X

ชิมอาหารร้านล้านเล่าหลังกำแพง จากเชฟอดีตผู้ต้องขัง หนึ่งเดียวในราชบุรี

ราชบุรี     ในวันนี้(  21 ก.ย. 64 ) ล้านเล่าหลังกำแพง  เป็นอีกหนึ่งร้านอาหารที่มีอร่อยระดับเชฟโรงแรม 5 ดาว  เพราะมีเชฟฝีมือชั้นเยี่ยม ที่เป็นอดีตผู้ต้องขังที่พ้นโทษมาแล้ว   มีที่นี่ที่เดียวใน จ.ราชบุรี     ที่ได้ให้โอกาสอดีตใช้ผู้ต้องขังที่เคยอยู่ในเรือนจำมาปรุงเมนูอาหารบริการเสิร์ฟให้กับลูกค้ารับประทาน  ซึ่งร้านดังกล่าวนั้นตั้งอยู่บริเวณซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 5/1 หมู่ 1 หัวมุมแยกไฟแดง ริมถนนสายราชบุรี – จอมบึง ติดกับอุทยานหินเขางู  ต.เกาะพลับพลา อ.เมือง จ.ราชบุรี ซึ่งได้ฤกษ์เปิดร้านเป็นวันแรก ได้นิมนต์พระสงฆ์มาทำพิธีสวดเจริญพระพุทธมนต์ และเจิมป้ายหน้าร้านเพื่อความเป็นสิริมงคล โดยมีนายยุทธนา นาคเรืองศรี ผู้บัญชาการเรือนจำกลางสมุทรปราการ  อดีตผู้บัญชาการเรือนจำกลางราชบุรี ร่วมกับนางสาว ชุลีพร อรรคอุดม  จิตอาสาและเป็นผู้ดูแลร้าน พร้อมด้วยเพื่อน ๆ ที่รู้จักสนิทคุ้นเคยได้มาร่วมแสดงความยินดี  ท่ามกลางบรรยากาศที่ดูร่มรื่นใต้ร่มสัก อากาศเย็นสบาย  มีการเว้นระยะห่างของโต๊ะและเก้าอี้  บริการเจลแอลกอฮอล์ เพื่อความปลอดภัยของลูกค้า  ลักษณะของร้านถูกออกแบบตกแต่งแปลกไม่เหมือนกับร้านทั่วไป  สิ่งของ วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้  หลังคา ผนังบางจุดสร้างด้วยสังกะสี ทาสีออกโทนสีน้ำตาลออกคล้ำดำ คล้ายกำแพงเรือนจำ

               ที่น่าสนใจคือ ผู้ที่ทำอาหาร หรือที่เรียกว่า เชฟ นั้น ไม่ใช่เป็นพ่อครัวธรรมดาทั่วไป แต่เป็นเชฟ ซึ่งเป็นผู้ต้องขังที่เพิ่งพ้นโทษออกมาจากเรือนจำ ได้มารับหน้าที่ปรุงเมนูอาหารให้ลูกค้า ด้วยความหวังอยากมีอาชีพที่สุจริตหลังพ้นโทษ มาอยู่ในสังคมใหม่ได้อย่างปกติเหมือนคนทั่วไปอีกครั้งหนึ่ง

ด้านนายยุทธนา   นาคเรืองศรี   ผู้บัญชาการเรือนจำกลางสมุทรปราการ   อดีตผู้บัญชาการเรือนจำกลางราชบุรี เปิดเผยว่า เคยเป็นผู้บัญชาการเรือนจำกลางราชบุรีมาก่อน  และได้ให้โอกาสกับสังคม ซึ่งมีคนที่มีความรู้ คนที่มีจิตอาสา คนที่มีความปรารถนาอยากให้สังคมดีขึ้น  เข้ามาสอนและถ่ายทอดประสบการณ์  เรามีเชฟมิชลินที่เป็นคนไทยและต่างประเทศมาสอนการทำอาหารให้กับน้อง ๆ ในเรือนจำกลางราชบุรี มีวิทยากรสอนด้านการปลูกผักสลัดได้เรียนรู้แต่ยังขาดสถานที่หรือเวทีในการแสดงความรู้ความสามารถ ด้วยข้อจำกัดของการเข้าอยู่ข้างในมานาน การที่จะออกมาและปรับตัวให้เข้ากับสังคมภายนอก โดยสภาวะโควิดแบบนี้ อาจเป็นไปได้ยาก จึงคุยกับเพื่อน ๆ อยากสร้างที่หนึ่งเพื่อให้น้องที่พ้นโทษออกมา เป็นห้องในการปฏิบัติจริง  ออกมาแล้วยังหางานทำไม่ได้ก็มาฝึกงาน ทำงานที่ร้านนี้ได้ อนาคตคิดหาวิทยากรจิตอาสามาสอนเปิดห้องเรียน และต้องขอบคุณเจ้าของสถานที่ที่อนุญาตให้เช่าพื้นที่ และมีความเมตตาที่ไม่ได้รังเกียจน้องคนหลังกำแพง  จิตอาสาที่เคยช่วยงานในเรือนจำก็ยังคงช่วยงานอยู่ แต่ทำงานหนักมากยิ่งขึ้น เพราะการเป็นภาคเอกชนทุกอย่างนั้นจะต้องยืนด้วยตัวเอง ซึ่งเป็นบทพิสูจน์ว่าคนหลังกำแพงที่ออกมาแล้ว สามารถก้าวต่อได้จริง สร้างคุณค่าให้เกิดขึ้นกับตัวเองและสังคมได้

                 ส่วนชื่อร้าน “ ล้านเล่าคนหลังกำแพง ”   ชื่อนี้จะเป็นการถ่ายทอดประสบการณ์แต่ละคน  จะทำให้หลายคนไม่เดินซ้ำรอยอีก เชื่อว่ายังมีอีกหลายเรื่องที่อยากจะเล่าให้กับลูกค้าได้รับรู้อีกมากมาย  ผู้ต้องขังหลายคนเริ่มรับรู้แล้วว่ามีที่นี่เกิดขึ้นอยู่ อย่างวันเปิดร้านได้มาช่วยงานหลายคน เป็นเบื้องต้นของความสำเร็จที่มองว่าเขาไม่ได้หนีหายออกไป  ไม่ได้คิดปิดบังตัวเอง และคิดว่าจะไม่กลับไปกระทำความผิดอีก บางคนอาจติดคุกมานาน ไม่มีญาติพี่น้อง บางคนออกมาแล้วไม่รู้จะไปไหนคิดว่าตรงนี้จะเริ่มจากจุดเล็ก ๆ ที่จะค่อย ๆ ก้าวออกไปสู่สังคมภายนอกได้

         ส่วนนางสาวชุลีพร อรรคอุดม  จิตอาสาและเป็นผู้ดูแลร้าน เปิดเผยว่า ตนเองเป็นจิตอาสาและช่วยงานทางเรือนจำกลางราชบุรีมาก่อน และได้พบเจอน้อง ๆ ส่วนอาหารของร้านจะเป็นเมนูที่เคยทำที่ร้าน Kook& Cooff  ราชบุรี หลังจากที่มีเชฟจิตอาสามาสอนน้องไว้ จะเลือกเมนูที่ได้เคยเรียนมา  เพื่อเป็นการสานต่อ มีเมนูง่าย ๆ เช่น ยำ ส้มตำ  อาหารตามสั่ง เน้นราคาไม่แพงจับต้องได้ มีเครื่องดื่ม กาแฟสด สำหรับค่าแรงน้องจากข้างเรือนจำจะเป็นเงินปันผล และเหมือนการฝึกวิชาชีพการทำงานเรียนรู้ภาคทฤษฎีที่อยู่ในเรือนจำ  แต่พอออกมาข้างนอกแล้วจะกลายเป็นภาคปฏิบัติ คือ การทำงานในภาคเอกชนจริง ๆ จะสอนทั้งการใช้ชีวิต การคำนวณต้นทุน การขาย มีค่าคอมมิชชั่น มีเงินปันผลให้ด้วย มีเงินเดือนเหมือนร้านทั่วไป  ตอนนี้เริ่มต้นมีน้องเข้ามาอยู่ในร้าน 3 คน ส่วนคนที่พ้นโทษแล้วใครที่ยังไม่มีงานทำ หรือไม่มีที่ไปช่วงปัญหาโควิดก็ให้มาพักมาช่วยที่นี่ได้

           สำหรับเมนูที่เด่น ๆ จะมีขนมจีนน้ำยาปู ขายชุดละ 69 บาท   เมนูขาหมูสมุนไพรจานละ 69 บาท  หมูสะเต๊ะ ชุดละ 69 บาท ส่วนเครื่องดื่มจะเป็นกาแฟเป็นออแกนิกส์แบบร้อนขายแก้วละ  40 บาท  เย็นแก้วละ  50 บาท และปั่นราคา 55 บาท  ชาเขียว ชานม ชามะนาว  และยังมีอัญชันนมสด หอมจันทร์  มะพร้าวปั่น  แตงโมปั่น  โหระพาสับปะรดปั่น และยังมีเมนูเครื่องดื่มอื่น ๆ  เมนูผลไม้ปั่นอีกหลายอย่างในราคาไม่แพง ประชาชน หรือนักท่องเที่ยวที่มีแนวคิดอยากให้โอกาสน้อง ๆ ที่เคยอยู่หลังกำแพงได้มีงานทำ มีรายได้เลี้ยงตัวเอง กลับคืนสู่สังคมที่ดีอีกครั้ง

สนใจมาลองชิมฝีมือได้ทุกวัน  บริการอาหารและเครื่องดื่ม แต่ไม่จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์  เปิดเวลา 08.00  น. –  18.30  น. สนใจโทรศัพท์สอบถามได้ร้าน  “ ล้านเล่าหลังกำแพง ”  เบอร์  081-3921199

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

Picture of สายชล โอชะขจร

สายชล โอชะขจร

ผู้สื่อข่าวราชบุรี