ราชบุรี ในวันนี้ ( 20 ก.ค. 65 ) นายณรงศักดิ์ วงศ์สังวาลย์ ทนายความ พร้อมพระครูปลัดประพลฌศักดิ์ พลญาโณ เจ้าสำนักสงฆ์ห้วยน้ำหนัก หมู่ที่ 6 ต.ตะนาวศรี อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ได้เดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหากับ ร.ต.อ.สายชล กอประเสริฐสุข พนักงานสอบสวน สภ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี กรณีที่หมอปลา หรือ นายจีรพันธ์ เพชรขาว มือปราบสัมภเวสี นำนักข่าวหลายสำนักบุกไปตรวจสอบสำนักสงฆ์ห้วยน้ำหนัก เพื่อสอบถามถึงเรื่องเงิน จำนวน 1,100,000 บาท ที่มีผู้นำมาถวาย เพื่อให้สร้างช่อฟ้า มณฑป พระนอน ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จ แต่ทางผู้ร้องอ้างว่าทางวัดนำเงินบริจาคไปใช้ไม่ตรงตามวัตถุประสงค์ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2565 ที่ผ่านมา
โดยนายณรงศักดิ์ วงศ์สังวาล ทนายความ กล่าวว่าวันนี้พาหลวงพ่อไปรายงานตัวกับพนักงานสอบสวน ไปรับทราบข้อกล่าวหา ในข้อหาฉ้อโกงของผู้หญิง 2 คน ที่มาเป็นเจ้าภาพสร้างวิหารพระนอน ยกช่อฟ้า จำนวนเงิน 1,100,000 บาท ซึ่งได้มีการไกล่เกลี่ยจำนวน 2 ครั้ง แต่ไกล่เกลี่ยไม่เป็นผล ตนเองจึงต้องทำหน้าที่ทนายความ นอกจากพาหลวงพ่อไปรายงานตัวรับทราบข้อกล่าวหาแล้ว ก็ปรึกษาลูกศิษย์หลวงพ่อแล้วให้แจ้งความกลับบุคคลทั้งหมด ซึ่งพิจารณาจากคลิปรายการโหนกระแส ทางช่อง 3 ของหนุ่มกรรชัย ปรากฏว่าหมอปลานำทีมนักข่าวมากมายหลายสำนักมาโจมตีสำนักสงฆ์ห้วยน้ำหนัก มาโจมตีหลวงพ่อ และห้ามคนอื่นพูดพร้อมกับรุมถามหลวงพ่อข้างเดียว นั่นคือเรื่องบุกรุก ซึ่งเป็นการร่วมกันบุกรุกตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป เป็นความผิดอาญาแผ่นดินที่ยอมความไม่ได้
ส่วนอีกข้อหาคือ ร่วมกันหมิ่นประมาทหลวงพ่อ โดยการโฆษณา เผยแพร่ทางโทรทัศน์ ช่อง 3 และทางยูทูป และสื่อต่างๆที่ออนไลน์ไปทั่วโลก แต่จะผิดทาง พรบ.คอมพิวเตอร์ด้วยหรือไม่เดี๋ยวให้ทางพนักงานสอบสวนไปขยายผลต่อไป ส่วนอีกข้อหาหนึ่งคือ ร่วมกันขู่กรรโชก บังคับหลวงพ่อให้คืนเงินและให้หลวงพ่อลาสิกขาไป แล้วมาสู้คดีความกัน ไปพิพากษาท่านกลางอากาศ ทำให้ประชาชนเสื่อมศรัทธาเข้าใจว่าหลวงพ่อทำผิดจริง และไปบอกว่าให้หลวงพ่อสึกไปทำให้เสื่อมเสียต่อหน้าประชาชนที่ดูรายการโหนกระแสอยู่ ทำให้ญาติโยมลูกศิษย์ยอมไม่ได้
ตนเองได้รับการประสานมาทำหน้าที่ก็ต้องสอบข้อเท็จจริง ไม่ได้สอบหลวงพ่อองค์เดียว ได้สอบถามพระสงฆ์หลายรูป สอบถามญาติโยม ชาวบ้านในพื้นที่และนอกพื้นที่ตามจังหวัดต่าง ๆ ที่มาบวชเป็นแม่ชี ผู้นำท้องที่ ดูพยานหลักฐานต่าง ๆ แล้ว หลวงพ่อถูกกระทำโดยที่ลักษณะการโจมตี โดยที่ไม่มีโอกาสได้ต่อสู้ ถือเป็นการโจมตีศาสนาอย่างร้ายแรง ซึ่งเป็นสถาบันหลักของชาติด้วย และยิ่งถ้าผู้เสียหาย 2 คนมาแจ้งความฉ้อโกงเงินไป ถ้าขึ้นสู่ศาลแล้วก็เป็นเคสตัวอย่าง เป็นบทหนักของผู้พิพากษาว่า ท่านจะใช้ข้อกฎหมาย การบังคับใช้กฎหมายอย่างไรกับศาสนา กับพระสงฆ์ และให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ประกอบกับประมวลกฎหมายอาญา เป็นเคสที่ไม่เคยเกิดเรื่องแบบนี้กับประเทศไทย กับพระสงฆ์และศาสนาพุทธ
ข่าวน่าสนใจ:
- ตรัง จัดใหญ่ 12 วัน งานฉลองรัฐธรรมนูญและงานกาชาดจ.ตรัง 4-15 ธ.ค.นี้ รีแบร์นใหม่! ย้อนยุคงานเหลิมแต่แรก แสดงบินโดรนพิธีเปิด วธ.ทุ่ม 3.4 ล้าน…
- สจ.ธรรมชาติ ไม่มาศาลฉะเชิงทรา ส่งสองทนายคู่หูยื่นฟ้องอัจฉริยะแทน
- ศุภาลัย เปิดบ้านซีรีส์ใหม่ Tropical Modern ครั้งแรก! ในสุราษฎร์ฯ ปักหมุดแบรนด์ “ปาล์มวิลล์ โกเตง” ตอบโจทย์ชีวิตติดเมือง
นอกจากนี้ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและประวัติแล้วการบำเพ็ญของหลวงพ่อแล้วท่านอยู่สายวิปัสนา และเป็นพระนักพัฒนาด้วย ยิ่งอยู่แถบตะนาวศรี จะมีชาวบ้านที่นับถือศาสนาคริตส์มาก ท่านมาเผยแพร่ศาสนาพุทธ กระทั่งมีผู้นับถือศาสนาพุทธมากขึ้น และอยู่ร่วมกันได้ มีญาติโยมศรัทธามาร่วมทำบุญสร้างถาวรวัตถุทางพระพุทธศาสนารวมทั้งถนนทางเข้าหมู่บ้าน รวม ๆ 50 ล้านบาทได้ การหมิ่นประมาทท่านร้ายแรงอย่างนี้จึงเรียกค่าเสียหายรวมเป็นเงิน 50 ล้านบาท และคิดแล้วว่ารายการโหนกระแสเป็นรายการที่สร้างความแตกแยกในหมู่ประชาชนและมีลักษณะเป็นการโจมตีศาสนาพุทธ โจมตีพระสงฆ์ซึ่งเป็นปูชนียบุคคล เป็นที่เคารพกราบไหว้บูชา หลวงพ่อท่านปฏิบัติดีปฏิบัติชอบอยู่ นอกจากทำให้เกิดความแตกแยกในหมู่ประชาชนแล้ว ยังสร้างความเสียหายให้กับพระพุทธศาสนาด้วย สมควรว่ารายการนี้ไม่เป็นประโยชน์กับประชาชน ทำหน้าที่เกินกว่าสื่อมวลชน สมควรที่จะถอดรายการนี้ออกไป และต้องชดใช้ค่าเสียหายด้วย
ด้านนายสมบัติ วริทธิกรกุล อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 6 ต.ตะนาวศรี ได้เดินทางพร้อมชาวบ้านจำนวนหนึ่ง มาให้กำลังใจหลวงพ่อที่สภ.สวนผึ้ง พร้อมกล่าวว่า วันนี้มาให้กำลังใจหลวงพ่อกัน หลังจากที่ได้ยินข่าวมาแล้ว จึงอยากมาให้กำลังใจกัน ให้ท่านมีกำลังใจดีขึ้น จากที่หลวงพ่อได้เคยช่วยเหลือเรื่องงานบุญ งานส่วนรวมของหมู่บ้าน รวมทั้งการเจ็บป่วยของชาวบ้านท่านได้ช่วยดูแลหลายอย่าง มีงานบุญท่านจะเรียกมาปรึกษางานอยู่ตลอดเพื่อให้เข้ามามีส่วนร่วมช่วยกันดูแลพื้นที่ ยามชาวบ้านเดือดร้อนท่านจะคอยช่วยเหลือ ทั้งเรื่องการแจกครกเครื่องทำมาหากิน ส่วนเรื่องที่มีการกล่าวหาคิดว่าไม่น่าจะเป็นเรื่องจริง เพราะท่านเข้ามาอยู่จะพยายามสร้างเพื่อให้มีสถานที่ในการปฏิบัติธรรม ทำกิจกรรมใดๆ งานบุญ งานกุศล ให้ประชาชนเข้ามาเรียนรู้ และมาปฏิบัติธรรม ส่วนชุมชนที่นับถือศาสนาพุทธและศาสนาคริตส์ หลวงพ่อท่านช่วยทั้งสองศาสนา ไม่เคยแบ่งแยก เวลาเดือดร้อนไปขอความช่วยเหลือท่านได้ ส่วนทางชุมชนพอทราบข่าวก็พูดว่าทำไมหมอปลาต้องมาวุ่นวายกับสำนักสงฆ์ด้วย หรือ หมอปลาจะมาทำลายพระพุทธศาสนาเราหรือป่าว แล้วพระดีดี จะมีที่ยืนอีกไหม จึงอยากมาให้กำลังใจอยากให้หลวงพ่อสู้ๆ
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: