ราชบุรี ในวันนี้ (22 ม.ค. 65) ดาบตำรวจ สินชัย สุวรรณพฤกษ์ นายกเทศมนตรี เทศบาลตำบลเบิกไพร อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ได้ทำหนังสือโต้แย้งคำสั่ง ที่ รบ.0023.12/9 ลงวันที่ 20 มกราคม 2565 ที่ให้ดาบตำรวจสินชัย สุวรรณพฤกษ์ นายกเทศมนตรี เทศบาลตำบลเบิกไพร พ้นจากตำแหน่ง เนื่องจากกระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ กรณีใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริตและปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ จัดตั้งตลาดน้ำเบิกไพร เมื่อปี พ.ศ.2558 ทำให้เกิดความเสียหายต่อรัฐและผู้อื่น ทางนายอำเภอบ้านโป่งพิจารณาเห็นแล้วว่า ดาบตำรวจสินชัย มีมูลความผิดฐานกระทำการฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชน หรือละเลยไม่ปฎิบัติตามหรือปฎิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ หรือมีความประพฤติในทางจะนำมาซึ่งความเสื่อมเสียแก่ตำแหน่งหน้าที่ ตามพรบ.เทศบาล พ.ศ.2496 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 73 จึงเห็นสมควรเสนอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี พิจารณาสั่งให้ ดาบตำรวจสินชัย พ้นจากตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลเบิกไพร ซึ่งดาบตำรวจสินชัย สามารถทำหนังสือโต้แย้งคำสั่งได้ภายใน 90 วัน
ซึ่งในเรื่องนี้ ดาบตำรวจสินชัย ได้ให้ข้อมูลว่า ได้พูดคุยกับทางนายสรวุฒิ ปัทมินทร์ ทนายความ แล้วว่า คำสั่งนี้ออกมาโดยมิชอบ จึงไม่สามารถที่ปฎิบัติตามคำสั่งได้ เพราะถ้าปฎิบัติตามอาจจะผิดกฎหมายมาตรา 157 ที่ละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ จึงทำหนังสือโต้แย้งคำสั่งไป โดยส่งถึงผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี ให้มีการทบทวนคำสั่ง เนื่องจากคำสั่งที่ออกมานั้นขัดแย้งกับข้อกฎหมายของเทศบาล ซึ่งเป็นคดีอาญา ที่จะต้องมีการตีความโดยเคร่งครัด ซึ่งกล่าวอ้างว่าตนนั้นกระทำความผิดใน ปีพ.ศ.2558 แต่กฎหมายได้มีการแก้ไข เมื่อปี พ.ศ.2562 จึงไม่สามารถไปดำเนินคดีย้อนหลังได้ และยังไม่มีการตั้งคณะกรรมการในการสอบสวนทางวินัย จนกว่าจะพบว่าผิดจริง และที่ผ่านมาในเรื่องนี้ทางอัยการสูงสุดมีความเห็นแตกต่างจาก ปปช. โดยส่งเรื่องให้ทางปปช.ได้ดำเนินการตามข้อที่ไม่สมบูรณ์ จึงยังเป็นมติที่ยังไม่สมบูรณ์ ในการที่จะมากล่าวหา จึงต้องทำหนังสือโต้แย้งไป
ส่วนเรื่องของการทำตลาดน้ำเบิกไพรนั้น เป็นการสนองนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการให้มีหนึ่งตำบล หนึ่งแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งเป็นการพัฒนาชุมชนให้มีความเจริญ โดยผู้ประกอบการนั้นเป็นเอกชนมาเช่าพื้นที่จากกรมเจ้าท่าที่ได้มอบหมายให้ทางเทศบาลเป็นผู้ดูแล และจัดทำตลาดน้ำให้ชาวบ้านในพื้นที่ ได้มีพื้นที่ในการค้าขายและให้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวชม ซึ่งก็จะทำให้ชุมชนมีรายได้ แต่ในส่วนของเทศบาลนั้นดูแลในพื้นที่ที่เป็นสาธารณะ ซึ่งการเปิดตลาดน้ำ ไม่ได้เป็นการร่วมทุนระหว่างเอกชนกับเทศบาล แต่เป็นเอกชนลงทุนเพียงผู้เดียว ทางเทศบาลไม่ได้จัดสรรงบประมาณไปร่วมด้วย จึงไม่ได้ทำให้รัฐเกิดความเสียหาย แต่เมื่อมีคำสั่งออกมาให้ตนพ้นจากตำแหน่งหน้าที่ เพราะไปยึดถือตามมติ ปปช.ที่ก็ยังมีความเห็นต่างกับทางอัยการสูงสุด ทำให้ท้องถิ่นอื่นๆที่อยากจะพัฒนาชุมชนให้มีความเจริญ ก็จะเกิดความเกรงกลัว จะไม่กล้าที่พัฒนาอะไร ให้กับชุมชนของตัวเองอีก
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: