รวบรปภ.โรงงานบุกเดี่ยวชิงทองในห้างบิ๊กซี อ้างหาเงินใช้หนี้พนันออนไลน์

ราชบุรี    จากกรณีที่มีคนร้ายบุกเดี่ยวชิงทอง ในห้างทองออโรร่า ในห้างบิ๊กซี สาขาอำเภอบ้านโป่ง  จ.ราชบุรี  โดยพนักงานในห้างทอง  ให้การว่าคนร้ายได้ทองไปจำนวน 13 เส้น  น้ำหนัก 26 บาท  เหตุเกิดเมื่อวันที่ 11 ส.ค.65 เวลา  18.50 น. ที่ผ่านมา  ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ไล่ติดตามสืบสวนหาตัวคนร้าย  พร้อมทำการออกหมายจับตามภาพในกล้องวงจรปิด

             ความคืบหน้าล่าสุดในวันนี้( 26 ส.ค. 65)เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวคนร้ายได้  โดย พล.ต.ท.ธนายุตม์   วุฒิจรัสธำรงค์   ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 7 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ปิติ   นฤขัตรพิชัย  ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ราชบุรี  และ พ.ต.อ.ปิยะพงศ์  วงศ์เกตุใจ  ผกก.สภ.บ้านโป่ง   ได้นำตัวนายชัยณรงค์  ชูเลิศ  อายุ 50 ปี  อยู่บ้านเลขที่ 7/1  หมู่ 15  ต.เขาขลุง  อ.บ้านโป่ง   จ.ราชบุรี  ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจราชบุรี จ220/2565  ลงวันที่ 22 สิงหาคม 2565  ในข้อหาชิงทรัพย์ผู้อื่นโดยมีอาวุธ  โดยใช้ยานพาหนะเพื่อการการทำผิด  หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม  และมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาติ  และพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านทางทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร   มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่ร้านออโรร่า  พร้อมกับนำสร้อยคอทองคำที่ยังเหลืออยู่จำนวน 6 เส้น  เสื้อผ้าที่ใช้ในวันก่อเหตุและรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮฮนด้าเวฟ ไอ  สีขาว -ดำ หมายเลขทะเบียน 1กช-558  กาญจนบุรี ซึ่งเป็นของกลางมาประกอบการรับสารภาพ

   โดยพล.ต.ท.ธนายุตม์   วุฒิจรัสธำรงค์   ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 7  ได้กล่าวว่า การติดตามจับกุมคนร้ายได้ในครั้งนี้ เป็นความร่วมมือของเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธร ภาค 7  เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ  สืบสวนจ.ราชบุรี  และสืบสวนของสภ.บ้านโป่ง  โดยเจ้าหน้าที่ได้สืบสวนจากกล้องวงจรปิดของห้าง และตามเส้นทาง จนทราบว่าคนร้ายนั้นใช้รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ อะไร  และไล่ติดตามจนทราบว่า คนร้ายนั้นเป็นเจ้าหน้าที่ รปภ.ของโรงงานแห่งหนึ่งในอำเภอบ้านโป่ง  จึงได้ติดตามสอบถามทางโรงงานก็ทราบว่าไม่ได้เข้าทำงานมาตั้งแต่วันที่ 10 ส.ค.65  เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการแกะรอยคนร้าย  จนทราบว่าคนร้ายนั้นไปเช่าบ้านอยู่ที่ตำบลบ้านใหม่  อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี จึงได้ไปติดตามจับกุมตัว  ซึ่งผู้ต้องหาก็ให้การรับสารภาพว่าเป็นคนร้ายที่ไปชิงทองในห้างทองจริง  ส่วนสร้อยทองคำนั้นได้มาเพียง 9 เส้น   ไม่ใช่ 13 เส้น  ตามที่เป็นข่าว   และพบของกลางสร้อยคอทองคำเหลืออยู่ 3 เส้น  ส่วนอีก 6 เส้น  โดยแบ่งไปอยู่ที่ ภรรยา จำนวน 3 เส้น   เจ้าหน้าที่จึงได้ไปติดตามกลับคืนมาได้  และอีก 3 เส้น นั้นนำไปขายที่ร้านทองใน จ.สมุทรสงคราม  ซึ่งเจ้าหน้าที่จะต้องไปติดตามกลับคืนมา  ส่วนเหตุจูงใจในการก่อเหตุครั้งนี้ผู้ต้องหารับสารภาพว่า ติดหนี้พนันออนไลน์  ต้องการหาเงินไปใช้หนี้ เพราะลำพังเงินเดือนของ รปภ. นั้นไม่พอใช้   ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ  แต่ทั้งนี้ก็จะต้องไปทำการสืบสวนด้วยว่า การพนันที่ผู้ต้องหาเล่นนั้นเป็นการพนันประเภทไหนและเล่นที่ไหน ต่อไปด้วย