ราชบุรี เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 12 ส.ค.65 ร.ต.อ.ธนวัฒน์ สุดแก้ว ร้อยเวรสภ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี ได้รับแจ้งเหตุ มีผู้ถูกอาวุธปืนเสียชีวิต เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 326 หมู่ 4 ต.บ้านไร่ อ.ดำเนินสะดวก จึงรายงานให้ พ.ต.อ.เทิดเกียรติ รักพานิชมณี ผกก.สภ.ดำเนินสะดวก พ.ต.ท.กิตติ ทองห่อ รองผกก.สส. พ.ต.ท.สมบูรณ์ สุขสวัสดิ์ รองผกก.สอบสวน สภ.ดำเนินสะดวก ได้รับทราบก่อนจะเดินทางไปตรวจสอบพร้อม เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวรโรงพยาบาลดำเนินสะดวก และหน่วยกู้ภัยสว่างราชบุรี ในที่เกิดเหตุภายในโรงรถซึ่งเป็นโรงเก็บหัวหอมไปส่งขายตามตลาดนัด พบร่างของนายธีระยุทธ ใจดี อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 19 ซ.รามคำแหง 36/1 แยก 1 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ สภาพศพนอนหงายขาพาดอยู่บนกระสอบหัวหอม ที่บริเวณโหนกแก้มซ้ายมีร่องรอยถูกกระสุนปืนยิงเข้า 1 นัด กระสุนทะลุแก้มซ้าย ที่ลำคอ 1 นัด หน้าอกซ้าย 1 นัด และชายโครงซ้าย อีก 1 นัด รวมถูกกระสุนปืนยิงเข้าทั้งหมด 4 นัด นอกจากนี้ยังพบปลอกกระสุนปืนตกอยู่ 1 ปลอก เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนผู้ที่ก่อเหตุในครั้งนี้คือ นายสมควร เสายืน อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 193 หมู่ 4 ต.บ้านไร่ อ.ดำเนินสะดวก ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับบ้านที่เกิดเหตุ หลังก่อเหตุได้กลับไปนั่งรอมอบตัวพร้อมกับอาวุธปืนขนาด .38 ที่บ้าน เจ้าหน้าที่จึงได้คุมตัวไปสอบสวนที่สภ.ดำเนินสะดวก นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้ทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในบ้านที่เกิดเหตุซึ่งทำให้เห็นว่า คนร้ายคือนายสมควร จริง โดยก่อนเกิดเหตุถือจานข้าวเดินเข้ามาในบ้าน ก่อนจะตรงไปหาผู้ตาย จากนั้นใช้อาวุธปืนยิงไปที่นายธีระยุทธ จนตกนั่งร้านและนายสมควรยังใช้เท้าเตะและเหยียบที่ใบหน้าผู้ตายก่อนจะยิงซ้ำ และเดินออกมาโวยวายหน้าบ้านและยิงปืนขึ้นฟ้าอีกหลายนัด ก่อนจะเดินพ้นกล้องวงจรปิดไป
จากการสอบถามนายยศ ไม่ทราบนามสกุล ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านที่เดินตามมาดูเหตุการณ์ในช่วงที่นายสมควรเดินเข้ามาหาผู้ตาย ซึ่งเป็นหลานชายของพี่เขยนายสมควร ที่กำลังนั่งอยู่บนนั่งร้านเพื่อเปลี่ยนหลอดไฟหลังคาโรงรถ และได้ยินเสียงโวยวาย พอจะหันหลังกลับก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด ก็ตกใจและวิ่งไปแอบ ส่วนที่ว่าสองคนนั้นจะมีปัญหาอะไรกันหรือไม่นั้นตนไม่ทราบ
นอกจากนี้คนงานที่ทำงานเก็บกระสอบหัวหอมและอยุ่ในช่วงที่เกิดเหตุด้วย ก็เล่าให้ฟังว่า เห็นเหตุการณ์ตั้งแต่นายสมควรเดินเข้ามาโวยวาย ด่า นายธีระยุทธ จากนั้นก็ชักอาวุธปืนยิงขึ้นไปที่นายธีระยุทธ ซึ่งนั่งอยู่บนนั่งร้าน จนตกลงมาต่อหน้า คนงานที่อยู่ใกล้ๆ ตรงนั้นต่างวิ่งหนีไปหลบเพราะกลัว
ด้านนายวศิน หุ่นกลอย ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ต.บ้านไร่ อ.ดำเนินสะดวก ซึ่งเป็นผู้ที่เข้ามาดูเหตุการณ์ในช่วงแรก ก็เล่าให้ฟังว่า ผู้ตายเป็นหลานของพี่เขยมือปืน แต่ไม่ได้อยู่ที่บ้านหลังนี้ เพราะทำงานอยู่กรุงเทพฯ โดยจะมาเป็นครั้งคราว แต่เจ้าของบ้านหลังนี้ คือพี่สาวของมือปืนนั้นจะมีปัญหากันมานานแล้ว เรื่องของที่ดินมรดก ซึ่งไม่แน่ใจว่าจะเป็นการแบ่งที่ไม่ลงตัวหรือไม่ จนทำให้ทางมือปืนเคยย้ายไปอยู่ที่อื่น แต่ก็ไปๆกลับๆ ซึ่งปัญหาความขัดแย้งระหว่างพี่น้องนั้นมีมานานแล้ว ตนในฐานะผู้ใหญ่บ้านก็เคยเข้ามาช่วยแก้ปมปัญหาให้หลายครั้ง แต่การก่อเหตุครั้งนี้ไม่แน่ใจว่ามีปมปัญหาอะไร เพราะดูจากพฤติการณ์ในกล้องวงจรปิดนั้น มือปืนนั้นตั้งใจจะมายิงผู้ตาย ซึ่งเมื่อยิงแล้วยังใช้เท้าเหยียบใบหน้าและจ่อยิงซ้ำอีก ถือว่าโหดร้ายเกินไป แต่ทั้งนี้ก็จะต้องให้ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการสอบปากคำมือปืนถึงปมปัญหาที่มาก่อเหตุก่อน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหากับนายสมควร ว่า ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ยิงปืนในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร พกพาอาวุธปืนไปในเมือง หรือหมู่บ้านโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนข้อหาบุกรุก นั้นจะต้องรอให้ทางเจ้าของบ้านไปแจ้งความดังกล่าว
