหัก  อ.ปากท่อ  จ.ราชบุรี  พร้อมด้วยนายสุรัตน์   จอมเกตุ   ผู้ช่วยนิติกรฯ  ได้เข้าตรวจสอบที่บริเวณเตาเผาถ่านกะลา หมู่ 7  ต.ยางหัก  อ.ปากท่อ  จ.ราชบุรี  หลังมีชาวบ้านร้องเรียนว่ากลุ่มผู้ประกอบการเผาถ่านกะลา เพื่อส่งไปขาย  แล้วเกิดมีควันไฟคละคลุ้งลอยออกไปรบกวนสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านหลายหมู่บ้าน  มานานแล้ว  ทางอบต.ยางหัก   จึงได้สั่งให้ทางผู้ประกอบการได้ทำการปรับปรุงเตาเผาให้มีประสิทธิภาพ และมีควันให้น้อยที่สุด   โดยให้เวลาปรับปรุงมาแล้วหลายครั้ง   และวันนี้จึงได้เข้าไปตรวจสอบและจะนำผลการตรวจเข้าประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกครั้งเพื่อพิจารณาว่าควรให้ผู้ประกอบกิจการนั้นสามารถดำเนินกิจการต่อไปได้หรือไม่

   โดยนางสาวกัญจน์ณัฎฐ์   พรมสุวรรณ์   ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลยางหัก  ก็บอกว่า ทางอบต.ก็ได้มีการดำเนินแล้วหลังได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านเรื่องของควันกะลา  โดยเข้าไปตรวจสอบกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  ซึ่งก็พบว่ามีควันไฟลอยคละคลุ้งไปทั่ว  และส่งกลิ่นเหม็น    ทางอบต.จึงได้ช่วยแก้ปัญหาโดยการนำผู้ประกอบการไปดูเตาไร้ควัน  เพื่อจะได้นำมาใช้ในพื้นที่ แต่ทางผู้ประกอบการไม่ยอมรับ  แต่มีการขออนุญาตว่าจะทำการปรับปรุงเองภายใน 2 เดือน   ซึ่งหลังจากนั้นก็มีการเข้าไปตรวจสอบอีกก็พบว่ายังไม่มีการแก้ไขเลย  ทางหน่วยงานทหารสั่งให้ทาง อบต.ดำเนินการจับกุม  แต่ทางอบต.ก็พยายามให้ทางผู้ประกอบการนั้นได้มีการปรับปรุงแก้ไข  และให้ส่งแบบเตาที่มีการแก้ไขให้ทางอบต.ได้เข้าไปตรวจสอบอีกครั้ง   แต่ให้ในช่วงนี้ก็ให้ปิดกิจการไว้ก่อน   ซึ่งภายหลังที่มีการแก้ไขแล้วก็จะมีการเข้าไปตรวจสอบว่าไม่มีควันไฟเกิดขึ้น  และกำลังการผลิตนั้นเกินกว่า 5 แรงม้าหรือ  ซึ่งถ้าเกินก็จะต้องแจ้งให้ไปขออนุญาติกับทางอุตสาหกรรม   และจะต้องมีการเข้าตรวจสอบด้วยว่าไร้ควันหรือไม่  เพื่อออกใบอนุญาติเป็นผู้ประกอบกิจการที่ถูกต้องตามกฎหมาย  แต่ถ้าไม่ปฎิบัติข้อกำหนดที่ได้ตกลงไว้ก็จะต้องดำเนินคดีตามกฎหมายด้วย

ด้านนายบุญมา   โตจิ๋ว  อายุ 42 ปี  อยู่บ้านเลขที่ 40/4  หมู่ 7  ต.ยางหัก  อ.ปากท่อ  จ.ราชบุรี  เจ้าของผู้ประกอบกิจการเตาเผากะลา  ก็บอกว่าตอนนี้ก็เริ่มปรับปรุงตั้งแต่ทำเสปรย์น้ำ  โดยทำเสากั้น  แต่วิธีเสปรย์น้ำนั้นควันก็ยังเยอะ หน่วยงานเขาก็ยังยอมรับไม่ได้  และการใช้เสปรย์น้ำอัตราการสิ้นเปลืองก็เยอะกว่าเพราะเวลา 20 นาทีใช้น้ำไป 800 ลิตร   จึงได้ลองหาวิธีใหม่  โดยให้ควันนั้รผ่านน้ำแล้วผ่านไส้กรอง 4 ชั้น  ซึ่งก็น่าจะใช้ได้ แต่ยังไม่รู้ว่าจะมีหน่วยงานได้ออกมายอมรับว่าใช้ได้   และล่าสุดก็ไปปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญที่มหาวิทยาลัย หัวเฉียว แนะนำให้ใช้วิธีการเผาโดยใช้ฟืน  ใช้ไม้ แต่พอเวลาฟืนหมด ควันก็ยังคงออกเหมือนเดิม  จึงได้ลองใช้แก๊สหุงต้ม  แต่ก็กำลังเก็บข้อมูลว่า  แก๊ส 1 ถัง นั้นสามารถใช้ได้กี่ชั่วโมง กี่เตา   ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นทดลองซึ่งลองใช้มาประมาณ 1 อาทิตย์แล้ว  โดยเราต้องการให้เราทำมาหากินได้และชาวบ้านรอบๆก็อยู่ได้  และให้หน่วยงานมาตรวจสอบว่าการทดลองที่เราทำอยู่นั้นสามารถใช้ได้ ก็จะได้ดำเนินการต่อไป

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

Picture of สายชล โอชะขจร

สายชล โอชะขจร

ผู้สื่อข่าวราชบุรี