ราชบุรี ในวันนี้ (30 ส.ค. 65) นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง ได้พานางสาว เอ ซึ่งเป็นทหารในสังกัดกองทัพไทย ยศสิบตรี มาแจ้งความดำเนินคดีกับนายคมสิทธิ์ จังพานิช น้องชายของนักการเมืองชื่อดังในอำเภอโพธาราม จ.ราชบุรี และเป็นแฟนของ ส.ต.ท.(หญิง) กรศศิร์ บัวแย้ม หรือ เจ๊ นุช อายุ 43 ปี ตำแหน่งผู้บังคับหมู่ กองกำกับการ 4 กองบังคับการตำรวจสันติบาล 1 (ผบ.หมู่ กก.4 บก.ส.1) ที่ทำร้ายร่างกายนางสาว เอ ในข้อหาค้ามนุษย์ หลังได้ไปแจ้งความดำนินคดีในข้อหาร่วมกับเจ๊นุช ทำร้ายร่างกายที่สภ.ชะอำ จ.เพชรบุรี และสภ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันต์ แล้ว
โดย นาย กัน จอมพลัง ได้บอกว่า วันนี้นำหลักฐานมาให้พนักงานสอบสวนเพิ่ม ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นแชทไลน์ที่ผู้เสียหายคุยหับผู้ต้องหา เพื่อให้ดำเนินคดีกับน้องชายของนักการเมือง เนื่องจากในช่วงที่ผู้เสียหายออกจากการเป็นทหารแล้วน้องชายของนักการเมือง รับไปทำงานด้วย และตั้งแต่ที่ผู้เสียหายไปทำงานด้วยก็ไม่ได้รับเงินเดือน ซึ่งในเรื่องนี้หากใครที่เกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินคดีให้ถึงที่สุดทั้งหมด ซึ่งการยื่นพยานหลักฐานให้พนักงานสอบสวนถ้าเข้าข่ายค้ามนุษย์ก็จะดำเนินคดีค้ามนุษย์ โดยเข้าทำงานตั้งแต่เดือนพฤษภาคม จนถึงเดือนสิงหาคม โดยช่วงแรกให้ประมาณพันกว่าบาท แต่มาช่วงหลังไม่ได้ให้เพราะเขาอ้างว่าเราทำงานผิดพลาด ทั้งที่ตอนแรกตกลงให้ค่าจ้างวันละ 450 บาท ซึ่งแม้ว่าจะยังไม่ได้ค่าแรงแต่ก็ยังทำต่อเพราะช่วงนั้นลาออกจากทหารและหวังว่าจะได้รับค่าแรง และยังไม่แน่ใจว่าจะขาดออกจากอาชีพข้าราชการหรือยัง เพราะกำหนดเวลาในการลาออก จึงยังต้องดูแลเจ๊นุชอยู่ จนกว่าจะขาดออกจากราชการ ซึ่งก็เคยทวงถามเรื่องค่าแรง แต่ก็โดนบอกว่ายังทำงานผิดพลาดอยู่ โดยไปทำงานดูแลประสานงานกับลูกค้า นอกจากนี้ก็ยังต้องไปดูแลเจ๊นุช โดยการนวดเท้าให้นั่งเฝ้าจนหลับด้วย ซึ่งก็ยอมรับว่าตอนนี้หลายคนมองว่าเป็นเรื่องการเมือง ก็ขอยืนยันว่า ตนไม่มีพรรคการเมืองทำเรื่องแบบนี้มาเป็นปี ๆ แล้ว ซึ่งในเคสของน้อง เอ นั้นก็พูดตั้งแรกแล้วว่า จะช่วยน้องให้ถึงที่สุด ถ้าผมทิ้งน้องเพราะผมกลัวเรื่องใด ๆ ก็แล้วแต่ ก็ไม่ต่างจากสุนัขตัวหนึ่ง ผมจะไม่ทิ้งอุดมการณ์ของตัวเอง ซึ่งในเรื่องนี้ถ้าไม่มีคนช่วยป่านนี้เรื่องนี้ก็คงจะเงียบไปแล้ว ส่วนเรื่องที่ยังไม่มีการเปิดชื่องของสว. มองว่าในเรื่องนี้เป็นเรื่องตลกมาก เพราะหลายคนคงเห็นภาพในโซเซียลแล้ว พวกท่านไม่รู้เหรอว่า สว. คนนั้นเป็นใคร ทั้งที่ฝากคนเข้ารับราชการทหาร ชาวบ้านยังแคลงใจเรื่องว่าท่าไม่รู้ว่าเหรอว่าเป็นใคร และถ้าตนเองพูดชื่อไปแล้วจะไม่ฟ้องปิดปาก ก็จะพูดให้รู้เลยว่าใคร
ด้านนางสาวเ อ ก็บอกว่าหลังผู้ต้องหาได้รับการประกันตัว ก็รู้สึกกังวลใจ เพราะตอนนี้รู้สึกเหมือนตนเองเป็นมดที่เงยหน้ามองตึกที่สูงใหญ่ไม่รู้ว่าข้ามตึกสูงไปได้อย่างไร ต้องขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจเพราะตอนนี้รู้สึกว่ากำลังหวาดกลัว หรือกำลังท้อ ทุกครั้งที่หันมาก็จะได้กำลังจากทุกคน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: