ราชบุรี ในวันนี้ (20 ธ.ค. 64) นายแดง ใจมุ่ง อายุ 58 ปี พร้อมกับตัวแทนชาวบ้านนาขุนแสน หมู่ 4 ต.สวนผึ้ง อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ได้นำเอกสารหลักฐานเข้าร้องเรียนที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ประจำ จ.ราชบุรี ซึ่งตั้งอยู่ ต.เจดีย์หัก อ.เมือง จ.ราชบุรี เพื่อให้ทำการตรวจสอบเรื่องของที่ดินป่าช้าเก่า ซึ่งเป็นที่ดินสาธารณะประโยชน์ นสล. (หนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง) ซึ่งอยู่ในเขต อบต.สวนผึ้ง ที่ชาวบ้านเคยใช้เป็นที่ฝัง และเผาศพคนในชุมชนมาเนิ่นนาน แต่ปัจจุบันมีนายทุนเข้ามายึดถือครอบครอง และที่ดินที่เป็นป่าช้าเก่าก็ถูกย้ายไปอยู่ในที่ดินสาธารณประโยชน์ ที่อยู่ในเขตเทศบาลตำบลสวนผึ้ง โดยอยู่ห่างกันประมาณ 3 กิโลเมตร โดยอยู่คนละทิศกัน ทำให้ชาวบ้านนั้นเกิดความสับสนว่า ที่ดินถูกย้ายได้อย่างไร เกรงว่าอาจจะเป็นการออกเอกสารผิดที่หรือไม่
โดยนายแดง ใจมุ่ง ตัวแทนชาวบ้านนาขุนแสนก็บอกว่า ที่ดินป่าช้าเก่า มีปัญหามานานกว่า 5 ปี แล้ว ชาวบ้านได้ไปร้องเรียนหลายหน่วยงานและแจ้งความเอาผิดผู้บุกรุก รวมทั้งขอให้มีการตรวจสอบที่ดินที่ยังเหลือในปัจจุบันว่ายังมีเหลือเท่าไหร่ จากเดิมตามเอกสารที่ดินสาธารณะประโยชน์ มีจำนวน 28 ไร่ แต่เมื่อมีชาวบ้านไปร้องเรียนขอให้มีการตรวจสอบกลับกลายเป็นว่า ที่ดินป่าช้าของชาวบ้านนั้นย้ายฝั่งไปอยู่อีกพื้นที่หนึ่ง ซึ่งมีชาวบ้านที่มีอายุมากจำนวนหลายคน สามารถที่จะเป็นพยานให้ได้ว่าพื้นที่ตรงนี้คือป่าช้าเก่าของชาวบ้าน และอยู่ในเขต อบต.สวนผึ้ง ไม่ใช่ไปอยู่เขตเทศบาลสวนผึ้ง และการแก้ไขเอกสารทางราชการก็ไม่มีลายเซ็นกำกับและลงวันที่ ไว้ด้วยจึงทำให้ชาวบ้านแคลงใจว่าทำอย่างนี้ได้ด้วยหรือ วันนี้จึงมาร้องเรียนขอให้ทาง ปปช.ได้มีการตรวจสอบในเรื่องนี้ มีใครเข้าไปเกี่ยวข้องในการย้ายที่ดินหรือไม่ โดยได้นำเอกสารที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมามอบให้เป็นหลักฐาน และชาวบ้านนาขุนแสนก็จะติดตามผลการดำเนินงานของ ปปช.ด้วย
