ราชบุรี ในวันนี้( 14 ก.ย.65) มีผู้ใช้เฟสบุ๊คชื่อ Ying Yingg ได้โพสต์ข้อความ พร้อมด้วยภาพความเสียหายจากรถยนต์กระบะที่พุ่งชนร้านจนพังเสียหายยับเยินแล้วหนีหายลอยนวล ผ่านกลุ่ม ข่าวสารบางแพ ราชบุรี พร้อมระบุข้อความว่า “ขออนุญาติแอดมินค่ะ #ตามหาเจ้าของไฟท้ายค่ะ รบกวนมารับไฟท้ายคืนและกลับมารับผิดชอบด้วยค่ะ ใครทันเห็นเหตุการณ์หรือผ่านมาเห็นพอดี รบกวนติดต่อมาให้เบาะแสหน่อยนะคะ #ชนแล้วหนี #ร้านพัง ได้เวลาเกิดเหตุมาแล้วค่ะ 00.58 น. มาถึงร้านก็สภาพนี้แล้ว
ภายหลังได้มีการออกมาเผย โดยพลเมืองดีได้นำคลิปออกมาเผยแพร่เพื่อเป็นหลักฐานเพื่อยืนยันว่า มีรถยนต์กระบะพุ่งเข้าชนร้านก่อนจะซิ่งหนีหาย โดยคลิปถูกบันทึกเมื่อ เมื่อเวลา 00.58 น. ของวันที่ 14 กันยายน 2565 เหตุเกินริมถนนสายสมุทรสงคราม-บางแพ ตรงข้ามกับที่ทำการไปรษณีย์อำเภอบางแพ จ.ราชบุรี เป็น รถยนต์กระบะสีบรอนซ์เงินตอนครึ่ง ขับขี่มาด้วยความเร็ว พอมาถึงยังจุดเกิดเหตุซึ่งเลยจากโค้งไปที่ว่าการอำเภอบางแพ 200 เมตร เสียหลักหลุดถนนก่อนจะหมุดกลับเอาด้านข้างรถฝั่งคนขับเข้าไปปกวาดร้านค้าริมทางจนได้รับความเสียหาย จากนั้นรถยนต์คันดังกล่าวได้ถอยหลังและกลับรถยนต์โดยไม่มีการลงมาดูและรีบเร่งขับหนีออกไปอย่างรวดเร็ว
ผู้สื่อข่าวจึงได้ติดต่อไปยังเจ้าของโพสต์ดังกล่าว และเดินทางไปยังที่เกิดเหตุ พบเป็นร้านอาหารแบบเพิงหมาแหงน ชื่อ “ร้านสุดนัว ชาตินี้ต้องลอง” จำหน่ายอาหารตามสั่ง ส้มตำ อาหารประเภทยำ และอาหารอีสาน ตั้งอยู่ริมถนนสายสมุทรสงคราม-บางแพ หมู่ที่ 5 ต.วังเย็น อ.บางแพ จ.ราชบุรี ทราบชื่อผู้เสียหายคือ นางพหุพัณณ์ รูปขจร อายุ 45 ปี เป็นชาวกรุงเทพมหานคร พร้อมพาผู้สื่อข่าวไปดูสภาพความเสียหายและล่องรอยของรถที่พุ่งเข้ามาชนร้านจนเสียหาย โดยพบว่าที่พื้นถนนมีรอยล้อรถเป็นทางจากพื้นถนนเข้าไปถึงภายในร้าน โดยที่ร้านมีสภาพพังเสียหายทั้งหมด เสาค้ำหลังคาบิดงอหลุดจากพื้นทั้ง 2 ต้น หน้าร้าน และ สิ่งของ โต๊ะอาหาร เครื่องครัวสำหรับประกอบอาหาร และจานชาม โครงเหล็กหลังคาหน้าร้าน แตกหักบิดงอ เสียหายทั้งหมดไม่เหลือชิ้นดี นอกจากนี้ยังพบไฟท้ายของรถยนต์กระบะหลุดตกไว้ 1 อัน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน
ซึ่งนางพหุพัณณ์ รูปขจร เล่าว่า ตนมาเปิดร้านแห่งนี้ได้เกือบ 9 เดือนเศษ แล้ว และไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ ซึ่งก่อนเกิดเหตุเป็นวันหยุดร้าน ไม่ได้เปิดขาย โดยเมื่อช่วงค่ำของวานนี้ (13 ก.ย.65) ตนได้นำน้ำแข็งมาแช่ของสดที่ร้านตามปกติ ก็ไม่มีอะไรผิดสังเกตุหรือมีลางบอกเหตุใดๆ จนกระทั่งเมื่อเวลา 04.30 น. มีคนที่คอยดูแลร้านได้โทรมาหาตนให้ตนรีบมาที่ร้านบอกว่ามีรถเข้ามาชนร้านเสียหาย ตนจึงเรีบมาดูพบว่าร้านถูกรถชนพังเสียหายข้าวของแตกกระจายเกลื่อน ไม่มีเหลือชิ้นดีหรือสามารถนำมาใช้ได้เลย พอเดินตรวจสอบสภาพในร้านก็พบแต่เพียงร่องรอยของรถยนต์ที่พุ่งเข้ามาเท่านั้น และยังพบไฟท้ายตกอยู่ 1 ชิ้น
จากนั้นช่วงสายของวันเดียวกันน้องสาวได้มาบอกกับตนว่ามีพลเมืองดีส่งคลิปมาให้ เมื่อเปิดดูพบว่าเป็นรถยนต์กระบะสีบรอนซ์เงินตอนครึ่งเสียหลักพุ่งเข้ามาชนแถมยังไม่ลงมาดูความเสียหายหรือแจ้งเจ้าหน้าที่แต่อย่างไรแต่กลับซิ่งรถหนีหายไป ตนจึงฝากน้องสาวโพสต์ลงในกลุ่มเฟชบุ๊กดังกล่าว เพื่อตามหาเจ้าของรถคันดังกล่าวเพื่อกลับมารับผิดชอบต่อความเสียหายดังกล่าว
แต่เบื้องต้นตนได้ไปแจ้งความที่ สภ.บางแพ เพื่อติดตามตัวผู้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าวมา พูดคุยตกลงค่าเสียหาย และดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มาเก็บรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุ และ ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางเพื่อตรวจสอบรถยนต์คันดังกล่าวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
