ราชบุรี ในวันนี้ (24 ส.ค. 65) ได้มีชาวบ้านในหมู่ 2 ต.หินกอง อ.เมือง จ.ราชบุรี ได้มารวมตัวกันที่บริเวณริมคลองชลประทาน หมู่ 2 ต.หินกอง ซึ่งเป็นจุดที่กำลังมีการก่อสร้างวางท่อส่งน้ำและท่อส่งก๊าซธรรมชาติจากสถานีควบคุมก๊าซ ไปยังโรงไฟฟ้าหินกอง ของบริษัทหินกองเพาเวอร์ จำกัด ซึ่งมีระยะทาง 12 กิโลเมตร เพื่อขอให้ทางบริษัทหินกองเพาเวอร์ จำกัด ได้หยุดทำการขุดวางท่อเป็นการชั่วคราวเพื่อให้ชาวนาได้ทำนาในช่วงฤดูกาลนี้ โดยมีนายจำนงค์ จันทวงศ์ ปลัดอำเภอเมืองฝ่ายความมั่นคง เข้ามาเป็นคนกลางในการช่วยไกล่เกลี่ย
จากการสอบถามนายประพันธ์ บุญพริ้ง กำนันตำบลหินกอง ก็บอกว่า ตนได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านในหมู่ 2 ว่า ช่วงนี้เป็นช่วงฤดูกาลทำนา และทางชลประทานก็ได้ปล่อยน้ำมาให้ชาวนาได้ทำนาแล้ว แต่ไม่สามารถที่จะทำนาได้ เนื่องจากบริษัทหินกองเพาเวอร์ จำกัด ได้มาทำการขุดวางท่อทั้งส่งน้ำและส่งก๊าซ ไปยังโรงไฟฟ้า บางช่วงปิดท่อน้ำที่จะส่งน้ำไปยังที่นาของชาวนา ทำให้น้ำไปไม่ถึง บางช่วงก็เปิดคันดิน จนทำให้น้ำเข้าไปท่วมที่นา ทำให้ข้าวเน่า ประกอบกับในช่วงนี้ชลประทานปล่อยน้ำมาให้ชาวนาทำนา แต่ทำนาไม่ได้ ถ้าต้องรอให้มีการวางท่อเสร็จ ชลประทานก็ปิดน้ำ ชาวนาก็จะไม่มีน้ำทำนา เพราะทุกอย่างมีกำหนดและเงื่อนเวลา ทำให้วันนี้ชาวบ้านต้องมาขอให้มีการหยุดก่อสร้างก่อน หรือถ้าหยุดไม่ได้ก็จะต้องมีการจ่ายค่าเยียวยาให้กับชาวนาที่ได้รับผลกระทบเพราะทำนาไม่ได้ และจะทำให้เดือดร้อน ซึ่งจะต้องมีการพุดคุยและหาข้อตกลงให้เร็วที่สุด ขณะนี้มีชาวนาที่ได้รับความเดือดร้อนจำนวน 5 ครอบครัว แต่พื้นที่นานั้นมากกว่า 50 ไร่ ซึ่งหากทางโครงการยังดำเนินการก่อสร้างไปโดยไม่สนใจชาวบ้าน ก็จะต้องยกระดับในการเรียกร้องต่อไป เพราะเรื่องผลกระทบกับชุมชนนั้นเป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งช่วงนี้เป็นฤดูทำนาชลประทานปล่อยน้ำมาให้ ถ้าช้าเกินไปชลประทานปิดน้ำข้าวที่ปลูกแล้วก็จะแห้ง ลีบ ตาย พื้นที่ที่เปิดน้ำออกไปไม่ได้น้ำก็ท่วมข้าวตาย จึงอยากให้เห็นใจชาวนาบ้าง
ด้านนายทศพล นวลฝั้น ผู้จัดการโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าหินกอง ก็บอกว่าทางโรงไฟฟ้าได้มีการวางท่อส่งน้ำและท่อส่งก๊าซ แต่ในช่วงนี้เป็นช่วงฤดูกาลทำนา ซึ่งทางบริษัทก็ได้รับทราบปัญหาของชาวบ้านมาเป็นระยะแล้ว จึงได้เข้ามาพูดคุยกันในวันนี้ ซึ่งทางบริษัทก็จะต้องให้ทางผู้รับเหมาหยุดการวางท่อไปก่อน จนกว่าจะหาข้อสรุปกับชาวบ้านก่อนว่าจะมีวิธีการแก้ไขหรือเยียวยาชาวบ้านอย่างไร ที่ผ่านมาทางบริษัทไม่ได้มีการสำรวจเรื่องของผลกระทบกับการทำนาของชาวนาที่อยู่ในเส้นทางที่ท่อส่งน้ำและท่อส่งก๊าซผ่าน เพราะการดำเนินการเริ่มมาตั้งแต่ยังไม่ใช่ช่วงฤดูกาลทำนา จึงไม่ทราบว่าจะมีผลกระทบในเรื่องนี้ แต่พอถึงช่วงฤดูกาลทำนาก็ได้รับเรื่องร้องเรียนมาเรื่อยๆ ซึ่งก็ได้รับคำแนะนำจากกำนันประพันธ์ ว่าในขั้นแรกให้มีการระบายน้ำได้ก่อน หรือผันน้ำเข้านาได้ หรือหากทางบริษัทเยียวยาไม่ให้ชาวนาได้ทำนาได้ ก็จะไม่เกิดผลกระทบกับชาวนา
