ราชบุรี ในวันนี้(8 ก.ค.65) นายวิวัฒน์ นิติกาญจนา นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดราชบุรี พร้อมคณะผู้บริหาร ได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 7 หมู่ 11 ต.บ้านคา อ.บ้านคา จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นของนายแมนรัตน์ ฐิติธนากุล หรือผู้ใหญ่แจ็ค ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 11 ต.บ้านคา ซึ่งมีการเปิดอบรมให้ความรู้กับชาวบ้านที่สนใจในการเลี้ยงผึ้งชันโรง เนื่องจากที่บ้านของ ผู้ใหญ่แจ็ค นั้นเป็นแหล่งเรียนรู้การเลี้ยงผึ้งชันโรง ซึ่งเลี้ยงง่าย ลงทุนน้อยแต่สร้างรายได้ดี โดยน้ำผึ้งที่ได้ทางมหาวิทยาลัย เทคโนโลยีพระจอมเกล้า จะเป็นผู้รับซื้อ แต่ขณะนี้ไม่สามารถส่งน้ำผึ้งให้กับทาง มหาวิทยาลัย ได้อย่างเพียงพอ จึงต้องมีการขยายเครือข่ายในการเลี้ยงผึ้งชันโรงออกไป
โดยนายวิวัฒน์ นิติกาญจนา นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดราชบุรี ได้เปิดเผยภายหลังจากได้เยี่ยมชมภายในศูนย์เรียนรู้การเลี้ยงผึ้งชันโรงว่า ผู้ที่สนใจสามารถนำไปเลี้ยงต่อยอดได้ ซึ่งน้ำผึ้งก็นำไปขายให้กับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้า และทางมหาวิทยาลัย ก็ส่งขายต่างประเทศ อบจ.ก็กำลังจะจัดงานเกษตรแฟร์ ซึ่งจะให้ผู้ผลิตพบผู้บริโภค ก็ผลักดันให้ผู้ที่เลี้ยงผึ้งได้พบกับผู้ซื้อ ก็จะสามารถรู้มูลค่าราคาที่แท้จริง ในท้องตลาด ซึ่งในปัจจุบันทางมหาวิทยาลัยรับซื้อที่กิโลกรัมละ 900 บาท และน้ำผึ้งชันโรงที่เป็นต้องการในอันดับต้นๆของโลก ซึ่งเป็นโอกาสของผู้เลี้ยงผึ้ง ที่ตอนนี้ก็ขยายเครือข่ายไปซึ่งมีเด็กนักเรียน ผู้สูงอายุ สามารถเลี้ยงเป็นงานอดิเรกได้ ซึ่งจะทำให้มีรายได้เพิ่ม ทาง อบจ. จะผลักดันให้โครงการนี้เติบโตขึ้น จะช่วยขยายเครือข่ายเชื่อว่าขณะนี้ยังขาดแคลนน้ำผึ้งอีกมาก
ด้านนายแมนรัตน์ ฐิติธนากุล หรือผู้ใหญ่แจ็ค ก็บอกว่า ตนได้ศึกษาเรื่องของการเลี้ยงผึ้งชันโรงมาจากทางมหาวิทยาลัย และนำมาเลี้ยงเป็นคนแรกๆของอำเภอบ้านคา โดยเลี้ยงกลุ่มของผึ้งชันโรงบ้าน ซึ่งผึ้งชันโรงนั้นจะหากินตามธรรมชาติ แค่ตั้งรังในพื้นที่เหมาะสมและมีแหล่งอาหารให้เพียงพอ ส่วนต้นทุนนั้นน้อยมากแค่ค่ากล่องประมาณ 350 บาท ส่วนพันธุ์ชันโรงสามารถหาได้ตามธรรมชาติ โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอบ้านคา สวนผึ้งและปากท่อ เป็นแหล่งของผึ้งชันโรงอยู่แล้ว ตอนนี้ก็ได้ขยายเครือข่ายไปตามโรงเรียนแล้ว โดยให้พันธุ์ไปเลี้ยง ทำให้เด็กมีรายได้ เพราะชันโรง 1 รัง สามารถขยายไปได้อีกหลายสิบรังใน 1 ปี และเมื่อเก็บน้ำผึ้งได้ก็จะนำมาขายให้กับตนเองซึ่งตั้งเป็นกลุ่มในการรับซื้อน้ำผึ้ง ส่วนผู้ที่จะเลี้ยงแต่หาพันธุ์ไม่ได้ก็สามารถมาซื้อทั้งพันธุ์และรังได้ในราคา 1500 บาท ซึ่งจะมีการรับประกันด้วยว่าจะสามารถนำไปเลี้ยงและขยายพันธุ์ไปต่อได้อีก ซึ่งตอนนี้มีสมาชิกมากกว่า 1000 คน ส่วนตลาดนั้นตอนนี้ไปไกลมาก แต่การผลิตยังได้น้อยอยู่ น้ำผึ้งชันโรงมีคุณสมบัติดีกว่า น้ำผึ้งชนิดอื่นๆเพราะผึ้งชันโรงเขี่ยเกสรเก่งและเก็บเกสรได้เยอะมาก และจากการงานวิจัยพบว่า น้ำผึ้งจะได้จากสิ่งที่ผึ้งชันโรงไปเก็บได้ถึง 9 เท่ามากกว่าผึ้งทั่วไปถึง 4 เท่า และที่สำคัญพื้นที่จะต้องปลอดภัยจากสารเคมี ซึ่งจะต้องไม่มีการฉีดยาฆ่าหญ้า และหากว่าทาง อบจ. จะเข้ามาช่วยส่งเสริมก็ดีใจมาก น้ำผึ้งชันโรงนั้นน่าส่งเสริมมากเพราะมีหลายมิติ ทั้งมีการใช้สารเคมีน้อยลง และเรื่องของเกษตรอินทรีย์ที่จะตามมาด้วย
ข่าวน่าสนใจ:
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: